

CARS
ASTON MARTIN 12 SPEEDSTER ซูเปอร์คาร์รุ่นไร้หลังคา อัตราเร่งแรง 0-100 ใน 3.5 วินาที
By: unlockmen March 14, 2020 178732
สำหรับหนุ่มที่หลงใหลในรถยนต์ ปีนี้คงเป็นช่วงที่ทุกคนเพลิดเพลินเป็นพิเศษเพราะมีรถดีไซน์ล้ำ สายพันธุ์แรงจากหลายแบรนด์ถูกปล่อยออกมาให้ชื่นชมความสวยงามกัน และหนึ่งในรถยนต์สุดว้าวที่เราเชื่อว่าหล่อเท่เตะตาใครหลายต่อหลายคน ต้องขอยกให้ยนตรกรรมไร้หลังคาคันใหม่จาก Aston Martin ที่มีชื่อว่า V12 Speedster
Aston martin
ไม่รู้ว่ารถยนต์ไม่มีหลังคาเป็นเทรนแห่งอนาคตหรือเป็นรถอีกรูปแบบหนึ่งที่ค่ายต่าง ๆ นัดทำรุ่นพิเศษออกมาประชันกันโดย เพราะก่อนหน้านี้มีรถสไตล์คล้ายกันจากค่ายรถอื่น ๆ เปิดตัวออกมาไม่ว่าจะเป็น Ferrari Monza SP1-SP2, Bentley Mulliner Bacalar และ McLaren Elva ซึ่งทาง Aston Martin เองก็ไม่รอช้าให้ตัวเองเป็นแบรนด์ตกยุคด้วยการปล่อยโมเดล V12 Speedster ตามออกมาติด ๆ
Aston martin
V12 Speedster สร้างและพัฒนาโดย Q แผนกสร้างสรรค์รถ Bespoke ของ Aston Martin ใช้แรงบันดาลใจจากโมเดล DBR1 ผู้ชนะการแข่งขัน 24 Hours Le mans ในปี 1959 และ Aston Martin CC100 รถยนต์คอนเซ็ปต์ Speedster ในปี 2013
ทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงในแพลตฟอร์มที่ผสมรวมระหว่าง Aston martin DBS Superleggera และ Vantage ซึ่งควบคุมงานดีไซน์โดย Miles Nurnberger ผู้อำนวยการแผนกออกแบบที่ใส่แรงบันดาลใจของเครื่องบินเจ็ตอย่าง F/A-18 Super Hornet ลงไปด้วย
Aston martin
จนออกมาเป็นรถยนต์ 2 ที่นั่งแบบไร้หลังคา ด้านหน้ามีช่องอากาศขนาดใหญ่ 1 ช่องตามสไตล์ของ Aston Martin ไฟหน้าเป็นแบบฝังลงไปในตัวรถ ส่วนของฝากระโปรงเชื่อมต่อกับคานที่ตัดผ่านกลางตัวรถเป็นโครงสร้างที่เหมือนกับ Ferrari Monza พร้อมแดมเปอร์เบรก Carbon-Ceramic ที่ให้มาเป็นมาตรฐาน
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราด้วยการใช้วัสดุโครเมียมอลูมิเนียม รวมไปถึงยางที่พิมพ์แบบ 3 มิติ ทั้งหมดคุมโทนด้วยพรมสีดำและตกแต่งด้วยสีแดง
Aston martin
ทางด้านขุมพลัง V12 Speedster มากับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 5.2 ลิตร Twin-Turbo ให้พลัง 700 แรงม้าและแรงบิดที่ 663 ปอนด์-ฟุต ทำงานร่วมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8-Speed แต่โครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา ทำให้มันมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 299 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Aston martin
ยนตรกรรมคันนี้ถือเป็นที่สุดแห่งความแรร์แน่นอนเพราะ Aston Martin มีแผนจะผลิต V12 Speedster ออกมาเพียง 88 คันทั่วโลก โดยมีค่าตัวที่อยู่ 950,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 30,000,000 ล้านบาทและอนุญาตให้ใช้งานบนสนามแข่งแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
สำหรับหนุ่ม ๆ ชื่นชอบความสวยงามของรถยนต์ Limited Edition ล้ำ ๆ ในปีนี้รอชมกันว่าจะมีรถยนต์จากค่ายไหนถูกปล่อยออกมาอีก ซึ่งถ้ามีรุ่นเจ๋ง ๆ เปิดตัวมาเราจะรีบหยิบมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันเพิ่มเติมอีกแน่นอน
Aston martin