GUIDE: 5 คาเฟ่สุดพิเศษในกรุงเทพฯ ที่ผู้ชายอย่างเราควรพาสาว ๆ ไปด้วย

ตอนนี้กระแส Cafe Hopping กำลังมา ผู้ชายหลายคนน่าจะมองหาคาเฟ่บรรยากาศดีสักที่ เพื่อพาสาวไปด้วยกันได้ ซึ่งคาเฟ่ที่เราจะมาแนะนำวันนี้ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของบรรยากาศเท่านั้น แต่เรื่องเมนูกาแฟก็โดดเด่นไม่แพ้กัน บางร้านอาจจะมาในสไตล์มินิมอล บางร้านอาจจะมาในสไตล์ย้อนยุค บางร้านอาจจะมาในสไตล์ดิบ ๆ เรียกได้ว่าครบรสในบทความเดียว ไปดูกันว่าจะมีร้านน่าสนใจอะไรบ้าง

VAREN

หากมีโอกาสได้ไปเดินเล่นแถวดิโอสยาม เราจะพบกับคาเฟ่สีขาวดำตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน ความโดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้ คือ การดัดแปลงตึกเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่มินิมอลสุดเรียบหรูที่ผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น กระจกใส ขอบกระจกโค้งมน กำแพงสีเรียบ เฟอร์นิเจอร์ลายหินอ่อน ทุกองค์ประกอบหลอมรวมให้เกิดสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสะดุดตาในย่านเมืองเก่า ภายในร้านนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้น 1 และ 2 จะเป็นส่วนของที่นั่งและคาเฟ่ ซึ่งจะมีทั้งแบบเป็นโซนธรรมดา และสโลว์บาร์ ส่วนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ เรียกได้ว่า จิบกาแฟ ชมวิว เสพงานศิลปะ ได้ในแห่งเดียว

นอกเหนือจากเรื่องความสวยงามของร้านแล้ว เมนูกาแฟของทางร้านก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเมล็ดกาแฟที่ร้านเลือกใช้ตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม ทั้งคนที่ชอบกาแฟรสเข้ม และคนที่ชอบกาแฟรสเปรี้ยวผลไม้ และยังมีเมล็ดกาแฟ Special Blend ไว้สำหรับคนที่อยากลองทานกาแฟรสพิเศษที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการใส่ผงทองในบางเมนูเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับเครื่องดื่มอีกต่างหาก

สำหรับใครที่อยากไปเยือน VAREN คาเฟ่จะตั้งอยู่ที่  14 ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. สามารถไปดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ varenbkk หรือ โทร 081-692-9999

TANGIBLE

มองจากรูป อาจดูเหมือนสถานที่จัดแสดงงานศิลปะแบบอินสตอลเลชั่น แต่จริง ๆ แล้วที่นี่คือคาเฟ่สุดแนวในย่านเจริญกรุง  ร้านนี้ถือเป็นบ้านใหม่ของ ไตรโหมดสตูดิโอ บริษัทรับจ้างออกแบบสัญชาติไทย ซึ่งออกแบบร้านนี้ในสไตล์  ‘Creative Flow’ เป็นการรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ที่พวกเขาได้พบเจอตลอดการทำงานมาใส่ไว้ในร้าน ภายในร้านจะมีสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นโชว์เคสแสดงสินค้าและของสะสมของของทางสตูดิโอ และส่วนที่เป็นร้านกาแฟและพื้นที่นั่งชิว

กาแฟของที่นี่ก็เรียกได้ว่าถูกใจสายครีเอทีฟ เพราะทางร้านนำเสนอกาแฟในรูปแบบที่ทางไตรโหมดสตูดิโอดื่มกินกันเป็นประจำ และได้เพื่อนบ้านอย่าง Rosetta Coffee Roasters ร้านกาแฟแบบเทคอะเวย์ มาช่วยพัฒนาเมนูกาแฟด้วย กาแฟของร้านส่วนใหญ่จะมีรสเข้ม และเป็นเมนูกาแฟดิบ ๆ อย่าง กาแฟสกัดเย็น หรือ เดอร์ตี้ และสามารถทานคู่กับเบเกอรี่โฮมเมดของทางร้านได้เป็นอย่างลงตัว

สำหรับใครที่อยากไปเยือน TANGIBLE คาเฟ่จะอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 82  เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. สามารถไปดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ nanacoffeeroasters เว็บไซต์ nanahuntercoffeeroasters หรือ โทร 06 5919 3992

NANA Hunter Coffee Roasters

หลายคนน่าจะรู้จักร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่าง NANA Coffee Roasters กันอยู่แล้ว ซึ่งร้านนี้จะเป็นสาขาใหม่ และเป็นทั้งโรงคั่วและร้านกาแฟในที่เดียวกัน ร้านจะมาในสไตล์ Industrial Loft ให้ความรู้สึกภายในเหมือนเป็นโกดังกว้าง ๆ  เปิดวัสดุเหล็กและท่อออกมาอย่างโดดเด่น ผสมผสานกับความอลังการของอุปกรณ์กาแฟสุดพรีเมียม กิมมิคเครื่องจักรกลที่เหมือนออกมาจากนิยายแนว Steampunk  และเคาน์เตอร์บาร์ที่ทำมาจากหินเอ็มพาราโด วัสดุที่ใช้ในเฟอร์นิเจอร์หรู และให้สีสันที่คล้ายกับสีของเครื่องดื่มกาแฟยอดฮิตอย่าง ‘Dirty’  ภายในยังกว้าง และมีความโปร่งโล่งสบาย ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของชาวฝั่งธน

