Work

หัวร้อน เซ็ง เศร้ากับงานที่ทำ “5 อารมณ์ลบในออฟฟิศที่เตือนเรา”ให้เปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่

By: PSYCAT June 4, 2018

ผู้ชายสายบ้าพลังที่ทำงานเต็มสูบมาโดยตลอดอย่างเรา มักชินกับวิธีคิดที่ว่าอารมณ์ดีคือพลังบวก เราต้องอารมณ์ดีตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่เกิดอารมณ์ลบ ๆ อารมณ์แย่ ๆ ขึ้นมาเราเลยยิ่งหัวร้อนหงุดหงิดจัดการตัวเองไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าอารมณ์เชิงลบเหล่านี้แม่งไร้ค่าจริง ๆ แต่ UNLOCKMEN อยากให้ปรับความคิดใหม่ เพราะอารมณ์ลบ ๆ มันก็สำคัญเหมือนกัน เพราะมันเป็นสัญญาณที่กำลังเตือนให้เราปรับตัวกับอะไรบางอย่างตรงหน้า แต่ถ้าไม่รู้ว่ามันกำลังเตือนอะไรวันนี้ UNLOCKMEN จะมาตีแผ่ให้เห็นกัน

ความโกรธคือเครื่องเตือนถึงความไม่ยุติธรรม!

ความหัวร้อนอย่างอารมณ์โกรธมักเป็นอารมณ์ลบอันดับต้น ๆ ที่ถูกสังคมมองว่าควรสะกดมันไว้ให้มิด อย่าได้แหลมขึ้นมาให้ใครเห็นเห็นเป็นอันขาด ยิ่งบ้านเราที่พุทธศาสนามักพูดว่าโกรธคือโง่ด้วยแล้ว เราจึงมองอารมณ์โกรธในแง่ลบตลอดมา แต่จริง ๆ แล้วความโกรธช่วยกระตุ้นและขับเคลื่อนไปสู่การกระทำบางอย่าง รวมถึงคอยบอกเราว่าเมื่อไหร่ได้เวลาที่ต้องวางขอบเขตให้ชีวิตการทำงานแล้ว เพราะเมื่อเราโกรธนั่นแปลว่ามีใครบางคนกำลังล้ำเส้นความอดทนที่เราตั้งไว้ขึ้นมา ที่สำคัญความโกรธนี่แหละที่จะเป็นแรงกระตุ้นให้เราเรียกร้องอะไรบางอย่างเมื่อความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น

ความโกรธจึงเป็นสัญญาณสำคัญในการบอกว่ามีคนกำลังล้ำเส้นเราอยู่ สิ่งที่เราต้องดูคือ เราวางเส้นไว้แคบเกินไปไหม ? ขยายเส้นได้หรือเปล่า ? แต่ถ้าเรามั่นใจว่าเส้นเราคือมาตรฐานปกติแต่มีคนล้ำเข้ามา นั่นแปลว่าได้เวลาลงมือเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองแล้วล่ะ

ความวิตกกังวลเป็นสัญญาณว่าเราจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาด

หลายครั้งเวลาจะทำโปรเจกต์ใหญ่ ความวิตกกังวลมักจะมาเยือน แม้หลาย ๆ คนจะบอกว่า โธ่ ถ้าคุณเตรียมตัวดีคุณจะไม่วิตกกังวลเลย ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะบางคนต่อให้เตรียมตัวดีแค่ไหน ความวิตกกังวลก็ยังตามติดเหมือนวิญญาณอาฆาตอยู่ดี อย่ามัวคิดว่ามันทำให้ทุกอย่างพัง เพราะจริง ๆ มันคือสัญญาณที่ดีที่บอกว่าเราใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ และความวิตกกังวลจะกระตุ้นให้เราระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด รวมถึงเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง นอกจากนั้นความวิตกกังวลยังบอกได้อีกว่าเราไม่เหลิงกับผลงานตัวเอง แต่เราพร้อมจะทำมันให้ดีขึ้นตลอดเวลา

