“แสนสิริ” ก้าวสู่ระดับโลกด้วยการผนึกกำลัง 6 ไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำ สะท้อนวิสัยทัศน์ระดับโลกเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ และ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ จับมือกับ 6 พันธมิตรระดับโลกด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำ จัดงาน ‘EVERYDAY VISIONARIES: The evolution of next-generation living’ จัดงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกมาให้ได้สัมผัสก่อนใคร ตอกย้ำความสำเร็จการขยายขอบข่ายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างรอบด้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีผู้บริหารจากแบรนด์พันธมิตรทั้ง 6 บินมาร่วมงาน ได้แก่ มร. อามาร์ ลาลวานี่ ซีอีโอ และ Managing Partner สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล มร. ไทเลอร์ บรูเล่ ผู้ก่อตั้ง Monocle มร. วัน ซิง คง ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง JustCo มร. จิมมี่ ซูฮ์ ประธานบริหาร One Night มร. นกุล ชาร์มา ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ Hostmaker และ มร. แอนดรู เชียเรอร์ ซีอีโอ Farmshelf

นอกจากนี้ ยังมีผู้นำจากแวดวงธุรกิจและในสังคมชั้นนำมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ พอล สิริสันต์ ณ เดอะ ซัมเมอร์ เฮ้าส์ โปรเจ็ค โครงการ เดอะ แจม แฟคทอรี่ (The Summer House Project, The Jam Factory)

แสนสิริ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจและเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2527 โดยวิสัยทัศน์ของแสนสิริอันมุ่งมั่นในการเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ยังมุ่งเน้นไปที่ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว แสนสิริ ก้าวล้ำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยแผนการลงทุนร่วมกับกับ 6 บริษัทพันธมิตรในครั้งนี้มูลค่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือ 2,800 ล้านบาท เพื่อมอบประสบการณ์จากสิ่งที่ดีที่สุดผ่านการคัดสรรแบรนด์ชั้นนำระดับโลก โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในอนาคต ครอบคลุมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิต การทำงาน การพักผ่อนหย่อนใจ และการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีและสื่อรูปแบบใหม่ ๆ

Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล)

The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) เป็นแบรนด์โรงแรมสุดฮิปที่ได้รับการกล่าวขานและทรงอิทธิพลมากที่สุดใน ธุรกิจบูติกโฮเทล (Boutique Hotel) ปัจจุบันมี 5 แห่งในสหรัฐอเมริกา คือ ไฮไลน์ (Highline) และอีสต์ วิลเลจ (East village) ในมหานครนิวยอร์ก ฮอลลีวูด (Hollywood) และย่านดาวน์ทาวน์ในเมือง ลอสแอนเจลิส (Downtown, Los Angeles) ไมอามี่บีช (Maimi beach) ในเมืองไมอามี่ และอีก 3 แห่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ คือ ลอนดอน (London)

The Standard ถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมประเภทไลฟ์สไตล์ และเป็นต้นแบบของการสร้างประสบการณ์การเข้าพักในโรงแรมในรูปแบบใหม่หมดทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบ เปรียบเสมือนเป็นสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมเฉพาะตัว (Standard Culture) ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่น ในทุก ๆ องค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ สไตล์การตกแต่ง ร้านอาหาร บาร์ที่มีคุณภาพเป็นเลิศ ไนท์ไลฟ์ หรือแม้แต่ผู้คนที่เข้ามาใช้บริการ โดยในแต่ละสถานที่จะมีคอนเซ็ปท์ของสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละเมือง ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรม คุณค่า และวิถีชีวิตของคนเมืองนั้น ๆ และมีช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่โดดเด่นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ทำงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมาย ทั้งในเมืองที่ตั้งของโรงแรมและที่อื่น ๆ ด้วยการลงทุนมูลค่า 58 ล้านดอลล่าร์ แสนสิริจะเป็นผู้ถือหุ้น 35% ในสี่กลุ่มธุรกิจของ Standard International ประกอบด้วย The Standard Hotel Operations and Management, Bunkhouse Group, แอพพลิเคชั่น One Night และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรม

วันไนท์ (One:Night)

One Night เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการจองโรงแรมที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มบริษัทเจ้าของบริษัท เดอะ สแตนดาร์ด โฮเท็ล กรุ๊ป เป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่ เป็นศูนย์กลางการจัดจำหน่ายห้องพักจากหลายหลายโรงแรมชั้นนำที่ถูกออกแบบโดยบริษัทที่ทำธุรกิจโรงแรม One Night คือ แพลตฟอร์มที่ใช้งานบนเครือข่ายโมบายซึ่งสร้างรายได้จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการจองโรงแรมบนเครือข่ายโมบาย ความต้องการในโรงแรมที่พักที่สร้างประสบการณ์อันน่าจดจำ ตลอดจนไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งของกลุ่มลูกค้าผู้บริโภครุ่นใหม่ One Night จึงเกิดขึ้นเพื่อนำเสนอแนวความคิดใหม่ในธุรกิจโรงแรม ซึ่งไม่มองคู่แข่งเป็นคู่แข่ง แต่มองคู่แข่งเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพในการทำอะไรร่วมกันได้เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้าและเสริมสร้างธุรกิจไปด้วยกัน

วันไนท์มีบริการเฉพาะบนโทรศัพท์มือถือ เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถจองโรงแรมได้ในวันที่ต้องการจะเข้าพักเท่านั้น (Same-day booking) โดยให้บริการจองตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึง 05.00 น. ของทุกวัน เพื่อเปิดโอกาสและมอบประสบการณ์ให้ผู้คนที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศได้เข้ามาพักผ่อนและแฮงก์เอาท์ในสถานที่ใหม่ ๆ ในราคาที่ถูกลง ปัจจุบันมีให้บริการแล้วกว่า 11 เมือง อาทิ นิวยอร์ก (New York) บอสตัน (Boston) ชิคาโก (Chicago) วอชิงตัน ดีซี (Washington. D.C.) และลอนดอน (London)

 Hostmaker (โฮสต์เมกเกอร์)

Hostmaker บริษัทสตาร์ทอัพมาแรงจากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ผู้ให้บริการการเช่าที่พักอาศัยและผู้บริหารการจองที่พักอันดับหนึ่งของ Airbnb ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมาแล้ว โดยจัดการดูแลในด้านต่าง ๆ อาทิ การเช็คอิน ทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูที่นอน จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงเป็นตัวกลางในการติดต่อระหว่างเจ้าของบ้านและผู้เช่า แสนสิริเล็งเห็นถึงเทรนด์ home-sharing หรือการแบ่งที่พักอาศัยให้เช่ากำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้บริการด้านบริหารที่พักอาศัยเติบโตขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบัน Hostmaker ให้บริการใน 4 เมืองคือ ลอนดอน (London) โรม (Rome) ปารีส (Paris) บาร์เซโลน่า (Barcelona) และได้ให้บริการแขกผู้มาเข้าพักมากกว่า 150,000 คนทั่วโลก

 JustCo (จัสท์โค)

ผู้ให้บริการ Coworking Space สัญชาติสิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2015 ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งหมด 11 แห่ง และมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 20 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2561 แสนสิริเล็งเห็นว่าในอนาคตองค์กรขนาดใหญ่จะหันมาใช้สถานที่ทำงานแบบโคเวิร์คกิ้งสเปซมากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พนักงานเกิดพลังสร้างสรรค์ การผสมผสานทางความคิด และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี แสนสิริวางเป้าหมายให้ JustCo ขยายการเติบโตอย่างรวดเร็ว

 ฟาร์มเชลฟ์ (Farmshelf)

Farmshelf คือผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมการเพาะปลูกแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถปลูกผักเพื่อการบริโภคได้ง่ายดายภายในบ้านหรือที่ทำงาน แสนสิริลงทุนใน Farmshelf เนื่องจากเล็งเห็นถึงการเติบ

