ความเป็นมาของสัญลักษณ์ “ม้าคาบหอก” และ Colt 1911 ปืนพกสั้นที่มีเสน่ห์ และดีที่สุดใน USA

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามบนโลกใบนี้ ย่อมมีประวัติความเป็นมา และเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่อย่างที่ไม่ว่าผ่านการเวลาไปนานแค่ไหน และแม้ว่ามีของที่ใหม่กว่าออกมามันก็ยังคงรักษาคุณค่าในตัวมันเองให้คงอยู่ได้อย่างเต็มเปี่ยม จนถูกยกย่องให้กลายเป็นตำนาน หนึ่งในสิ่งที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้นั้นก็คือ ปืนพก ที่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะด้วยคุณภาพ ชื่อชั้น และประวัติศาสตร์ที่ต้องบอกเลยว่า ยากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบกับ Colt 1911

สำหรับคนที่เล่นปืนแล้ว ถ้าได้เห็นตราม้าคาบศร หรือได้ยินชื่อ Colt รับรองได้ว่าต้องตาเป็นประกายกันทุกคนอย่างแน่นอน ด้วยชื่อชั้นรวมไปถึงประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน อีกทั้ง Colt ยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตปืนสั้นที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของโลก ทำให้ผู้ชายที่หลงใหลในศาสตราวุธชนิดนี้ ต่างถวิลหาจะได้มันมาครอบครองกันทั้งนั้น

แต่ถ้าให้พูดถึง Colt แล้ว ไม่ว่าจะปืนลูกโม่ Single Action (Colt Walker), ปืนลูกโม่ดับเบิ้ล (Python), ปืนสั้นลูกกรด (Colt Woodsman) จนมาถึงปืนพกกึ่งอัตโนมัติที่มีชื่อเสียงอย่าง Colt 1911 ซึ่งที่พูดมาล้วนแต่เป็นปืนที่นักสะสมเสาะหากันเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงขอหยิบเอาประวัติ และความเป็นมาของปืนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด มีคนนำไปทำซ้ำมากที่สุดเท่าที่สุดที่เคยมีมา นั่นก็คือ Colt 1911 มาให้ได้อ่านกันให้กระจ่าง

มาเริ่มต้นที่สัญลักษณ์ ม้าคาบหอก อันเป็นเอกลักษณ์กันก่อนเลยดีกว่า มีหลายคนเถียงกันว่าจริงๆ แล้ว มันเป็นสัญลักษณ์ม้าคาบอะไรกันแน่ ระหว่างหอก กับลูกธนู วันนี้เราจึงจะมาไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันซะที เดิมที Samuel Colt ซึ่งเป็นเข้าของ และผู้ผลิต Colt นั้น ได้ออกแบบ ตราสัญลักษณ์ออกมาให้เป็นรูป “ม้าหักหอก” ซึ่งในขณะนั้น Samuel Colt ได้ออกแบบปืนลูกโม่ Model Single Action Army ขนาด .45 Colt (Long Colt) ให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในช่วงการต่อสู้แย่งชิงดินแดนกับพวกอินเดียแดงชนเผ่าต่างๆ อยู่

โดย Colt ในภาษาอังกฤษนั้น มีความหมายว่า ลูกม้าตัวผู้ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งรูปม้านี้ใช้เป็นตัวแทนของเค้า ส่วนหอกที่โดนม้าหักนั้น เป็นอาวุธของพวกอินเดียแดงเผ่าต่างๆ โดยรวมแล้วจึงมีความหมายเป็นนัยว่า “ฉัน (Samuel Colt) และอาวุธที่ผลิตโดยตัวเค้าเหล่านี้ ช่วยให้คนขาวชาวอเมริกัน ได้ชัยชนะเหนืออินเดียแดงจนได้ครอบครองดินแดนอเมริกา”

นอกจากนี้ ว่ากันว่าปืนระดับตำนานอย่าง M1911 และกระสุน .45 ACP (.45″ Autometic Colt Pistal) นั้น ถูกออกแบบมาให้กับเหล่ากองทัพทหารอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จัดการกับนักรบ และทหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เพราะว่ากันว่า ทหารญี่ปุ่นเมื่อเข้ารบประชิด อาวุธปืนพกอื่นๆ จะไม่สามารถทำอะไรพวกเค้าได้ อีกทั้งทหารญี่ปุ่นมีความชำนาญในการต่อสู้ด้วยดาบซามูไรอีก จึงต้องใช้ปืนที่มีลูกกระสุนทำหวังผลได้ และความรุนแรงมากเป็นพิเศษอย่าง .45 ACP

แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ทหารญี่ปุ่นไม่ได้พกดาบซามูไรเข้าสงคราม มีก็แต่เพียงดาบปลายปืนเท่านั้น แต่สำหรับ M1911 นั้นถูกสร้างขึ้น และเข้าประจำการในกองทัพก่อนหน้านานแล้ว ซึ่งเป็นปีเดียวกับรหัสของมันเองคือ ค.ศ. 1911 นั่นหมายความว่า มันมีมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยซ้ำไป เมื่อเรารู้ถึงปีเกิดของมันแล้ว เราจึงพบกับความจริงว่า แท้จริงแล้ว M1911 ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 1899 -1913 ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้เข้าสงคราม Philippin American War

หลังจากสงครามจบสิ้นลง M1911 จาก Colt  จึงได้ส่งรายงานปัญหาต่าง ๆ ของปืน จากที่ได้ใช้งานจริงมา เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น จนมีการออก M1911A1 ออกมาเป็นตัวที่ถูกแก้ไขปัญหาต่างๆ ออกไปจนหมดในปี  1924 และถูกพัฒนาใช้กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และมีการจดสิทธิบัตรคุ้มครองห้ามลอกเลียนแบบไว้ จนมาถึงปี 1985 สิทธิบัตรคุ้มครองสิ้นสุดลง บริษัทผลิตปืนหลายบริษัทจึงเริ่มหันมาทำปืนที่มีทรง และกลไกเดียวกับ Colt 1911 กันเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเป็นการแย่งตลาดจาก Colt ที่เคยเป็นเจ้าของลิขสิทธ์อยู่เพียงผู้เดียวไปเลยก็ว่าได้

แต่ถึงอย่างไรคุณค่าของ Colt 1911 สำหรับนักเล่นปืน ก็ยังคงมีมนต์ขลัง และมีความเก๋าในแบบต้นฉบับอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ทำให้ชื่อเสียงของ Colt 1911 กลายเป็นตำนาน และด้วยประวัติอันโชกโชนนี้เองที่ทำให้กลายเป็น Icon  ของการต่อสู้ การเปลี่ยนแปลงในหน้าประวัติศาสตร์ และมีคุณค่าในตัวเองอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ อย่างที่ปืนจากค่ายอื่นไม่สามารถเทียบได้

SOURCE