NIHON STORIES: “ดาบพิฆาตอสูร” การตื่นครั้งใหม่ของมังงะใกล้ตายสู่รายได้หลักพันล้านเยน

เวลานี้หากพูดถึงมังงะโชเน็นหรือการ์ตูนลูกผู้ชายทางฝั่งญี่ปุ่น เรื่องราวการผจญภัยของสองพี่น้อง ‘ทันจิโร่’ กับ ‘เนซึโกะ’ จากเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba, Demon Slayer) ก็คงเป็นหนึ่งในมังงะที่ถูกหยิบยกมาพูดบ่อย ๆ ในวงสนทนา เพราะดาบพิฆาตอสูรสามารถทำลายสถิติเก่า ๆ เป็นว่าเล่น แถมยังมียอดขายเล่มแซง ‘วันพีซ’ แชมป์เก่าที่ครองบัลลังก์นานนับสิบปี หรือจะความกลมกล่อมของเวอร์ชันแอนิเมชันทำให้คนเริ่มรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้มากขึ้น

ผลงานเรื่องดาบพิฆาตอสูรเกิดขึ้นโดยอาจารย์ โคโยฮารุ โกโตเกะ (Koyoharu Gotouge) นักเขียนการ์ตูนสั้นดาวรุ่งอายุน้อย ที่มีโอกาสลงผลงานของตัวเองกับนิตยสารมังงะชื่อดัง โชเน็น จัมพ์ (Shonen Jump!) ส่งเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มที่โดน vปีศาจพรากครอบครัวไปเกือบหมดเหลือเพียงน้องสาวสู่สายตาสาธารณชน

เมื่องานเสร็จสิ้นใคร ๆ ต่างต้องอยากทราบฟีดแบคหรือผลตอบรับว่าดีหรือไม่ ซึ่งผลของดาบพิฆาตอสูรคือ “ยังไม่ค่อยน่าประทับใจนัก”

เสียงของนักอ่านต่อมังงะค่อนข้างกล่าวไปทางเดียวกัน บ้างก็ว่าเนื้อเรื่องเดินเป็นเส้นตรงเกินไป ซ้ำซากกับการ์ตูนโชเน็นอื่น ๆ รวมถึงลายเส้นไม่ค่อยดึงดูดในช่วงแรก (ตอนหลังลายเส้นของมังงะเริ่มดีขึ้นแล้ว) ส่วนหนังสือการ์ตูนก็มียอดขายแค่หลักหมื่น บั่นทอนกำลังใจทั้งคนเขียนและสำนักพิมพ์ จนใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเรื่องราวการตามล่าอสูรตัวบอสที่ฆ่าครอบครัวของทันจิโร่กับเนสึโกะมีแววจะโดนตัดจบกลางคัน เหมือนกับมังงะเรื่องอื่นที่ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้

ทว่าหนังสือการ์ตูนที่มีแววจะถูกโละกลับสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเสียอย่างนั้น เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงตอนแรกกลายเป็นการปูทางสู่เนื้อหาเข้มข้นขึ้นจนวางไม่ลง วิธีการนำเสนอเรื่องราวที่หลายคนว่าทื่อๆ กลับเผยให้เห็นสีสันแปลกใหม่ จังหวะที่คิดมาอย่างดีว่าเวลาไหนจะผูกปมหรือเวลาไหนควรคลี่คลายปม กอปรกับลายเส้นที่พัฒนาขึ้น ทุกอย่างเผยให้เห็นความทุ่มเทของคนเขียนและทีมงานที่มีส่วนร่วมทำมังงะดาบพิฆาตอสูร

ตัวละครเอกจิตใจดีงามที่รักน้องสาวมากกว่าใคร การเล่าถึงพัฒนาการของสองพี่น้องที่ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิดทำให้คนอ่านเกิดความผูกพันได้ไม่ยาก ส่วนตัวร้ายโคตรจะชั่วก็มีมุมน่าสงสารชวนเห็นใจ นำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองสีเทา ๆ กับจิตใจดีงามแต่ไม่โลกสวยเกินไปของตัวเอก สิ่งเหล่านี้ช่วยกระเตื้องยอดขายช่วงหลังได้บ้าง ทว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญทำให้กระแสแผ่วใกล้บอกลาของดาบพิฆาตอสูรฟื้นขึ้นอีกครั้งคือ “แอนิเมชัน”

ต้องยอมรับว่าคนไทยหลายคนรู้จักมังงะเรื่องดาบพิฆาตอสูรจาก Netflix ทั้งการโปรโมตและการบอกปากต่อปาก ส่วนคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่ตามาตั้งแต่แรกพร้อมญี่ปุ่นที่ได้ดูก่อนก็ติดใจลายเส้นของค่าย Ufotable Studio ซึ่งสร้างสรรค์ออกมาได้สวยงามน่าประทับใจ คอสตูมสีสันจัดจ้าน บางฉากบางตอนสัมผัสกลิ่นอายของเมืองหลวงกับความเป็นชนบทญี่ปุ่นร่วมสมัย ดึงดูดคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ดูแล้วรู้สึกว่าเพลิดเพลินและไม่เสียเวลา

การฟันดาบหรือการใช้ท่าไม้ตายที่นำเสนอความพลิ้วไหวคล้ายสายน้ำออกมาสวยงามโดดเด่นจากมังงะต่อสู้เรื่องอื่น ๆ ควบคู่ด้วยดนตรีประกอบเร้าใจ นักพากย์ที่ทำผลงานดีเยี่ยม เพลงเปิด-ปิดเรื่องได้นักร้องชื่อดังของญี่ปุ่นมาร่วมงาน หลายปัจจัยจากแอนิเมชันส่งให้ชื่อของดาบพิฆาตอสูรเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

เมื่อดูแอนิเมชันจนติด มีคนไม่น้อยยอมตามไปอ่านมังงะที่เดินเรื่องไปไกลกว่าเวอร์ชันแอนิเมะ เกิดการตั้งกระทู้เพื่อพูดคุยกับคนคอเดียวกัน จากเมื่อก่อนแทบไม่มีคนพูดถึงดาบพิฆาตอสูรก็เริ่มอยู่ในสื่อโซเชียลเยอะขึ้น หนังสือมียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีแบรนด์ข้าวของเครื่องใช้หรือแบรนด์แฟชั่นเริ่มให้ความสนใจอยากนำตัวละครไปอยู่บนสินค้า ทางสำนักพิมพ์กับนักเขียนได้กินค่าลิขสิทธิ์แถมยังทำให้คนที่ไม่อ่านการ์ตูนเห็นคาแรคเตอร์ตัวละครจากสินค้า ทำให้การ์ตูนใกล้ตายได้ต่อลมหายใจอีกครั้ง

จากการ์ตูนเกือบโดนตัดจบ อยู่ ๆ ดังจนเกิดกระแสทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่า “ดาบพิฆาตอสูรคืออะไรวะ ?” ส่งให้การเติบโตของมังงะเรื่องนี้จาก ‘ขายได้น้อยมาก’ ก้าวสู่ ‘ขายดี’ และ ‘ขายโคตรดี’ ตามลำดับ

นอกจากนี้ หลังจากวันพีซสามารถครองแชมป์ยอดขายหนังสือการ์ตูนอันดับหนึ่งติดต่อกันนับสิบปี กลับโดนการ์ตูนที่เคยอยู่นอกสายตาเรื่องดาบพิฆาตอสูรกลับล้มแชมป์เก่าอย่างสมศักดิ์ศรี ขึ้นแท่นมังงะขายดีอันดับหนึ่งประจำปี 2019 นอกจากนี้ ยอดขายของดาบพิฆาตอสูรก็ยังเคยทิ้งห่างจากวันพีซเกือบ 40 ล้านเล่ม เตรียมเป็นหนึ่งในการ์ตูนระดับตำนานที่เด็ก ๆ จะต้องรู้จักในภายภาคหน้า ก้าวมาไกลจากวันที่เกือบล้มมาสู่การยืนอย่างภาคภูมิ

Source: 1 / 2 / 3
Source Photo: 1 / 2 / 3 / 4