เผย 4 แนวทางรับมือ เมื่อมีเจ้านายเป็นเฟรนด์ใน Facebook

เคยไหมครับที่ต้องกดดันเวลาเจ้านายแอ้ดเฟซบุ้คมาขอเป็นเพื่อน เชื่อว่าถ้าเลือกได้เป็นใครก็ไม่อยากกดรับกันหรอกครับ เพราะว่าเมื่อกดรับแล้ว ชีวิตจะต้องตกอยู่ภายใต้พลังงานอะไรบางอย่างที่เราก็ไม่สามารถอธิบายได้ จะบอกว่าระแวงก็ไม่ใช่ จะบอกว่าอึดอัดก็ไม่เชิง เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์บังคับที่ทุกคนต้องเผชิญกันอยู่แล้ว เพราะการที่เราเดินหมากพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว อาจทำให้ภาพลักษณ์ของลูกจ้างตัวน้อยๆ แบบพวกเรา ต้องเปลี่ยนผันไปในสายตาเจ้านายอันเป็นที่รักตลอดกาล

ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN ขอเอาใจเหล่าบรรดาชาวลูกจ้างทั้งหลาย กับ 4 แนวทางปฏิบัติเมื่อมีแอคเค้าท์เจ้านายเป็นเฟรนด์ในเฟซบุ้ค มาดูกันดีกว่าครับ ว่า 4 ข้อที่ว่านี้มีอะไรกันบ้าง

1. ห้ามโพสต์ว่าเหนื่อยงาน

มาถึงข้อแรกกันก่อนเลย อาจจะดูว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะครับ แต่อยากจะบอกว่าเรื่องนี้สำคัญมาก การที่จะบ่นอะไรเล่นๆ บนเฟซบุ้คแบบนี้ต้องคอยระวังตัวมากขึ้น เพราะถ้าโพสต์อะไรไม่คิดลงไป อาจจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักหน้าที่การงานขึ้นมาทันที ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ โดยทั่วไปแล้วใครๆ ก็ต้องการพนักงานที่มีความขยัน มีคุณภาพกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแนะนำให้อย่าโพสต์ในเฟซบุ้ค ให้ไปโพสต์ในไอจีแทนครับ แบบนี้เจ้านายไม่เห็นแน่นอน นอกจากได้ระบายแล้วยังรู้สึกอุ่นใจ

2. คิดจะโพสต์รูปต้องดูสถานการณ์ให้ดี

เหมือนจะไม่เกี่ยวใช่ไหมครับ ความจริงการโพสต์รูปอะไรที่ถือเป็นอิสระของเจ้าของเฟซบุ้คนั้นๆ แต่เชื่อไหมครับ ถ้าเราลงรูปอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังก็อาจทำให้เสียภาพลักษณ์และปัญหาตามมาได้ สมมุติเช่นคุณเกิดตื่นสายแล้วออกจากบ้านมาแล้วรถติด แล้วคุณอัพรูปขึ้นเฟซบุ้คว่ารถติดจังตอนแปดโมงกว่า ซึ่งสถานที่ยังเป็นใกล้บ้านอยู่เลยทั้งๆที่จะถึงเวลาเข้างานแล้ว เห็นไหมครับ อย่างนี้ก็อาจจะทำให้คุณเสียเครดิตได้ ทางที่ดีคือให้เตรียมรูปรถติด ไว้ในเครื่องเลยครับ พอรู้ว่าตื่นสายปุ้บให้อัพลงเลย แม้เราจะไปถึงออฟฟิศสายก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราออกจากบ้านมานานแล้วนั่นเอง

3. กดไลค์อะไรต้องระวัง

บนเฟซบุ้คการที่คนจะกดไลค์อะไรลงไปมักขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ไลค์ แล้วไม่ว่าเราจะกดไลค์อะไรก็ตามแต่ ทุกอย่างจะถูกแชร์ขึ้นหน้า feed update ทันที ดังนั้นการกดไลค์ก็ถือเป็นการแสดงตัวตนของเราให้คนอื่นเห็นด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่คิดจะไลค์อะไร เราต้องคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน คอนเทนท์ที่เราแนะนำให้ไลค์แนะนำให้เป็นพวกคอนเทนท์ทางด้านความคิด จิตวิทยา เพราะไลค์แล้วจะดูฉลาดมากๆ ดูเป็นคนมีความคิด ไฝ่หาความรู้เพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาแต่สิ่งที่ต้องไลค์มากที่สุดที่เราแนะนำคือสเตตัสเจ้านายครับ

4. ระวังเรื่อง tag ให้เนียน

มาถึงข้อสุดท้ายกันแล้ว ข้อนี้ถือเป็นข้อสำคัญที่สุด สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งของการทำงานคือการถูกมองว่าพูดไม่เป็นคำพูดครับ และสิ่งที่สะพรึงกลัวที่เฟซบุ้คมอบให้แก่เราคือการถูก tag ครับ ลองจินตนาการดูครับว่าถ้าคุณบอกเจ้านายว่ามีธุระสำคัญต้องไปจัดการ หรือว่างานยังไม่เสร็จ แต่ดันถูกเพื่อนที่ไม่รู้งาน tag เราเข้าให้หน้าเฟซบุ้ค ไม่ว่าจะเป็นการออกไปปาร์ตี้หรือออกไปช็อปปิ้ง บอกได้คำเดียวว่างานเข้าครับ หนทางป้องกันที่นอกจากจะต้องนัดแนะกันให้ดี เรายังสามารถลดความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นได้โดยการเข้าไปตั้งค่าในเฟซบุ้คว่าต้องให้เรากดอนุญาติรับรอง tag ก่อน เท่านี้เราก็ก็สามารถออกไปเที่ยวแบบสบายใจได้แล้วครับ ลุย

เห็นไหมครับว่าปัจจุบัน ปัจจัยทางด้านโซเชี่ยลก็มีส่วนส่งผลต่อภาพลักษณ์ในอาชีพการงานของเราด้วย ดังนั้นเราต้องรับมือกับมันให้ได้ แต่อย่าลืมไปว่าบางทีก็ต้องคอยบาลานซ์ให้อยู่ในความพอดีนะครับ เรียกได้ว่าเอาไปปรับใช้ได้ แต่ถ้าวันนึงโดนจับได้แล้วโดนลอยแพขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมันนะครับเราแบบนี้