รู้จัก SPUR “Special Purpose Unmanned Rifle” หุ่นสุนัขสังหารติดไรเฟิลเพื่อการสงคราม

หลายคนคงคุ้นเคยกับ Spot หุ่นยนต์สี่ขา (quadruped robot) ของบริษัท Boston Dynamics กันอยู่แล้ว มันมีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเดินขึ้นบันได การลุกด้วยตัวเองเมื่อล้ม การสำรวจ หรือ การส่งของในพื้นที่ทุรกันดาร เป็นต้น มันยังมีหุ่นยนต์อีกตัวหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับมันชื่อว่า ‘Vision 60’ หุ่นยนต์สี่ขาที่สร้างโดย Ghost Robotics ซึ่งตอนนี้มันกำลังถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะมันถูกนำมาอัพเกรดใหม่ให้มีความสามารถในการสังหารศัตรูมากขึ้น

ในงานประชุมประจำปีของสมาคมทหารสหรัฐฯ (Association of the United States Army) ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 – 13 ตุลาคม ที่วอชิงตันดีซี ได้มีการเปิดตัวหุ่นยนต์ Vision 60 รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า SPUR (special purpose unmanned rifle) ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Ghost Robotics และผู้พัฒนาอาวุธสงคราม SWORD Defense System

โดยหุ่นยนต์ตัวนี้จะมาพร้อมกับความสามารถในการสังหารศัตรู ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งปืนไรเฟิลขนาด 6.5 มิลลิเมตร สามารถยิง 10 นัด พร้อมระยะหวังผลที่ไกลถึง 1,200 เมตร หรือ การติดตั้งกล้องพิเศษที่สามารถซูมแบบออฟติคอลได้ไกลถึง 30x และมีระบบตรวจจับความร้อนของร่างกายมนุษย์ เพื่อใช้ในการค้นหาศัตรูในตอนกลางคืน

ตัวหุ่นยนต์จะมาพร้อมกับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ การควบคุมจากทางไกล และ AI ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ ตรวจจับ และล็อคเป้าสิ่งที่คาดว่าจะเป็นศัตรูแบบอัตโนมัติ แต่มันไม่สามารถโจมตีศัตรูแบบอัตโนมัติได้ (เพราะเรื่องนี้ยังผิดกฎหมายทหารของสหรัฐฯ) ผู้ควบคุมยังต้องทำหน้าที่สั่งให้หุ่นยนต์ยิงปืนอยู่

ส่วนความสามารถและลักษณะอื่นของ Vision 60 จะคล้ายคลึงกับ Spot พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการเดินขึ้นบันได ความสามารถในการสำรวจพื้นที่กันดาร ความสามารถในการลุกขึ้นด้วยตัวเองเมื่อล้มลง ความสามารถในการแบกของได้หนัก 31 ปอนด์ หรือ ความสามารถในการวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 5.24 ฟุตต่อวินาที (ซึ่งทาง Ghost Robotics กำลังพัฒนาให้ Vision 60 สามารถวิ่งได้เร็วถึง 9.84 ฟุตต่อวินาที)

แม้หุ่นยนต์ตัวนี้จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านการทหาร แต่การพัฒนาหุ่นยนต์นักฆ่า หรือ Killer Robot ก็เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับคนบางกลุ่มอยู่ เพราะหุ่นยนต์ขาดความเป็นมนุษย์ จึงมีโอกาสที่หุ่นยนต์จะตัดสินใจสังหารคนผิดพลาดได้มากกว่ามนุษย์ ยังคงต้องดูต่อไปว่า การพัฒนาหุ่นยนต์จะไปได้ไกลแค่ไหน

Appendix: 1 / 2