โตอย่างรวดเร็วของธุรกิจด้านสุขภาพ และแนวโน้มของผู้บริโภคที่มีความต้องการอาหารคุณภาพที่สดใหม่ รวมทั้งปรากฏการณ์การพักอาศัยแบบร่วมมือแบ่งปันกัน (collaborative living) ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่หันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ต้องการที่จะเลือกบริโภคอาหารที่สะอาด สด ใหม่ และมีประโยชน์ แต่ไม่มีเวลาและสถานที่ไม่เอื้ออำนวย

โมโนเคิล (Monocle)

สื่อไลฟ์สไตล์พรีเมียมระดับโลกจากประเทศอังกฤษที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก่อตั้งในปี 2007 ประกอบด้วย นิตยสาร เว็บไซต์ โทรทัศน์ วิทยุ ร้านค้า และคาเฟ่ Monocle สามารถสร้างความสำเร็จด้วยการนำเสนอประสบการณ์แบบลักชัวรี่ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ผสมผสานกับการเป็นผู้บุกเบิกในการใช้สื่อเสียง ร้านค้ารีเทล และบริการโรงแรมที่พัก โมโนเคิลมีจุดเด่นทั้งด้านทัศนคติ วิสัยทัศน์และการนำเสนอโดยคลอบคลุมเนื้อหาที่น่าสนใจจากทั่วมุมโลกอย่างมี ‘รสนิยม’ ตั้งแต่แบรนด์ที่น่าสนใจ บุคคลที่มีบทบาททางการเมือง เศรษฐกิจ แนวคิดใหม่ ๆ ใน วัฒนธรรม ธุรกิจขนาดย่อม แหล่งช้อปปิ้ง แฟชั่น ไปจนถึงแรงบันดาลใจสำหรับดีไซน์ เป็นต้น โดยผู้อ่านโมโนเคิลจะได้รับรู้เรื่องราวจากทั่วโลกผ่านมุมมองจากคนท้องถิ่นที่รู้ลึกถึงข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ

แสนสิริ มอบประสบการณ์สุดพิเศษระดับอินเตอร์ นำจุดเด่นความเป็นไอคอนิกของทั้ง 6 แบรนด์มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานสุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ อาทิ ซิกเนเจอร์ค็อกเทล ในสไตล์ เดอะ สแตนดาร์ด ที่เป็นที่โปรดปรานของเหล่าแฟชั่นนิสต้าและดาราฮอลลีวูดที่มักจะมา สังสรรค์กันหลังจบงานนิวยอร์กแฟชั่นวีค ลิ้มรสคานาเป้ที่นำผักที่ปลูกโดยฟาร์มเชลฟ์มาปรุงอาหารและคิดค้นเมนูขึ้นใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพ Iconic Live ที่ให้ทุกคนได้เป็นคนสำคัญ หรือ Iconic ของงาน พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศภายในงานที่ถูกเนรมิตในสไตล์ Blue Jungle เคล้าคลอไปกับเสียงเพลงจากดีเจมืออาชีพ พอลลี่-พอล สิริสันต์

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริวางเป้าหมายการเติบโตในระดับสูง และการลงทุนครั้งนี้นับเป็นการพัฒนาที่อยู่นอกเหนือธุรกิจหลักของเราเป็นครั้งแรก เรากำลังขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกและมุ่งลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพที่ดีในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ จากธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และอาศัยพันธมิตรในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเราไปพร้อม ๆ กัน”

“ก้าวสำคัญต่อไปของเรา คือ การมุ่งตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคโดยการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะผลักดันให้แสนสิริก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ระดับโลก เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายยังนับเป็นการพลิกโฉมแสนสิริเพื่อสร้างการเติบโตสู่อนาคต โดยให้ความสำคัญใน 3 ด้านคือ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการพักอาศัยร่วมกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำ เสริมสร้างบทบาทความเป็นผู้นำและขยายฐานกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม” นายเศรษฐาเสริม

ติดตามข่าวสาร SANSIRI เพิ่มเติมได้ทาง
WEBSITE: SANSIRI
FACEBOOK: sansirifamily