สัมภาษณ์งานอย่างไรให้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเข้าตากรรมการ!

ช่วงสิ้นปีแบบนี้หลายคนก็ถือเป็นโอกาสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับงานในตำแหน่งใหม่ที่ท้าทายตัวเองมากขึ้น หรือเป็นงานที่ตนเองใฝ่ฝันไว้ นอกจากการส่ง resume ที่เราต้องเลือกใส่ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ตนเองแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเสมือนปราการป้อมที่สุดท้ายของการได้เข้าไปทำงานในบริษัทเหล่านั้นคงหนีไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่าการสอบสัมภาษณ์

หลายต่อหลายคนโปรไฟล์แสนดี เกรดเฉลี่ย 4.00 งานการที่เคยทำมาก็มีแต่ตำแหน่งดีๆ บริษัทชั้นยอด แต่กลับพลาดท่าให้กับการสัมภาษณ์งาน ไม่ว่าจะเป็นเพราะวันนั้นมึนงง หรือแม้แต่การลืมทำการบ้านมาก็ตามที ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ได้เลยล่ะค่ะ

วันนี้ UNLOCKMEN มีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำสำหรับคนที่อยากมีชัยในการสัมภาษณ์งานมาฝาก เชื่อเถอะว่าเตรียมตัวไว้ก่อนดีกว่าไปด้นสดเอาในห้องสัมภาษณ์นะ

Office Space

• ทำการบ้านเรื่องบริษัท และตำแหน่งหน้าที่ที่ตนจะได้รับ

ถึงแม้ว่าบริษัทที่เรียกคุณไปสัมภาษณ์นั้นจะเป็นบริษัทที่อยู่ในตัวเลือกอันดับท้ายๆ ที่คุณอยากจะเข้าไปทำ เราเชื่อว่าการทำให้เขารู้สึกประทับใจในคำพูด และข้อมูลที่คุณมีนั้นเป็นสิ่งสำคัญค่ะ สิ่งที่คุณต้องทำเลยก็คือการทำการบ้านว่าบริษัทเขามุ่งหวังในการเติบโตแบบไหน ธุรกิจอะไรที่เขาสนใจ รวมไปถึงตำแหน่งที่คุณสมัคร แสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความตั้งใจของคุณเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

• มาถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์อย่างน้อย 15 นาที

การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ การที่คุณไปถึงก่อนเวลานัดสัมภาษณ์นั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความรับผิดชอบที่ตัวคุณมีต่องาน ในงานแต่ละงานนั้นบางครั้งคนที่มีความสามารถมาก แต่มาไม่ตรงเวลา ก็อาจถูกตัดคะแนนในส่วนอื่นๆ ไปด้วย การใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยนั้นก็อาจทำให้คุณมีชัยในศึกครั้งนี้

The Intern 

• มีสติ มีสมาธิ และโฟกัส

เรื่องของสตินั้นเราอยากให้คุณคำนึงถึงมันในอันดับต้นๆ เลยค่ะ เราเห็นหลายคนตกม้าตายก็ตอนนี้แหละ เรื่องของความตื่นเต้นทุกคนมีกันอยู่แล้ว แต่คุณจะต้องฝีกฝนมันให้ตัวคุณนิ่งให้พอ พอคุณมีสติ มีสมาธิ คุณก็จะโฟกัสกับคำถาม และตอบคำถามที่ผู้สัมภาษณ์โยนมาได้อย่างเต็มที่ หากคุณไม่พกสติไปด้วย คุณตอบอะไรไปบ้างคุณอาจจะงงในคำตอบของตัวเองก็ได้นะ เรื่องนี้สำคัญมากทีเดียว

• ไม่ต้องเล่าด้านลบของตัวเอง

ส่วนใหญ่แล้วการสัมภาษณ์งานนั้นเขาก็จะถามเรื่องงานการที่ผ่านมาของคุณ บ้างก็ถามถึงไลฟ์สไตล์ เล่าไปเถอะค่ะ เล่ามันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องพูดก็อย่าพูดเลย เช่น คุณออกมาจากที่นั่นเพราะอะไร เพราะเบื่องาน อะไรแบบนี้อย่าตอบเป็นอันขาด ให้เลี่ยงไปเป็นไม่ใช่งานที่คุณโฟกัสอยู่ หรือต้องการความท้าทายมากขึ้นอะไรก็ว่าไป แหม เราก็จำเป็นแต่งเติมมันบ้างค่ะ ด้านลบของทุกคนมีอยู่แล้ว แต่เก็บมันไว้ก่อนก็ดีนะ

The Office

• ไม่ต้องพูดจากดดันกรรมการ หรือผู้สัมภาษณ์

หลายคนจะชอบพูดประโยคที่ว่ารับผมเข้าไปเถอะครับแล้วผมจะทำให้ดู หรืออะไรที่ฟังดูแล้วเป็นการกดดันให้เขารู้สึกว่าคุณปูทางมากเกินไป การแสดงออกว่าอยากทำงานที่บริษัทนั้นมากๆ เป็นเรื่องดีค่ะ แต่เราอาจเปลี่ยนการแสดงออกใหม่ เช่น ถ้าผมได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในทีมงาน ผมจะทำมันให้ดีที่สุด และพร้อมเรียนรู้งาน รวมถึงข้อผิดพลาดของตัวเองเป็นต้น แบบนี้เป็นการปูทางให้เขารู้ว่าเรามีความตั้งใจ และอยากทำงานกับเขาจริงๆ แบบไม่ต้องพูดจาให้รู้สึกกดดัน เพราะคำพูดเล่นๆ ไม่ได้ใช้ได้กับทุกคนค่ะ

ที่เหลือก็เป็นเรื่องของทักษะความสามารถที่คุณมี ความฉลาดในการตอบคำถาม การใช้คำพูดของตัวคุณเองแล้วล่ะ ที่จะทำให้การสัมภาษณ์งานครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ข้อที่สำคัญมากๆ เลยก็คือ การมีสติ และความพร้อมในการทำการบ้านศึกษาเกี่ยวกับตัวบริษัทของเขาให้ดี ถ้าเรามีความสามารถมากพอเท่านี้ก็น่าจะมีชัยแล้ว แนะนำว่าทำให้เต็มที่ค่ะ

cover photo : ภาพยนตร์เรื่อง Up in the Air