รวมสัญญาณบ่งบอกว่าคุณมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ทุกวันนี้เราสังเกตเห็นว่าผู้คนรอบตัวของเรานั้น เริ่มต้นทำธุรกิจกันแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลาง หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ทำงานประจำไปด้วย ทำธุรกิจไปด้วย หรือแม้แต่คนที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วก้าวไปเป็นเจ้าของกิจการก็มีให้เห็นอยู่เสมอ บ้างก็เจริญรุ่งเรือง บ้างก็เจ๊งล้มไม่เป็นท่า ก็ยังมีให้เราได้เรียนรู้อยู่บ่อยครั้ง

สำหรับคนที่กำลังทำธุรกิจอยู่ หรือกำลังจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง คุณคิดไหมคะว่ามันมีสัญญาณอะไรบ้างไหมที่จะช่วยชี้ทางว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จ ถ้าให้เราชี้ชะตาเสมือนว่ามองเห็นอนาคตเลยนั้นก็คงต้องบอกตรงๆ ว่าไม่มีหรอกค่ะ แต่ถ้าให้เราวัดจากศักยภาพที่ตัวคุณเองมี ก็คงต้องบอกว่ามันสามารถบอกได้ประมาณหนึ่งเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่จะช่วยบ่งบอกว่าคุณมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จบ้าง เชื่อเราเถอะว่าจุดเริ่มต้นที่ดีมันเริ่มจากกระบวนการความคิดของตัวคุณจริงๆ

1. คุณมีความกระตือรือร้น

เราเชื่ออย่างยิ่งว่าความกระตือรือร้นคือธรรมชาติของผู้ประกอบการทุกคนพึงมี คุณทำธุรกิจมีโปรเจ็คอยู่ในมือมากมายที่ต้องบริหารดูแล หากคุณไม่มีความกระตือรือร้น หวังแค่ว่าลูกน้องที่คุณจ้างมาจะมาทำงานแทนคุณทั้งหมด แต่พวกเขาเหล่านั้นยังไม่เคยเห็นความขยันของเจ้านายเลย แบบนี้ธุรกิจก็อาจจะเจ๊งไม่เป็นท่า ในชีวิตที่ผ่านๆ มานั้น เราก็ยังไม่เคยเห็นเจ้าของกิจการคนไหนที่ไม่กระตือรือร้น หรือไม่ขยันทำงานทำการมาก่อนเลย ฉะนั้นจงขยันขันแข็ง กระตือรือร้นใฝ่หาความรู้เพื่อกิจการที่รุ่งโรจน์ของคุณเอง

2. คุณจะมุ่งมั่นไปที่เป้าหมายเสมอ

ไม่ว่าจะทำอะไรคุณก็ควรมีเป้าหมายเสมอค่ะ ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่คุณก็ควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน และหากมีเพียงเป้าหมายแต่ขาดความมุ่งมั่นก็คงจะไม่สมดุลกันเท่าไรจริงไหมคะ ฉะนั้นความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณจะก้าวไปถึงเป้าหมายช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของตัวคุณด้วย ใครที่ทำธุรกิจอยู่ตั้งเป้าไว้แล้ว โฟกัสเส้นทาง แล้วทำมันด้วยความมุ่งมั่น เหนื่อยก็พักบ้างแค่อย่าปล่อยให้ตัวเองหมดไฟก็พอ

3. มีความสามารถในการสื่อสารเป็นอย่างดี

ข้อนี้สำคัญอย่างไร บอกเลยว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือไม่นั้นหากคุณมีทักษะในเรื่องของการสื่อสารกับผู้คน บอกเลยว่าในสนามนั้นคุณมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ เหตุใดการสื่อสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องคุยงานกับลูกน้อง ลูกค้า หรือดีลงานกับคนมากมาย ความสามารถในการพูด ความสามารถในการเข้าใจล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ หากคุณเกลี้ยกล่อมลูกค้าเป็น ปลุกใจลูกน้องได้ สิ่งนี้จะพาคุณก้าวไปสู่จุดสูงสุดของธุรกิจได้ไม่ยากเลย ลองสังเกตดูนะคะว่าตัวคุณนั้นมีสิ่งนี้อยู่บ้างหรือยัง ถ้ายังรีบหาทางจัดการมันโดยด่วน

