EVENT

UNLOCKMEN พาส่อง 12 สังเวียนที่จะถูกใช้ฟาดแข้งในศึกฟุตบอลโลก 2018 ในประเทศรัสเซีย

By: Thada June 16, 2018

อีกหนึ่งสีสันฟุตบอลโลกคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสนามฟุตบอล ที่แม้ว่า Russia จะเป็นประเทศที่ใหญ่โตและมีประวัติศาสตร์ด้านฟุตบอลมาพอสมควร แต่ทว่าการจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกได้นั้น ปัจจัยสำคัญคือสนามฟุตบอลจะต้องมีความพร้อมเพียงรองรับการแข่งขันที่จะฟาดแข้งกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาทั้งหมด 1 เดือน และกว่า 65 แมทช์ ได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN จะไปส่องสนามทั้ง 12 แห่งที่ถูกเลือกมาใช้เป็นสังเวียนในครั้งนี้ 

Luzhiniki Stadium – Moscow

Luzhniki Stadium หรืออีกชื่อว่า Central Lenin Stadium จัดเป็นสนามที่เก่าแก่ที่สุดในสมรภูมิฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากถูกสร้างขึ้นในปี 1955 โดยความขลังของสนามนี้นอกเหนือจากจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด 7 แมทช์ รวมถึงนัดเปิดสนามและชิงชนะเลิศแล้ว ยังเคยถูกใช้เป็นสนามจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย โดยความจุของสนามอยู่ที่ราว ๆ 80,000 ที่นั่ง เรียกได้ว่าเป็นสนามไฮไลท์ของมหกรรมฟุตบอลโลกหนนี้

Saint Petersburg Stadium – Saint Petersburg

สำหรับสนาม Saint Petersburg ถูกสร้างปรับปรุงขึ้นมาใหม่จากสนาม Kirov เดิม โดยความเจ๋งคือสนามนี้ได้สถาปนิกชาวญี่ปุ่นอย่าง Kisho Kurokawa มาช่วยในการออกแบบ เนื่องจากต้องการให้ออกมาเหมือนกับ Toyota Stadium ที่นาย Kisho เคยสร้างเอาไว้ สนาม Saint Petersburg แล้วเสร็จเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งความจุของสนามสามารถรองรับผู้ชมได้สูงถึง 67,000  คน สูงสุดเป็นอันดับสองของฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด 7 แมทช์ด้วยกัน

Fisht Stadium – Sochi

เป็นอีกหนึ่งสนามที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรอบรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2013 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสโมสรใดได้รับกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของสนามแห่งนี้ โดยก่อนบอลโลกจะเริ่มขึ้น มีการสั่งปรับปรุงเพิ่มความจุของสนามให้ใหญ่ขึ้น จนปัจจุบันสนาม Fisht Olympic Stadium รองรับผู้ชมได้ถึง 48,000 คนตามมาตราฐาน FIFA และจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด  6 แมทช์ด้วยกัน 

Ekaterinburg Arena – Ekaterinburg

สนามกีฬา Ekaterinburg Arena หรือที่ชาว Russia เรียกกันว่า Central Stadium เนื่องจากถูกใช้ในการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท ตั้งแต่ยิมนาสติกรวมถึงไอซ์สเกต ซึ่งสนามนี้เกือบไม่ได้รับเลือกให้ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก เนื่องจากไม่เข้าหลักมาตราฐานของ FIFA ทว่าสุดท้าย Russia ก็ได้ปรับปรุงโครงสร้างสนามให้จนได้ความจุ 45,000 ที่นั่ง และเพียงพอต่อการใช้แข่งขันในทัวร์นาเมนต์นนี้ทั้งหมด  4 แมทช์ด้วยกัน

Kazan Arena – Kazan

แฟนฟุตบอลน่าจะพอคุ้นชื่อสนามนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นสนามเหย้าของสโมสร  Rubin Kazan สโมสรชั้นนำของประเทศ Russia โดยสนามแห่งนี้ถูกใช้สำหรับจัดแข่งขันฟุตบอลแมทช์สำคัญมานับครั้งไม่ถ้วน จึงไมน่าแปลกใจด้วยความจุ 45,000 ที่นั่ง จะถูกรับเลือกให้ใช้แข่งขันทั้งหมด  6 แมทช์ในฟุตบอลโลกหนนี้

Nizhny Novgorod Stadium – Nizhny Novgorod

สนาม Nizhny Novgorod ได้ถูกรับรองให้เป็น 1 ใน 12 สังเวียนของฟุตบอลโลกครั้งนี้เมื่อปี 2012 ซึ่งตอนนั้นเองยังไม่มีตัวสนามจริงเลยด้วยซ้ำ เพราะกว่าที่สนามจะสร้างเสร็จพร้อมเปิดใช้งาน เพิ่งจะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง ด้วยความที่เป็นสนามใหม่สามารถรองรับความจุ 45,000 ที่นั่ง ทำให้สนาม Nizhny Novgorod ถูกใช้แข่งขันทั้งหมด  6 แมทช์ 

