Swatch Group เปิดตัวปีใหม่อย่างดุดันด้วย Scuba Fifty Collection ล่าสุด เป็น Blancpain X Swatch รุ่นที่ 6 “Ocean of Storms” ในโทนสีดำ ตัวเรือน black bioceramic case ผิว satin-finished ขนาด 42.3mm x 14.4mm x 48mm (lug-to-lug) หน้าปัดดำตัดกับ markers และ hands สีขาว รวมถึงเส้นนาทีบนขอบได้อย่างลงตัว เพิ่มรายละเอียดด้วยตัวเลขกันน้ำลึก 91 เมตรสีส้ม และยังคงใช้สาย NATO-style เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ใน collection เดียวกัน ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ เพราะเดิมเราเข้าใจว่า Scuba Fifty น่าจะมีแค่ 5 รุ่นตามชื่อ Ocean ซึ่งมีเพียง
นับเป็นเวลากว่า 55 ปีที่ SEIKO 5 SPORTS ได้ส่งมอบความน่าเชื่อถือ, ความทนทาน, ประสิทธิภาพ รวมถึงมาตรฐานระดับสูง ให้แก่ผู้นิยมนาฬิกากลไกมาแล้วทั่วโลก และยังคงเดินหน้าพัฒนานาฬิกาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด SEIKO 5 SPORTS FIELD ซีรีส์ยอดฮิตสำหรับแฟน ๆ เรือนเวลาสายลุย แนว ‘Trench Watch’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘นาฬิกาทหาร’ ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์คล่องแคล่ว แข็งแกร่ง และการบอกเวลาที่แม่นยำ ได้อัพเกรดความสามารถใหม่ในคอลเลกชัน SEIKO 5 SPORTS FIELD GMT ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ FIELD series ที่ได้มีการหยิบฟังก์ชันเข็มบอกเวลาที่ 2 หรือ GMT มาใช้ เพื่อเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับเหล่านักเดินทางชีพจรลงเท้าทุกท่าน ความโดดเด่นที่ถือเป็นไฮไลต์ของนาฬิการะบบอัตโนมัติ SEIKO 5 SPORTS FIELD GMT ขนาด 39.4 มม. เรือนนี้ คือเข็ม GMT
ย้อนไปในปี 2013 เป็นปีที่นาฬิกา Constant Escapement L.M. หนึ่งใน Collection Bridges จาก Girard-Perregaux ได้อวดสายตาแก่ชาวโลก พร้อมเสียงตอบรับที่ดีมากมาย ทำให้สามารถคว้ารางวัล ‘Aiguille D’Or’ ของงาน GPHG (Grand Prix d’Horlogerie de Genève) ได้ในปีเดียวกัน ด้วยจุดเด่นของ Constant Force Escapement ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยจัดการพลังงานได้อย่างลื่นไหล สร้างความเสถียรแม่นยำให้กับอัตราการเดินอย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจของ Constant Girard ช่างทำนาฬิกาชาวสวิสผู้อุทิศชีวิตให้กับความก้าวหน้าของโครโนมิเตอร์ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 กับการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายในภารกิจการพัฒนาโครโนมิเตอร์ ได้มีการสร้างนาฬิกาพกที่มีความแม่นยำสูงหลายเรือนพร้อมกลไก Tourbillon ความเป็นเลิศของนาฬิกาเหล่านี้ได้รับการพัฒนาจนได้รับรางวัลมากมาย ในปี 1860 เขาได้ร่างภาพการออกแบบกลไกด้วยสะพานจักรกลที่ขนานกันสามแห่ง ซึ่งนาฬิกาพกนี้เปิดตัวในปี 1867 โดยสะพานจักรกลทั้ง 3 ชิ้นผลิตจากเงินนิกเกิล และได้รับรางวัลอันดับหนึ่งจากหอดูดาว Neuchâtel ในปีเดียวกัน ก่อนที่ในปี 1889 ได้มีการพัฒนาสะพานจักรกลทั้งสามส่วนโดยใช้วัสดุเป็นทองคำ เพื่อเอกลักษณ์ความงดงามมากขึ้น
