Life

Hawthorne Effect: ทฤษฎีที่ช่วยเพิ่มความขยันในการทำงานของพนักงาน

By: unlockmen May 28, 2021

คนส่วนใหญ่มักอยากได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง และได้รับคำชื่นชมเมื่อพวกเขาทำงานได้ดี และเมื่อพวกเขาได้รับสองสิ่งนี้แล้ว พวกเขาอาจจะทำงานได้ดีขึ้น เรื่องนี้ได้รับการอธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Hawthorne Effect ซึ่งเป็นทฤษฎีที่มีความเก่าแก่ และได้รับการถกเถียงกันมากพอสมควร

อะไร คือ Hawthorne Effect

Hawthorne Effect คือ คำอธิบายปรากฎการณ์ที่ว่า คนมีแนวโน้มตั้งใจทำงานและทำผลงานได้ดีขึ้น เมื่อพวกเขาได้รับความสนใจจากคนอื่น (เช่น หัวหน้า) ปรากฎการณ์นี้มีที่มาจากในปี 1950 นักวิจัยคนหนึ่งชื่อว่า Henry A. Landsberger ได้วิเคราะห์ผลการทดลองชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1924 – 1932 ณ องค์กรไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เมืองฮาวทอร์น รัฐอิลลินอยส์

การทดลองนี้ทำโดย Elton Mayo นักสังคมศาสตร์ ซึ่งต้องการศึกษาว่าเงื่อนไขในการทำงาน (เช่น การเพิ่มแสงไฟในที่ทำงาน การเปลี่ยนเวลาทำงาน หรือ การให้อาหารในช่วงพัก เป็นต้น) ส่งผลกระทบต่อความขยัน (productivity) ของพนักงานมากแค่ไหน

จากการทดลองเป็นเวลาหลายปี นักวิจัย พบว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในที่ทำงานแม้เพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ความขยันของพนักงานขึ้น เพิ่มขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มแสงไฟในที่ทำงาน การเปลี่ยนเวลาทำงานและเวลาพัก หรือ การสนับสนุนด้านอาหารในช่วงที่พนักงานพัก

อย่างไรก็ตาม หลังสิ้นสุดการทดลองในปี 1932 การทำงานในองค์กรไฟฟ้าถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิม และมีการคาดว่าหลังจากนั้นความขยันของพนักงานจะลดลง แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับผิดจากที่นักวิจัยคาดไว้ โดยความขยันของพนักงานไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ปรากฎการณ์นี้ทำให้ Mayo สรุปผลการทดลองว่า ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมกายภาพที่ทำให้ความขยันเพิ่มขึ้น แต่มันอยู่ที่ความเชื่อของพนักงานต่างหาก กล่าวคือ พนักงานที่เชื่อว่าตัวเองได้รับการมองเห็นคุณค่า หรือ ได้รับการดูแล จะมีความขยันและทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้ง ถ้าพนักงานมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง เช่น มีโอกาสได้เสนอความคิดเห็นหรือถกเถียงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะเกิด Hawthorne Effect ได้เหมือนกัน

การทดลองนี้อาจทำให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของ ‘ความใส่ใจ’ และ ‘การมีส่วนร่วม’ซึ่งอาจช่วยให้พนักงานมีความขยันและทำงานได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ถ้่าหากผู้นำคนไหนใช้ประโยชน์จาก Hawthorne Effec ได้ จะช่วยให้ธุรกิจ องค์กร หรือ บริษัท พัฒนาเร็วขึ้นอย่างแน่นอน

 

เราจะใช้ประโยชน์จาก Hawthorne Effect ได้อย่างไร

เมื่อ Hawthorne Effect สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นการทำงานของพนักงานได้ UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำเทคนิคการนำมันไปใช้ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ให้ความสำคัญกับการฟัง

พนักงานจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเสียงของพวกเขาถูกหัวหน้ารับฟัง ดังนั้น ความสามารถในการฟังคนอื่น จึงเป็นคุณสมบัติที่หัวหน้าทุกคนควรมี และที่สำคัญ นอกจากการฟังแล้ว หัวหน้าต้องรู้จักเปิดใจให้กับความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความกลัวเรื่องการแสดงความคิดเห็น หรือ การมีส่วนร่วมในการทำงาน

อย่าสนใจลูกน้องตลอดเวลา

แม้ความใส่ใจอาจช่วยให้ลูกน้องทำงานได้ดีขึ้นจริง แต่การสอดส่องหรือพยายามจับผิดลูกน้องตลอดเวลา ย่อมสร้างความรู้สึกไม่สบายใจหรือความกดดันได้ ลูกน้องมักต้องการให้หัวหน้ามองเห็นผลงานที่ดีของพวกเขา และได้รับคำชื่นชมจากมัน ดังนั้น การสนใจในสิ่งที่ลูกน้องทำ และการกล่าวคำขอบคุณบ่อยขึ้น จึงช่วยให้เกิด Hawthorne Effect ได้

จัดคนให้ถูกกลุ่ม

พนักงานที่ขยันทำงาน อาจกลายเป็นคนไม่ขยันทำงานได้ เมื่อพวกเขาอยู่ในกลุ่มที่ผิด ในการทดลองที่ Hawthorne ได้นำพนักงานที่ขยัน 2 คน มาแทนที่พนักงานซึ่งมีความสามารถปานกลาง และมีนิสัยดื้อรั้น ผลปรากฎว่า ผลผลิตของกลุ่มที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น เพราะความขยันและความมีระเบียบวินัยของพนักงานใหม่ส่งผลต่อพนักงานคนอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน

สนใจการเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็ก

นักธุรกิจหลายคนสนใจการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหญ่ เพื่อทำให้พนักงานของพวกเขาสามารถทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น แต่งานวิจัยได้บอกเราว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กก็ช่วยให้พนักงานเกิดแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้น ในการพัฒนาการทำงานของพนักงาน หัวหน้าควรโฟกัสที่การเปลี่ยนแปลงในทุกระดับ ไม่ว่าจะ เรื่องใหญ่ (อย่างการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการทำงาน) หรือ เรื่องเล็ก (เช่น การปรับปรุงสถานที่ทำงานใหม่)

ลดความเหลื่อมล้ำในที่ทำงานลง

หากหัวหน้าปล่อยให้มีปัญหาความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นในที่ทำงาน เช่น พนักงานผู้หญิงรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าน้อยกว่าผู้ชาย เป็นต้น ก็มีโอกาสที่ความขยันของพนักงานจะลดลงได้ ดังนั้น หัวหน้าจึงมีหน้าที่ในการสร้างพื้นที่ในการทำงานที่ทุกคนได้รับความสนใจอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีคุณภาพต่อไป

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเรื่อง Hawthorne Effect ก็ได้รับการถกเถียงมากพอสมควร บางคนมองว่ามันเป็นการทดลองที่กล่าวเกินจริง (overstated) หรือ ผลการทดลองไม่ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูล ในขณะที่บางคนมองว่ามันอาจเกิดขึ้นได้ แต่ต้องมีการศึกษามันเพิ่มเติมต่อไป

ดังนั้น การนำ Hawthorne Effect ไปใช้ จึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย


Appendix: 1 / 2

Image

 

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line