ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับฟุตบอลโลกปี 2022 ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะจัดขึ้นในดินแดนย่านตะวันออกกลาง ประเทศกาตาร์ มีทีมชาติที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาทั้งหมด 32 ทีมเช่นเดิม นำโดยขาประจำอย่างบราซิล, อาร์เจนตินา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอีกมากมาย แต่ที่ขาดไปคือทีมชาติอิตาลี ที่กระเด็นตกรอบคัดเลือกไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับเกมแรกของฟุตบอลโลกในครั้งนี้จะเริ่มต้นนัดแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2022 เป็นการพบกันระหว่างกาตาร์ปะทะเอกวาดอร์ ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2022 ณ สนาม Lusail Iconic Stadium ที่สามารถจุคนดูได้ถึง 80,000 ที่นั่ง แต่ก่อนจะได้ไปสนุกกับมหกรรมกีฬาที่ทั่วโลกรอคอย ทาง Unlockmen ขอเรียกน้ำย่อยด้วยการพาทุกคนย้อนไปสู่ฟุตบอลโลก ปี 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพจัดร่วมกัน ซึ่งฟุตบอลโลกในครั้งนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากมาย และเป็นเรื่องราวที่โลกลูกหนังไม่มีวันลืมได้ลงอย่างเด็ดขาด จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง เรานั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ ฝรั่งเศสตกรอบแรก / เซเนกัล ม้ามืดตัวจริง ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ทีมตราไก่ฝรั่งเศสถูกยกให้เป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 เนื่องจากศักดิ์ศรีของการเป็นแชมป์เก่าเมื่อปี 1998
แม้ว่าจะดูเงียบเหงาเสียเหลือเกินสำหรับมหกรรมฟุตบอลโลกหนนี้ และแม้กำลังจะเดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะเลิกสนใจมันไปแล้วด้วยซ้ำว่าใครจะได้เป็นแชมป์โลก ต้องยอมรับตามตรงว่าฟุตบอลที่รัสเซียถือว่าค่อนข้างกร่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแบรนด์กีฬาดังอย่าง adidas ยังคงเกาะกระแสด้วยการออกสินค้าใหม่ ๆ มายั่วน้ำลายผู้ชายที่หลงใหลในเรื่องของฟุตบอล แถมปัจจุบันยังเพิ่มทางเลือกทำดีไซน์ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น อย่างเช่นคอลเลคชั่นพิเศษล่าสุดที่เป็นการย้อนอดีตด้วยการนำรองเท้าสตั้ดในตำนานอย่าง Predator Accelerator สุดคลาสสิคสี Solar Yellow ซึ่งเคยผลิตขึ้นเมื่อปี 1998 นำกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง โดยความพิเศษคือจะมีเพียง 999 คู่ทั่วโลกเท่านั้น แถมพวกเขาได้นำไอคอนฟุตบอลแห่งยุคอย่าง Zinedine Zidane และ David Beckham สองอดีตดาวดังมาถ่ายโฆษณาเพื่อให้แฟนบอลรุ่นเก่า ๆ ได้หายคิดถึงกันอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ Predator Accelerator ที่ทาง adidas ได้นำกลับมาผลิตอีกครั้ง ยังเพิ่มไลน์สินค้าเป็นเวอร์ชั่นรองเท้าเทรนนิ่งเอาใจหนุ่ม ๆ สายแฟชั่น สามารถใส่ลำลองเท่ ๆ ได้อีกด้วย โดยยังคงใช้วัสดุหนังแท้บริเวณหน้าผ้าเพื่อความพรีเมี่ยม พร้อมใส่เทคโนโลยี BOOST ลงไปในส่วนของพื้นกลาง จนออกมาเป็นรองเท้าที่มีลักษณะหน้าตาเรโทรย้อนยุค แต่อัดแน่นไปด้วยความสะดวกสบายแบบสมัยใหม่ สำหรับรองเท้าฟุตบอล Predator Accelerator ราคาถือว่าเอาเรื่องทีเดียว โดยจะอยู่ที่ 13,000 บาท