“Dream Project #2” Ref. G-D001 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธีมการพัฒนาที่มีชื่อว่า “BREAK THE BOUNDARY” โปรเจ็กต์ใหม่นี้เดินตามรอย Dream Project ก่อนหน้านี้ที่เป็นที่ระลึกการครบรอบ 35 ปีของ G-SHOCK ออกแบบโดยใช้ AI เข้ามาช่วยปรับแต่งดีไซน์ภายนอก ตัวเรือน กรอบ และสายใช้วัสดุทอง 18K ผ่านการขัดเงาด้วยมืออย่างละเอียดและพิถีถันโดยช่างฝีมือชั้นเลิศ ซึ่งลงลึกไปถึงจุดที่ยากต่อการเข้าถึงทำให้ส่วนประกอบมีความเงางามอย่างน่าเหลือเชื่อ การออกแบบดีไซน์แบบ Generative ที่ใช้ประโยชน์จาก AI ถูกนำมาใช้กับกระบวนการออกแบบภายนอก ข้อมูลที่สะสมมานานกว่า 40 ของการพัฒนา G-SHOCK ที่อ้างอิงตามกรอบการออกแบบที่สร้างสรรค์โดยมนุษย์ ได้รับการป้อนเข้าสู่ระบบ AI เพื่อสร้างโมเดล 3 มิติที่เหมาะสำหรับปัจจัยต่างๆ รวมถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง ลักษณะของวัสดุ และวิธีการที่จะใช้ มีการแก้ไขซ้ำด้วยมนุษย์เพิ่มเติมหลังจากที่ได้คำแนะนำจาก AI เพื่อสร้างส่วนประกอบภายนอกที่ให้สัมผัสของการออกแบบที่สร้างสรรค์และเป็นต้นฉบับรวมถึงการใช้งานที่เหนือกว่า ในฐานะที่เป็นวัสดุสำหรับส่วนประกอบภายนอกที่สำคัญ ทองคำ 18k ได้รับการนำมาใช้เพื่อให้ความแวววาวที่ลึกซึ้งและสวยงาม รูปแบบที่ซับซ้อน ดั้งเดิม และแม่นยำของกรอบและสายสร้างขึ้นด้วยกระบวนการหล่อแบบ Lost-wax ที่มักจะใช้ในการทำเครื่องประดับและเครื่องใช้ชั้นดีอื่นๆ
คงยากจะปฏิเสธว่าความเป็นปัจเจกคือคุณค่าที่มีราคาเฉพาะตัว และราคาที่ว่านั้นคือสิ่งที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ รวมถึงใครอีกหลายคนยอมควักกระเป๋าจ่ายหากพอใจ ยืนยันได้จากไอเทม Limited Edition มากมายในโลกหล้า ซึ่งถูกซื้อขายส่งต่อไปด้วยราคาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความพึงพอใจและความภาคภูมิใจของผู้ครอบครองล้วน ๆ โดยไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น และสำหรับวงการเรือนเวลา เหล่าผู้หลงใหลจักรกลบอกเวลาทั้งหลายคงรู้กันดีว่าเป็นอีกวงการที่นอกจากจะให้คุณค่ากับคุณภาพการผลิต, เทคโนโลยีบอกเวลาอันแม่นยำซับซ้อน รวมถึงชื่อชั้นประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแบรนด์ และเรื่องราวอันเป็นที่กล่าวขานของคอลเลคชันต่าง ๆ อีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือเป็นปัจจัยสร้างคุณค่าให้กับนาฬิกาแต่ละรุ่นแต่ละเรือน คงหนีไม่พ้นโมเดลพิเศษ Limited Edition ต่าง ๆ ที่จำกัดสิทธิ์การครอบครองไว้สำหรับไม่กี่คนในโลก แต่ถ้าคิดว่าการได้ครอบครองรุ่น Limited คือที่สุดแล้ว วงการนี้ยังไปได้สุดทางยิ่งกว่า เพราะยังมีอีกทางเลือกสำหรับสาย Customized ที่ช่วยสร้างความเป็นปัจเจกเสริมเอกลักษณ์ให้นาฬิกาหรูเรือนโปรดของพวกเรา ให้กลายเป็นไอเทมพิเศษไม่เหมือนใครในฐานะ ‘เรือนเดียวในโลก’ เราเชื่อว่าใครที่เล่นนาฬิกาน่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของ BLAKEN สำนักแต่งเรือนเวลาจากประเทศเยอรมันกันมาบ้างพอสมควร กับเรื่องราวงานปรับแต่งนาฬิกาแบรนด์หรูหลากรุ่นเพื่อสร้างคุณค่าด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้เรือนเวลารุ่นนั้น ๆ มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของ BLAKEN โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในส่วนกลไกบอกเวลา เพื่อเคารพและยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกของเทคโนโลยีที่แบรนด์ต้นกำเนิดภาคภูมิใจ โดยการ Customized ขั้นสูงที่ทำให้ BLAKEN โดดเด่นและแตกต่าง ทำให้ซีรีส์พิเศษจาก BLAKEN ที่ผลิตมาเพียงไม่กี่เรือนในโลกนั้นต่างเป็นที่ต้องการของนักสะสม อีกทั้งยังเป็นที่ไว้วางใจในการสั่งผลิตแบบ Personalized เรือนเดียวในโลก