ความเบื่อหน่ายคือสัญญาณว่าเราต้องท้าทายตัวเองอีก

แม้ความเบื่อหน่ายจะเป็นสิ่งท้าย ๆ ที่เราอยากจะเจอในชีวิตการทำงาน เพราะความเบื่อหน่ายมาเยี่ยมออฟฟิศทีไรหัวใจมันห่อเหี่ยวเละเทะไปหมดจนเรารู้สึกว่ามันช่างไม่มีอะไรดีเอาซะเลย แต่จริง ๆ แล้วความเบื่อหน่ายคือสัญญาณบอกเหตุที่ดีว่าชีวิตเรากำลังต้องการความแปลกใหม่และความท้าทาย ดังนั้นถ้าเรากำลังเบื่องาน เบื่อชีวิต (ถ้าไม่นับว่ามันมีปัญหาที่ต้องแก้) อาจแปลว่าเรานิ่งอยู่กับที่มานานเกินไป ได้เวลาเติมสีสันรสชาติใหม่ ๆ หรือทำโปรเจกต์ใหญ่ให้ความเบื่อมลายหายไปได้แล้ว

ความเศร้าคือสัญญาณให้เราทบทวนตัวเอง

ความเศร้าก็เป็นอีกอารมณ์ความรู้สึกที่มักกระโจนเข้ามาคุกคามเราและชีวิตการทำงานของเราแบบหนักหน่วง แน่ล่ะ เวลาเรารู้สึกเศร้าทุกอย่างก็แย่ไปหมดจนเราอยากหลับตาลงยาว ๆ แล้วตื่นมาอีกทีตอนที่หายเศร้าแล้ว แต่อารมณ์ด้านลบอย่างความเศร้าก็เป็นสัญญาณเตือนบอกให้เราต้องหยุดพัก และคิดทบทวนให้ถี่ถ้วนลึกซึ้งได้แล้วว่าอะไรกันแน่ที่สำคัญกับชีวิตเรา ? อะไรคือคุณค่าของสิ่งที่เราทำอยู่ ? ถ้าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ใช่ แล้วอะไรกันแน่ที่มันเติมเต็มความหมายให้กับเรา ดีกว่าเศร้าเฉย ๆ แล้วปล่อยให้มันกัดกินเราตลอดไป แต่ถ้าเศร้าหนักจนทำงานไม่ได้ เราก็อยากให้ลองปรึกษาจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านดูนะ

ความคลางแคลงใจเป็นสัญญาณให้เราเตรียมตัวให้พร้อม

บางทีเราก็ไม่มั่นใจกับโปรเจกต์ที่เราทำเอาเสียเลย บางทีเราก็คลางแคลงใจกับวิธีการทำงานของเพื่อนร่วมงานเอามาก ๆ จนเรารู้สึกว่าไอ้ความรู้สึกไม่มั่นใจนี่มันช่างบั่นทอนการทำงานเหลือเกินว่ะ! ไม่มีใครเชื่อใจใครได้เลย จริง ๆ มันเป็นสัญญาณให้เราทบทวนตัวเองว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ?” และมันจะกระตุ้นให้เราเตรียมพร้อมกับงานตรงหน้ามากขึ้น รวมถึงผลักดันให้เราทำงานหนักกว่าเดิม หรือถ้าไม่หนักกว่าเดิมก็ต้องลองวิธีที่ต่างออกไป และความคลางแคลงใจนี่เองที่จะทำให้เราค่อย ๆ ปรับตัว หาวิธีการทำงานร่วมกับคนที่เห็นต่างกับเราได้มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

อารมณ์ลบ ๆ ในที่ทำงานเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเรามองแค่ว่ามันเป็นปีศาจร้ายต้องกำจัดมันออกไปให้ไวเพียงอย่างเดียวนอกจากจะกดดันตัวเองแล้วยังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยอีกด้วย แต่ถ้าหาสัญญาณที่มันกำลังบอกเราอยู่ให้เจอ เราเชื่อว่านี่คือการปลดล็อกศักยภาพแห่งการเรียนรู้อารมณ์ตัวเองได้อีกระดับ และจะทำให้ทำงานได้คล่องขึ้นแน่นอน

SOURCE

 

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line