Rostov Arena – Rostov-on-Don

เป็นอีกหนึ่งสนามที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 โดยเฉพาะ แต่ทว่าเหตุการณ์เกิดล่าช้า เพราะความจุ 45,000 ที่นั่ง ซึ่งจะมีการปรับปรุงลดให้เหลือเพียง 25,000 ที่นั่งหลังจากจบทัวร์นาเมนต์นี้ โดย Rostov Arena จะถูกใช้เป็นสังเวียนแข่งขันทั้งหมด 5 แมทช์ 

Samara Arena – Samara

แต่เดิมสนามแห่งนี้มีชื่อว่า Metallurg Stadium แต่ถูกปรับปรุงใหม่หลังจากที่ Russia ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก สำหรับแผนดำเนินการปรังปรุงเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี 2014  และล่าช้าจนกระทั่งมาเสร็จสิ้นในเมื่อต้นปีนี้เอง โดยจุดเด่นของสนามแห่งนี้คือหลังคาโดมขนาดสูง ทำให้สนามขยายกว้างสามารถจุคนได้ราว ๆ 45,000 คน และจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด 6 แมทช์  

Mordovia Arena – Saransk

สนาม Mordovia Arena เป็นแผนการของรัฐบาล Russia ที่ต้องการจะสร้างออกมาเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยถูกสร้างขึ้นก่อนที่ประเทศ Russia จะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพเสียอีก แต่ทว่าเนื่องจากขาดเงินกองทุนอย่างหนัก ทำให้โปรเจคต์สนาม Mordovia Arena จึงถูกชะลอออกไป จนสุดท้ายกินเวลากว่า 8 ปี และเพิ่งสนามเสร็จพร้อมเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านเท่านั้น โดยความจุของสนามอยู่ที่  45,000 ที่นั่ง ซึ่งจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด  4 แมทช์ 

Volgograd Stadium – Volgograd  

เป็นหนึ่งในสนามที่สวยที่สุดในสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากเป็นสนามใหม่แกะกล่องเพิ่งมีการปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งความจุของสนามในปัจจุบันคือ 45,000  ที่นั่ง เนื่องจากมีสองโซนที่นั่ง พร้อมวิวแม่น้ำสุดหรูหรา แต่ทว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะหลังจากจบศึกฟุตบอลโลกจะมีการปรับลดขนาดให้เหลือเพียง 35,000 เท่านั้น สำหรับสนาม Volgograd จะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด  4 แมทช์เท่านั้น 

Spartak Stadium – Moscow

ถือเป็นสนามอาถรรพ์เนื่องจากมีแผนการสร้างตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 90 แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของ Russia ในเวลานั้น ถือว่าค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้แผนการสร้างถูกชะลอออกไป กระทั่งได้กลับมาสร้างใหม่จนแล้วเสร็จในปี 2014 ซึ่งสนาม Spartak Stadium ชื่อเดิมว่า Otkritie Stadium แต่เนื่องจากปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของยอดทีมดังอย่าง Spartak Moscow เลยมีการเปลี่ยนชื่อตาม สำหรับความจุของสนาม สามารถรองรับได้ 42,000 คน และจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด  5 แมทช์ด้วยกัน

Kaliningrad Stadium – Kaliningrad

รังเหย้าของสโมสร Baltika Kaliningrad โดยเป็นสนามที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อมหกรรมฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ซึ่งสนาม Kaliningrad Stadium ถือเป็นสนามที่มีความจุน้อยที่สุดในบรรดา 12 สนาม เพราะสามารถรองรับได้เพียง 35,212 คนเท่านั้น และเนื่องจากอยู่ในเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลอย่าง Kaliningrad จึงถูกแข่งขันทั้งหมด  4 แมทช์เพียงเท่านั้น

ถือเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่หนุ่ม ๆ อย่างเรารู้ไว้ไม่เสียหลาย การรู้ที่มาที่ไปของสังเวียนฟาดแข้งแล้วก็จะทำให้การชมแมทช์ต่าง ๆ ในฟุตบอลโลกหนนี้มีอรรถรสมากขึ้น คงจะสนุกไม่เบาถ้าเราวิเคราะห์เกมกับเพื่อน ๆ ได้ พร้อมกับแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจเหลานี้สู่กันฟัง ส่วนใครที่ได้ไปเหยียบถึงที่ก็ถือประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว ขอให้ทุกคนดูบอลให้มันส์ การพนันไม่ยุ่งนะครับ

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line