Ventura Dragon คอลเลคชั่นใหม่ของ แฮมิลตัน (HAMILTON) ถือว่าเป็นตัวแทนแห่งความแข็งแกร่งและโชคดี รวมถึงจิตวิญญาณแห่งพลัง จึงเป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับโอกาสและความสำเร็จ ซึ่งสามารถผสมผสานกับการออกแบบที่ประณีตและสวยงามได้อย่างลงตัวด้วยตัวเรือนแสดงใบหน้าของมังกรที่เต็มไปด้วยพลังและความกล้าหาญ ใบหน้าของมังกรหัน 90° ทางเข็มนาฬิกา ที่เข้ากับความเป็น Ventura มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสสตีล หน้าปัดขนาด 42.5 x 44.6 มล. และความหนา 12 มล. การขับเคลื่อนด้วยกลไกระบบไขลานอัตโนมัติ ที่สามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง และมีความทนทาน โดยมีให้เลือกถึง 2 สี คือเคลือบ PVD สี Rose Gold สุดหรูหรา และ สีดำสุดคลาสสิก ความพิเศษที่มากกว่านั้นคือตัวเรือนที่มีการเคลือบป้องกันการสะท้อนแสงและ Super-LumiNova® สีขาวทำให้นาฬิกาเหมาะสำหรับการสวมในทุกช่วงเวลาตั้งแต่กลางวัน จนถึงกลางคืน พร้อมสายลวดลายมังกร 3 มิติเพิ่มความสมบูรณ์ในการสวมนาฬิกานี้ และนอกจากนี้ แฮมิลตัน (HAMILTON) ยังมาพร้อมกับ Boulton 4 สีใหม่สดใส ในคอลเลคชั่นนี้นาฬิกา Boulton
อัพเดท Hot Item ส่งท้ายปี กับซีรีส์เรือนเวลารักษ์โลกขวัญใจสายสตรีท รวมถึงชาวแฟชั่นนิสตาทั้งหลาย อย่าง AIKON #tide จาก MAURICE LACROIX ที่ได้เวลาปล่อยของ ออกคอลเลกชันใหม่ AIKON #tide Camo ที่แรกเริ่มเดิมที มีไอเดียในการหยิบลาย Camo หรือลายพรางมาใช้เพื่อให้ได้ฟีลกลมกลืนไปกับธรรมชาติ แต่ท้ายที่สุดต้องบอกเลยว่า เมื่อรูปทรงสปอร์ตของตัวเรือน มาเจอกับลวดลาย Camo และสีสันที่หลากหลาย ทำให้ AIKON #tide Camo กลายเป็นความกลมกลืนที่เฉิดฉาย สะท้อนสไตล์สนุกจัดจ้านของเหล่า City Girls, City Guys ให้โดดเด่น โดดเด้งขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยนาฬิกา AIKON #tide Camo รุ่นใหม่ มาพร้อมตัวเรือนขนาด 40 มม. จัดเต็มสีสัน 4 สี 4 สไตล์ ลงตัวกับ Total Look ทุกรูปแบบ
เปิดตัวพร้อมเติมเต็มทุกสไตล์เท่ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection (NJ015) คอลเลกชันเรือนเวลาเรียบหรูผสานความแกร่งสมชื่อ “TSUYOSA” ที่สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ในภาษาญี่ปุ่น ตัวเรือนขนาด 40 มม. รังสรรค์ขึ้นจากสเตนเลสสตีลดีไซน์โค้งมน หล่อลงตัวกับสายสเตนเลสขัดเงา หน้าปัดปิดทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมเลนส์ขยายหน้าต่างวันที่สุดคลาสสิก สำหรับเม็ดมะยมของ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection ถูกจัดวางในตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งโดดเด่นแตกต่างจากนาฬิกาข้อมือทั่วไป ด้านหลังตัวเรือนสวยสะกดใจด้วยฝาหลังขันเกลียวแบบเปลือยโชว์ให้เห็นกลไกอัตโนมัติยอดนิยม Caliber 8210 รองรับการสำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง กันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร พร้อมให้สวมใส่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใส่หล่อออกงาน หรือใส่ชิลในวันสบาย ๆ และไฮไลต์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องราวของสีสันอันสดใส ที่ตอกย้ำให้ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection เป็น Everyday Watches ที่ลงตัวกับทุกสไตล์ที่แตกต่าง ด้วยหน้าปัดหลากสี มีให้เลือกเท่ไม่ซ้ำวัน NJ0151-88M – Tiffany
เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ ทาง SEIKO ก็ไม่พลาดที่จะมีของดีมายั่วใจนักสะสม และต้องบอกเลยว่าเรือนเวลารุ่นล่าสุดเรือนนี้นั้นไม่ธรรมดา เพราะถือเป็นเรือนส่งท้ายปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระสุดพิเศษภายใต้ปีแห่งความภาคภูมิใจ ครบรอบ 55 ปี SEIKO 5 SPORTS กับ SEIKO 5 SPORTS YUTO HORIGOME LIMITED EDITION ที่ได้ร่วม Collab กับนักสเก็ตบอร์ดดาวรุ่งชื่อดังแห่งประเทศญี่ปุ่นอย่าง Yuto Horigome (ยูโตะ โฮริโกเมะ) อีกครั้ง ซึ่งความสามารถของ Yuto Horigome ได้เริ่มฉายแสงตั้งแต่วัยเด็ก โดยได้รับอิทธิพลความหลงใหลในสเก็ตบอร์ดมาจากคุณพ่อ และเริ่มหัดเล่นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนที่จะขยับตัวเองให้ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของการแข่งขันในประเทศญี่ปุ่น ได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ๆ เท่านั้น ภายหลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายในประเทศญี่ปุ่น Horigome ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ความสามารถและพรสวรรค์ของเขา ได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกของเขาเมื่อปี 2017 ใน Street League Skateboarding (SLS) ซีรีส์การแข่งขันสเก็ตบอร์ดชั้นนำของโลกแค่เพียง 1 ปี
บ่งบอกเอกลักษณ์ให้ชัดเจนไปอีกขั้น พร้อมฉลองครบรอบ 40 ปี G-Shock ด้วยโมเดลที่เหมาะสำหรับการสะสมที่สุดแห่งปี “Full Metal Polychromatic Accent Series” ดีไซน์ไล่ระดับสีที่ออกแบบอย่างประณีตทุกขั้นตอน ตั้งแต่กรอบโครงสร้างภายนอก ผ่านขั้นตอนการขัดเงาด้วยเทคนิคพิเศษแบบ Hairline สุดพิถีพิถันบน GMW-B5000 และ GM-B2100 FULL METAL ที่ใช้วัสดุโลหะทั้งตัวเรือน G-Shock FULL METAL Series ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่ทันสมัยและทนทาน โครงสร้าง shock-resistant structure และ water resistance กันฝุ่นกันน้ำ ผ่านกระบวนการออกแบบเฉพาะที่เรียกว่า CMF (Color, Material, and Finish) เสริม Resin กันสะเทือนระหว่างตัวเครื่องกับขอบ bezel อีกชั้น ข้อต่อ joint เชื่อมสายกับเคสด้วยระบบ tripod structure เสริมประสิทธิภาพกันกระแทกได้ทั่วทั้งเรือน กันน้ำได้ลึกถึง 20 ATM (200
MB&F จักรกลสุดซับซ้อนอันดับต้นของโลก เปิดตัว Machine รุ่นใหม่ล่าสุด HM11 ด้วยแนวคิด “une maison est une machine à habiter“ (a house is a machine to live in) ที่ Maximilian Büsser อยากทดลองวางกลไกในสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากบ้านเรือนในช่วง mid-to-late 1960s ตัวเรือนดีไซน์ให้เป็น three-dimensional กว้าง 42mm ผลิตจากวัสดุ Grade-5 titanium ที่แข็งแรงที่สุด รูปทรงแปลกตาเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่มีห้อง 4 ห้องทำมุม 90 องศา มองจากด้านบนจะพบหัวใจหลัก Central flying tourbillon movement ไขลานด้วยมือ ทำหน้าที่เสมือนเสาหลักของบ้าน ไขลานโดยการหมุนเคส 45 องศา โดยหมุนครบ 10 ครั้งจะได้พลังงานเต็ม 96
Fender จับมือกับ Bruno Mars รังสรรค์ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition ที่ถือเป็นโมเดล Signature ตัวแรกของศิลปินหนุ่มเจ้าของ 15 รางวัล Grammy Awards คนนี้ Bruno Mars x Fender Stratocaster Limited Edition มีพื้นฐานจากรุ่น American Ultra ตัว Body ใช้วัสดุเป็นไม้ Ash ทำสีด้วยกระบวนการ Nitrocellulose lacquer finish โดดเด่นด้วยโทนสีพิเศษที่ไม่เคยใช้ในกีตาร์ Fender รุ่นอื่นมาก่อน กับสีที่ถูกตั้งชื่อว่า Mars Mocha Heirloom ละมุนตาด้วยเฉดสีน้ำตาลทองสุดคลาสสิก ที่แน่นอนว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Retro Style ซึ่งสะท้อนตัวตน และผลงานอันโดดเด่นของ Bruno Mars นั่นเอง สำหรับเรื่องของสุ้มเสียง