อีกหนึ่งสีสันฟุตบอลโลกคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสนามฟุตบอล ที่แม้ว่า Russia จะเป็นประเทศที่ใหญ่โตและมีประวัติศาสตร์ด้านฟุตบอลมาพอสมควร แต่ทว่าการจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกได้นั้น ปัจจัยสำคัญคือสนามฟุตบอลจะต้องมีความพร้อมเพียงรองรับการแข่งขันที่จะฟาดแข้งกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาทั้งหมด 1 เดือน และกว่า 65 แมทช์ ได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN จะไปส่องสนามทั้ง 12 แห่งที่ถูกเลือกมาใช้เป็นสังเวียนในครั้งนี้ Luzhiniki Stadium – Moscow Luzhniki Stadium หรืออีกชื่อว่า Central Lenin Stadium จัดเป็นสนามที่เก่าแก่ที่สุดในสมรภูมิฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากถูกสร้างขึ้นในปี 1955 โดยความขลังของสนามนี้นอกเหนือจากจะถูกใช้แข่งขันทั้งหมด 7 แมทช์ รวมถึงนัดเปิดสนามและชิงชนะเลิศแล้ว ยังเคยถูกใช้เป็นสนามจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย โดยความจุของสนามอยู่ที่ราว ๆ 80,000 ที่นั่ง เรียกได้ว่าเป็นสนามไฮไลท์ของมหกรรมฟุตบอลโลกหนนี้ Saint Petersburg Stadium – Saint Petersburg สำหรับสนาม Saint Petersburg ถูกสร้างปรับปรุงขึ้นมาใหม่จากสนาม Kirov เดิม โดยความเจ๋งคือสนามนี้ได้สถาปนิกชาวญี่ปุ่นอย่าง Kisho Kurokawa
คงจะไม่มีกระแสอะไรที่ร้อนแรงไปกว่าฟุตบอลโลกเสียแล้ว ซึ่งแม้ในปีนี้ดูไม่ค่อยคึกคักเหมือนกับครั้งที่ผ่าน ๆ มา อาจเพราะประเด็นการเมือง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าเรื่องนอกสนามคือแฟชั่นฟุตบอลที่ต้องยอมรับเลยว่าชุดการแข่งขันของชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายล้วนดีไซน์ โดดเด่นสวยงามไม่ว่าจะเป็นของ Nigeria ที่กวาดรายได้ยอดขายเสื้อสูงสุดยิ่งกว่าสโมสรชั้นนำอย่าง Man Utd เสียอีก โดยหนุ่ม ๆ สามารถเข้าไปดูเสื้อ Jersey ทั้งหมดได้ที่คอนเท้นท์ (Link) ซึ่งเหมือนครั้งหนึ่งเราจะเคยบอกว่า อย่าพยายามใส่เสื้อกีฬาออกไปเที่ยวข้างนอก หากไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะคุณไม่ได้กำลังเตะฟุตบอลอยู่ ยิ่งใส่ไปเดทด้วยแล้ว ยิ่งน่าเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายไม่น่าปลื้ม แม้ว่าคุณเองจะรู้สึกว่าเสื้อทีมฟุตบอลตัวนั้นจะสวยแค่ไหนก็ตาม แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นเทศกาลฟุตบอลโลก เราเชื่อคุณอาจจะได้มีโอกาสใส่เสื้อไปเชียร์บอลตามร้านเหล้าบ้าง เพื่อสอดรับกับกระแสนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN เลยมานำเสนอเกร็ดวิธีการใส่เสื้อกีฬาสำหรับไลฟ์สไตล์ปกติเผื่อจะเป็นประโยชน์ เลือกเสื้อที่ทำให้คุณดูดี เราเข้าใจว่าหลายคนมีทีมที่ตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้อยู่แล้ว แต่เชื่อเราเถอะบางทีเสื้อทีมที่คุณชอบก็ไม่ได้มีดีไซน์คู่สีสวยงามเหมาะสวยเหมาะจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น Drake ที่เขาแค่มองหาเสื้อที่เขาคิดว่าเท่ อย่างเสื้อทีม Juventus สีชมพูสดใส มาใส่ ทั้งที่ Drake เองก็ไม่ใช่แฟน Juventus เลยสักนิดเดียว หรือถ้าเกิดสุดท้ายแล้วคุณคิดว่าไม่มีเสื้อทีมไหนที่สวยในสายตาคุณ บางทีอาจจะต้องไปพึ่งบริการแบรนด์ Streetwears ที่ทำคอลเลคชั่นเสื้อบอล อย่าง Supreme, Palace, Stussy,
นับต่อจากนี้เป็นเวลากว่า 1 เดือนเต็ม ที่มหกรรมฟุตบอลโลกจะอุบัติขึ้นบนประเทศ Russia ในวันที่ 14 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งแม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายก็ตาม แต่ด้วยความยิ่งใหญ่และเป็นมหกรรมกีฬาระดับโลก มีหรือที่หนุ่ม ๆ จะพลาดรับชมแมตช์กีฬาดังกล่าว เพราะแม้แต่คนที่ไม่ได้รู้เรื่องฟุตบอลยังต้องหันมาให้ความสนใจกับเทศกาลฟุตบอลโลกนี้เลย ด้วยดีกรีความสนุกมันส์อย่างบ้าคลั่งช่วงบอลโลก พาลเดือดร้อนถึงหนุ่ม ๆ คอฟุตบอลวัยทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดในทวีปยุโรป ซึ่งไทม์โซนต่างกับบ้านเราพอสมควร จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องเจอกับสถานการณ์นอนดึกตื่นเช้ามาทำงานตอกบัตรให้ทัน ซึ่งทีมงาน UNLOCKMEN เองก็คงประสบชะตากรรมที่ไม่แตกต่างกัน เราจึงได้ไปรวมรวบเคล็ดลับวิธีจัดการตัวเองในช่วง World Cup อย่างไรให้นอนดึกแล้วยังตื่นมาทำงานได้อย่างราบรื่น