THE PROFILES: DAVE GROHL ป๋าขาร็อคศาสดาแห่งความบ้าบิ่นและพรสวรรค์ด้านดนตรีอันเต็มเปี่ยม

คำนิยามที่ว่า ‘บ้าบิ่น’ คงไม่เกินไปนักสำหรับป๋าขาร็อคอย่าง Dave Grohl ฟร้อนต์แมนแห่ง Foo Fighters ในฐานะที่เป็นแฟนคนนึง และเคยได้ดูการแสดงสดด้วยตาตัวเองมาแล้ว ป๋าแกเล่นถึงกับทำเราเมื่อยขา ถึงแม้จะมันส์แค่ไหนก็ตาม แถมยังบอกอีกว่า ‘กูจะไม่กลับเข้าไปแล้วให้คนร้องขอ Encore ละออกมาเล่นอีกรอบหรอกนะ กูจะเล่นจนกว่าจะพอใจ’ ซึ่งแน่นอนว่าคอนเสิร์ตครั้งนั้นจบเลตไปมากทีเดียว เล่นเอาขาลากกันออกมาจากฮอลล์ แค่นี้คงพอบอกได้ว่าป๋าแกบ้าบิ่นแค่ไหน

หรือถ้ายังไม่พอ เราย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีก่อนเป็นช่วงที่ป๋าแกขาเป๋ จากอุบัติเหตุมันส์เกินจนตกเวทีในคอนเสิร์ตที่ Gothenburg ประเทศสวีเดน ทำให้ขาหักทำต้องใส่เฝือกแต่ด้วยสปิริตที่แรงกล้าแกก็ยังเล่นคอนเสิร์ตนั้นจนจบด้วยการมีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

จนมาถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ระบาดกระทบธุรกิจทุกภาคส่วน ป๋าก็จำยอมต้องลดความบ้าบิ่นลง และออกจดหมายรักถึงพวกเราทุกคนด้วยใจความสำคัญว่า “อัลบั้มก็เสร็จแล้ว ไฟและเวทีก็อยู่ในรถบรรทุกแล้ว พร้อมที่จะออกทัวร์ แต่ตอนนี้ ขอให้มึงไปล้างมือซะ!”

เรียกได้ว่าถ้าไม่เกิดโควิดขึ้นเสียก่อน เราคงได้ชมคอนเสิร์ตมันส์ ๆ อย่าง 25th anniversary van tour จากป๋าแกแน่นอน แต่กว่าที่ป๋าจะมาบ้า โหด คลั่ง  แบบนี้ได้ แกผ่านอะไรมาบ้าง เรามาทำความรู้จักป๋าให้มากขึ้นกัน

Dave Grohl ลืมตาดูโลกมาเมื่อ 14 มกราคม 1969 ในรัฐโอไฮโอ้ ในครอบครัวของนักข่าวและครูสอนภาษาอังกฤษ โดยอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว หลังการหย่าร้างของพ่อแม่ตอนเขาอายุได้ 6 ขวบ Grohl มีความสนใจในเรื่องดนตรีตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 10 ขวบเขาเริ่มเล่นกีต้าร์ และฟอร์มวงกับเพื่อนชื่อว่า H. G. Hancock Band จนกระทั่งได้มาทำวงฮาร์ดคอร์พั้งที่ชื่อว่า Scream (1986–1990) โดยออกอัลบั้มไปถึง 3 อัลบั้ม และมีทัวร์อีกหลายครั้ง

Scream (1986–1990)

ในทัวร์ครั้งนึง Grohl ได้พบกับ Buzz Osbourne แห่งวง Melvins (อีกวงระดับตำนานที่มีส่วนผสมของ Grunge และ Sludge Metal) ที่หลังเวที และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับ Kurt Cobain และ Krist Novoselic แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันในครั้งนั้น จนกระทั่ง Grohl ได้มาออดิชั่นเป็นมือกลอง Nirvana แน่นอนว่า Kurt Cobian และ Krist Novoselic ต่างเห็นตรงกันว่านี่แหละคนที่เพอเฟ็คที่สุดสำหรับ Nirvana หลังจากพวกเขาเปลี่ยนมือกลองกันมาแล้วถึง 6 คน

จนได้เข้ามาร่วมเล่นกับ Nirvana แล้ว Grohl ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอสำหรับ Nirvana และกังวลที่จะถูกแทนที่ตลอดเวลา Cobian เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขาก็ชื่นชม Grohl ตลอดเพื่อสร้างความมั่นใจ ถึงแม้ตัว Cobian จะเป็นคนที่ชมคนยากมาก ๆ ก็ตาม เท่านี้ก็น่าจะพอบอกได้แล้วว่า Grohl เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ใน Nirvana มากแค่ไหน