เมนูกาแฟของที่นี่ยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เพราะได้รับการรังสรรค์จาก 2 บาริสต้าชื่อดัง ได้แก่ กษมา กันบุญ แชมป์การแข่งขันไซฟอนโลกเมื่อปี 2018 และกานดา โทจำปา เจ้าของแชมป์บาริสต้าประเทศปี 2013 และไทยแลนด์คัพเทสเตอร์ปี 2017 ซึ่งมีทั้งเมนูกาแฟที่สามารถเลือกรสชาติที่เราชื่นชอบได้ เมนู Speciality Coffee ที่สามารถเลือกเมล็ดกาแฟและวิธีการชง รวมถึง เมนูกาแฟที่หน้าตาเหมือนเครื่องดื่มค็อกเทลสุดหรูหรา

สำหรับใครที่อยากไปเยือน NANA Hunter Coffee Roasters ร้านจะตั้งอยู่ที่ 288 ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น. สามารถไปดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ nanacoffeeroasters เว็บไซต์ nanahuntercoffeeroasters หรือ โทร 06-5919-3992

RED DIAMOND SPEACIALITY LAB

คาเฟ่ที่ผันตัวมาจากอู่ซ่อมรถเก่าที่มีอายุมานานกว่า 8 ปี กลายเป็นร้านกาแฟและโรงคั่วสุดพิเศษที่มีความดิบเท่ซ่อนตัวอยู่ภายใน โดยดีไซน์ของร้านจะเป็นการขับเน้นความโดดเด่นของวัสดุไม้เก่า เหล็กสนิม และเฟอร์นิเจอร์สีดำ หลอมรวมกันเกิดเป็นบรรยากาศย้อนยุคหรูเรียบแปลกตา มีความเป็นเหมือนโรงคั่วกาแฟเก่า ๆ และให้สร้างความรู้สึกสงบเมื่ออยู่ในพื้นที่ บอกได้ว่า เมื่อผลักประตูเหล็กสีสนิมเข้ามาในร้านแล้ว เรารู้สึกราวกับได้เข้ามาในโลกแห่งใหม่

ใครที่ชอบดื่มกาแฟ น่าจะชอบร้านนี้ เพราะเขามีกาแฟหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดกาแฟแบบ House Blend หรือ Seasonal Blend รวมถึง บาร์กาแฟต่าง ๆ ก็มีหลายโซนให้เลือกลิ้ม นอกจากนี้ยังมีบริการสั่งกาแฟแบบ Drive Thru  ด้วย สำหรับใครที่เร่งรีบ ไม่มีเวลานั่งดื่ม ก็สามารถขับรถมาสั่งกาแฟที่ร้าน และรอรับกาแฟจากในรถของตัวเองได้เลย สะดวกจริง ๆ

สำหรับใครที่อยากไปเยือน RED DIAMOND SPEACIALITY LAB ร้านจะตั้งอยู่ที่ ถนนโยธินพัฒนา 3 เขตบางกะปิ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น. สามารถไปดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ Reddiamondthailand หรือ โทร 06-5893-6287

MUSTANG BLU

ตึกเก่าอายุนับร้อยปีที่ตอนนี้ได้รับการบูรณะให้กลายเป็นคาเฟ่และโรงแรมสุดหรู ซึ่งภายในเป็นการออกแบบสไตล์โคโลเนียลที่ผสมผสานความดิบของวัสดุของตึกเก่า และเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ย้อนยุค เกิดเป็นบรรยากาศภายในสไตล์วินเทจ ที่เมื่อแรกสัมผัส ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน ผลงานการออกแบบนี้เป็นของ จอย อนันดา สไตล์ลิสและโชว์ไดเรกเตอร์ชื่อดังในวงการแฟชั่น ที่ได้รับโจทย์ให้บูรณะตึกเก่าในแหล่งเสื่อมโทรม มีการแบ่งโซนคาเฟ่และห้องพักอย่างชัดเจน เพื่อกำจัดความวุ่นวาย และสร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัว

เมนูอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีความหรูหราไม่แพ้กับตัวร้าน ไม่ว่าจะเป็น เค้กเบียร์ดำที่เสิร์ฟในจานเซรามิคสไตล์ยุโรป หรือ เครื่องดื่มกาแฟที่เสิรฟ์ในแก้วไวน์ เป็นร้านที่จะพาสาวมากินข้าวก็ได้ หรือ มาหามุมถ่ายรูปเท่ ๆ กลับบ้านก็ได้เหมือนกัน

สำหรับใครที่อยากไปเยือน Mustang Blu ร้านจะตั้งอยู่ที่ 721 ถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 13.00 – 17.00 น. สามารถไปดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ themustangblu หรือ โทร 06-2293-6191