วิธีรับมือกับอาการง่วงจากการนอนดึกตื่นเช้า อัดวิตามินให้แน่น แน่นอนว่ามนุษย์ต้องการพักผ่อนและความง่วงคือปฎิกริยาตอบสนองของสมองเมื่อร่างกายต้องพัก ซึ่งคนเราไม่สามารถอดหลับอดนอนได้ แต่ถ้าเกิดมันหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างเช่นในช่วงบอลโลกเพราะต้องรอเชียร์ทีมโปรด แบบนี้ต้องจัดการอัดวิตามินต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยเสริม ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้สมองปลอดโปร่งสดใส ร่างกายสดชื่น โดยเราสามารถรับวิตามิน C ธรรมชาติได้จากผลไม้ หรือชนิดแคปซูลแปรรูปได้หมด ถ้าจะเอาให้ครบถ้วนต้องไม่ลืมวิตามิน B รวม และโปรตีนเม็ด ที่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ซึ่งอาจจะบกพร่องไปเนื่องจากการอดหลับอดนอนในช่วงเทศกาลบอลโลก ดื่มน้ำเยอะ ๆ น้ำยังคงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในร่างกายเสมอ หากต้องอดนอนแล้วร่างกายไม่สดใสในยามเช้า ลองดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังตื่นนอน
แทบจะเป็นธรรมเนียมของฟุตบอลโลกไปเสียแล้ว จนเหมือนเป็นเทศกาลซีซั่นของบรรดาแบรนด์กีฬา ที่ต่างพาเหรดงัดไม้เด็ดดีไซน์ใหม่ ๆ ออกมาวาดลวดลายบนรองเท้าคอลเลคชั่นพิเศษ เพื่อรองรับรองมหกรรมกีฬาที่มีพลังยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง World Cup แน่นอนว่าในฟุตบอลโลกคราวนี้ ไม่ได้มีเพียง Nike และ adidas อีกต่อไปที่จะมาสร้างสีสันบนรองเท้าในสนามหญ้า เพราะแบรนด์อย่าง New Balance, Under Armour รวมถึง Puma เอง ก็นำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ จนทำให้ในวันนี้ UNLOCKMEN หยิบจับรองเท้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวใน World Cup 2018 เวอร์ชั่นหมีขาวมานำเสนอกัน Lionel Messi นักฟุตบอลที่มีพรสววรค์สูงสุดของยุคโมเดิร์นฟุตบอล จนใครหลายคนต่างคิดว่าเขาคือมนุษย์ต่างดาว แต่น่าเสียดายว่าบอลโลกในหนนี้น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ Messi กับสังเวียนฟุตบอลระดับนานาชาติ โดยแน่นอนว่า Messi คือเบอร์หนึ่งสำหรับแบรนด์ adidas ที่จะได้อภิสิทธิ์รองเท้ารุ่นพิเศษสำหรับเขาเพียงคนเดียว นั่นคือโมเดล adidas Messi Nemeziz 18 ที่จะเป็นสีเขียวโซล่า บนโลโก้ 3 Stripe สีดำ
ฟุตบอลโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ คงเป็นกระแสที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาคอยกว่า 4 ปี แต่ไม่ใช่แค่การแข่งขันฟุตบอลเท่านั้นที่หลายคนจับตามอง ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เป็นเหมือนสีสันของงานก็เป็นส่วนสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น นักเตะตัวจี๊ดจากแต่ละประเทศ ประเทศเจ้าภาพ ส่วนไฮไลต์ในประเทศไทยก็คงไม่พ้นการทายผลบอลโลกผ่านทางไปรษณียบัตรกับทางไปรษณีย์ไทย ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงมีเหมือนในทุกปี สามารถส่งไปรษณีย์บัตรทายผลได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 2561 อีกสิ่งที่เป็นไฮไลต์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือเพลงประจำ World Cup ปีนั้น ๆ ซึ่งหลายเพลงของ World Cup ได้ดังพลุแตกจนกลายเป็นเพลงระดับตำนานไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น “We Are the Champions”, “The Cup of Life”, “Waka Waka” ที่ได้ยินเมื่อไหร่เป็นต้องร้องตามกันได้ทุกคน แม้ World Cup จะจบลง แต่กระแสของเพลงก็ยังไม่จบ และยังคงเสน่ห์ข้ามกาลเวลามาจนถึงตอนนี้ UNLOCKMEN ขอชวนหนุ่ม ๆ มาฟังเพลง World Cup ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อม Fact น่ารู้เล็กน้อย เอาไว้เล่าให้เพื่อนฟังกันแบบเซียน ๆ และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเทศกาลบอลโลก We Are the