“อยากโตก็ต้องเสี่ยง” วิธีการรับมือความเสี่ยงเพื่อให้ธุรกิจไปข้างหน้า

หนึ่งในทักษะที่สำคัญต่อการทำธุรกิจ คือ ทักษะด้านการจัดการความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถตัดสินใจเพื่อพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ดีขึ้น พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างภาคภูมิใจ เมื่อเป็นทักษะที่จำเป็น UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการรับความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้นักธุรกิจทุกคนสามารถก้าวออกจาก comfort zone และเติบโตธุรกิจของตัวเองได้อย่างยั่งยืน

ทำไมเราถึงต้องกล้ารับความเสี่ยง

หลายคนอาจยินดีที่จะอยู่ใน comfort zone ของตัวเองไปตลอด เคยทำธุรกิจแบบไหนมาก็ทำแบบนั้นต่อ ไม่กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวความเสี่ยง หรือ ปัญหาที่สามารถเกิดขึ้น  แม้การทำอะไรแบบเดิมอาจช่วยให้ธุรกิจอุ่นใจ แต่มันก็มีข้อเสีย เพราะการไม่รับความเสี่ยง ทำให้นักธุรกิจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจอื่นไป และไม่สามารถต่อสู้กับคู่แข่งที่หมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอได้ ดังนั้น นักธุรกิจทุกคนควรกล้าที่จะออกจาก comfort zone และตัดสินใจรับความเสี่ยงกัน

การรับความเสี่ยงจะฝห้ประโยชน์ต่อการทำธุรกิจหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาธุรกิจให้กาวหน้าได้มากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเจอกับนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น ช่วยให้เราเจอเจอกับโอกาสทางธุรกิจที่คู่แข่งมองไม่เห็น แถมยังช่วยให้ทุกคนพึ่งพอใจกับชีวิตมากขึ้นอีกด้วย เพราะคนที่กล้ารับความเสี่ยงจะไม่กลัวความล้มเหลว และพึ่งพอใจในทุกการตัดสินใจของตัวเอง

สิ่งที่เราควรทำก่อนตัดสินใจรับความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ความสามารถใน

การรับความเสี่ยงไม่ได้หมายความว่า หลับหูหลับตาตัดสินใจโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่มันต้องมันจำเป็นต้องมีความรู้ที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดีในทุกสถานการณ์ ซึ่ง UNLOCKMEN จะอธิบายต่อไปว่ามีอะไรบ้างที่เราควรทำก่อนรับความเสี่ยง

ทำหัวให้โล่งก่อนตัดสินใจรับความเสี่ยง

หากเราเครียด วิตกกังวล มีความคิดหรือมีอารมณ์ลบ ก่อนที่จะตัดสินใจรับความเสี่ยง สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เราอาจสูญเสียความสามารถในการคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบ ส่งผลให้เราเลือกในสิ่งที่ผิดได้ การตัดสินใจเรื่องใดก็ตาม (โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง) จึงจำเป็นต้องทำให้หัวโล่งก่อนตัดสินใจ  และอยู่ในภาวะผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด

เข้าใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเรา

บางทีการตัดสินใจของเราอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวธุรกิจอย่างเดียว แต่อาจส่งผลกระทบต่อเรื่องอื่นด้วย (เช่น ความสัมพันธ์) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ บางทีเราอาจต้องไปอยู่ที่นั้น และต้องจากคนรอบตัวไป เป็นต้น การตัดสินใจในเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงจึงส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราได้มาก เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจผลกระทบของการตัดสินใจ เพื่อให้เรารับความเสี่ยงได้ดีขึ้น

วางแผนจัดการความเสี่ยง

หากเราต้องตัดสินใจในเรื่องที่มีความเสี่ยงต่อการทำธุรกิจ สิ่งที่แรกที่เราทำคือค้นหากลยุทธ์ในการรับมือกับความเสี่ยงที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้เรา่มีความพร้อม และได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงน้อยลง โดยเราสามารถทำได้ทั้งหมด 4 ขั้นตอนได้แก่  1.ค้นหาความเสี่ยงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินของเรา เช่น  เราอาจขาดทุน หรือ เสียโอกาสทางธุรกิจ เป็นต้น 2.เมื่อเราพบความเสี่ยงแล้วต่อมา คือ การหาวิธีรับมือกับความเสี่ยงประเภทต่าง ๆ สัก 2 – 3 วิธี เช่น การสำรองทุน หรือ การเลิกจ้างพนักงาน ฯลฯ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เรามีแผนสำรองเมื่อวิกฤตเกิดขึ้น 3.ให้มีพนักงานที่ทำหน้าที่ในการระบุ บริหาร และลดความเสี่ยง เพื่อให้ธุรกิจสามารถคิดวิธีการรับมือกับความเสี่ยงก่อนหน้าที่มันจะเกิดขึ้น และมีความพร้อมในการรับมือกับมันมากขึ้น 4.จดบันทึกความเสี่ยง พยายามบันทึกวิธีการรับมือกับความเสี่ยงประเภทต่าง ๆ พร้อมระบุประสิทธิภาพของแผนรับมือความเสี่ยงเมื่อมันเกิดขึ้น

จำไว้ว่าโอกาสมีครั้งเดียว

เรื่องบางเรื่องเราอาจมีโอกาสในการตัดสินใจเพียงเดียวเท่านั้น หากเราไม่ลงมือทำโอกาสหน้าก็อาจไม่มาถึง และเราจะเสียใจภายหลังที่ไม่ได้ลงมือทำมัน ดังนั้น เมื่อเรายอมรับความเสี่ยงแล้ว เราก็ไม่ควรเสียใจภายหลัง เมื่อความล้มเหลวเกิดขึ้น แต่ควรจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เพื่อให้มีความสามารถในการตัดสินใจที่ดีขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม เราควรจำไว้ว่าต่อให้เราวางแผนได้ดีแค่ไหนก็ตาม เราก็เจอกับความท้าทายหรือปัญหาได้อยู่เสมอ นักธุรกิจจึงจำเป็นต้องรู้จักการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน พนักงาน หรือ ครอบครัว เพื่อขอแรงสนับสนุนและสร้างกำลังใจในยามที่เจอกับความยากลำบาก

Appendix: 1 / 2