Melvins

Jennifer Finch and Dave Grohl

หลังจาก Grohl ได้เข้าร่วมกับ Nirvana และมาอยู่กับ Cobain ช่วงนั้นเองเขาก็ได้เดตกับแม่สาวขากรันจ์แห่ง L7 อย่าง Jennifer Finch ซะด้วย (แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไป) ไม่นานก็มีค่ายเพลงหลักสนใจที่จะเซ็นสัญญากับ Nirvana 1991’s Nevermind ได้ออกสู่หูนักฟังเพลง ‘Smells Like Teen Spirit’ ฮิตติดลมบน ทำให้ Nevermind กลายเป็นอัลบั้มที่ขายได้ถึง 4 ล้านก๊อปปี้ Nirvana ขึ้นแท่นเป็น Iconic แห่งวงการดนตรีแนวกรันจ์ทันที เรียกง่าย ๆ ว่า รันวงการเลยทีเดียว

แต่สุดท้าย Nirvana ก็เป็นเพียงตำนานไป หลังจาก Cobain ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง

Nirvana

ถึงแม้ Nirvana จะไม่ได้ทำเพลงต่อ ความตั้งใจของ Grohl ที่จะรันวงการดนตรียังไม่ถูกหยุดลงไปด้วย เขาตัดสินใจฟอร์มวงนามว่า ‘Foo Fighters’ ในปี 1995 แถมป๋าก็เล่นเหมาหมดจริง ๆ ทั้งตำแหน่งร้อง เล่น เขียนเพลง และแน่นอนว่าผลตอบรับก็เป็นรีวิวในแง่บวก เพลงอย่าง This Is a Call, I’ll Stick Around ก็ไต่ไปสู่ระดับท็อปชาร์ตได้อย่างน่าชื่นชม จนวันที่เริ่มออกทัวร์ Grohl ก็จำเป็นต้องหาคนมาเล่นในวงของเขา เพราะต้องให้บ้าแค่ไหน ก็คงจะเหมาทุกตำแหน่งตอนทัวร์ไม่ไหวจริง ๆ

อัลบั้มแรกในฐานะวงจริง ของ Foo Fighters ก็คือ ‘The Colour and the Shape, came out in 1997’ มี Track ฮิต ๆ อย่าง Everlong และ My Hero จนมาถึงอัลบั้ม ‘There Is Nothing Left to Lose 1999’ ที่มาพร้อมกับ Learn To Fly ก็คว้ารางวัลชนะเลิศ Grammy Award for Best Rock Album ปี 2000 ไปนอนกอดได้ไม่ยาก

จากวันนั้นที่ Dave Grohl เริ่มทำเพลงในฐานะ Foo Fighters แบบที่เหมามันครบทุกตำแหน่ง จนวันนี้ที่เขามีเพื่อน ๆ รวมทางไปทัวร์ ก็นับมาได้ทั้งหมด 9 อัลบั้ม ใน 25 ปีที่ผ่านมา แต่ป๋าเพิ่งประกาศว่าอัลบั้มที่ 10 เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง แถมยังมีเรื่องฮา ๆ ปนขนหัวลุกอย่างการต้องรีบอัดอัลบั้มนี้ให้เสร็จ เนื่องจากสตูดิโอที่ใช้อัดนั้นเป็นบ้านที่สร้างในปี 1940 ทำให้เขามีผีมากวนช่วงอัดเสียงอยู่บ่อย ๆ เช่น กีต้าร์ถูกปรับให้เสียงเพี้ยน หรือการมี Track โผล่มาทั้งที่ไม่มีใครใส่เข้าไป

กว่า 3 ทศวรรษ ที่ Dave Grohl เริ่มต้นอาชีพในฐานะนักดนตรี ไม่มีวันไหนที่เขาไม่หยุดสร้างสรรค์ ด้วยลูกบ้า ลูกชน ความมุมานะ และไม่เคยเลื่อนคอนเสิร์ตแม้ว่าขาจะหัก หรือจะเดี้ยงแค่ไหน ทำให้เขารักษาชื่อเสียง เป็นไอคอน ไอดอลในดวงใจของชาวร็อคทั่วโลก และแน่นอนว่าเขาจะยังไม่หยุดสร้างสรรค์ผลงานดนตรีมาให้แฟน ๆ อย่างพวกเราได้โยกตามแน่นอน

source: 1 /2/3