4. มีความกล้าหาญ

จะทำธุรกิจสักหนึ่งอย่าง ความกล้าหาญมันควรจะติดตัวมากับคุณแล้ว กล้าหาญในเรื่องใดบ้าง ข้อหนึ่งเลยกล้าหาญในเรื่องของการตัดสินใจคุณสามารถตัดสินใจและชี้ขาดให้ได้ เช่น ลูกน้องมาถามหรือมาปรึกษาคุณในปัญหาที่เกิดขึ้น แต่คุณไม่สามารถช่วยลูกน้องคุณตัดสินใจได้เลย แบบนี้ความน่าเชื่อถือคุณจะถูกทำลายลงไปหนึ่งขั้นแล้วค่ะ ธุรกิจนี้คุณเข้าใจมันดีที่สุด หากคุณยังไม่สามารถจะตัดสินใจได้ว่าอะไรดีหรืออะไรไม่ดี ใครกันจะมารู้ดีไปกว่าคุณจริงไหม สองกล้าหาญและสามารถยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ในวงการของธุรกิจนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าความเสี่ยงเป็นเรื่องที่คุณต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพราะทุกการลงทุนมันมีความเสี่ยงแทบทั้งสิ้น การลงทุนไปกับโปรเจ็คๆ หนึ่ง มันอาจจะทำให้คุณขาดทุน หรือมันอาจทำให้คุณได้รับกำไรถล่มทลายก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าคุณอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ไม่กล้ายอมรับความเสี่ยงต่างๆ ธุรกิจของคุณอาจจะย้ำอยู่กับที่ไม่มีวันเติบโต ฉะนั้นจงกล้าหาญ และวางกลยุทธ์ให้พร้อม

5. เต็มไปด้วยความคิดริเริ่ม และสามารถแก้ไขปัญหาได้ดี

ความคิดริเริ่มเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ หากคุณมีเซ้นท์ในเรื่องนี้ ธุรกิจของคุณน่าจะส่อแววดีแน่นอน ความคิดริเริ่ม ความคิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนโลกใบนี้ได้เสมอ คุณเป็นแม่ทัพ เป็นกองหน้า การโยนไอเดียลงไปในที่ประชุม ในบริษัทของคุณ เพื่อเปิดให้ทุกๆ คนมาต่อยอด นำมันไปคิดให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ เพื่อให้เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงภาพในหัวของคุณมากที่สุด ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากคุณไม่มีความคิดริเริ่ม คุณมีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะคะ ถ้าคุณไม่สามารถเป็นผู้นำคนอื่นได้ จะใช้เงินเพื่อไปจ้างคนมาจัดการบริหารธุรกิจของคุณเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ดีเท่าไร หลังจากนั้นเมื่อคุณโยนไอเดียไปแล้ว มีการทำมันให้เกิดขึ้นจริง ระหว่างขั้นตอนมันอาจเกิดปัญหาขึ้น คุณเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่แก้ไขมันให้ได้ ฉะนั้นต้องเข้าใจธุรกิจของตัวเองให้มากพอก่อน แล้วการแก้ไขปัญหาจะเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับคุณเลย

6. คุณเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำเสมอ

เคยฟังเพลงความเชื่อของบอดี้แสลมไหมคะ นั่นแหละค่ะตอบคำถามข้อนี้ได้ชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุด ธุรกิจเงินเป็นแสนเป็นล้านอยู่ในมือของคุณแล้ว ความเชื่อคืออีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้ คุณมีกำลังทรัพย์แต่คุณไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะสามารถสร้างธุรกิจนี้ให้เติบโตคุณก็จะเต็มไปด้วยความกลัว ทุกอย่างถูกฟรีซให้อยู่กับที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย แต่ถ้าคุณมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราวางแผนมาเป็นอย่างดีนี้จะทำให้ธุรกิจของเราก้าวไปไกลกว่านี้ได้ สัญญาณนี่แหละที่จะเริ่มดึงความสำเร็จเข้ามาใกล้ตัวคุณทุกทีๆ เชื่อมั่น วางแผน เชื่อมั่น ลงมือทำ เชื่อเถอะค่ะว่ามันต้องไปได้ไกล อย่าปล่อยให้ความกลัวมันกลบความเชื่อของคุณจนมิด

7. เมื่อเกิดความผิดพลาดคุณจะปรับปรุงตัวเอง ไม่หยุดพัฒนา และเริ่มทำในสิ่งใหม่ๆ

ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แต่จะทำอย่างไรให้มันเกิดขึ้นได้น้อยที่สุด สิ่งแรกเลยก็คือเมื่อเกิดความผิดพลาดแล้วคุณเรียนรู้ จดจำ แล้วปรับปรุงมัน ย้ำเตือนตัวเองเสมอว่ามันไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ปิดรอยรั่วให้มิดก่อนที่จะปล่อยมันไป อย่าเพิกเฉย อย่าปล่อยให้ผิดแล้วผิดอีก ปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดแล้ว ก็อย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ถึงแม้ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองรู้เรื่องนี้ดีที่สุดแล้ว คุณก็ควรจะก้าวต่อไปให้สุด พัฒนามันทุกวัน เมื่อคุณปรับปรุง พัฒนา การคิดค้นและเริ่มทำในสิ่งใหม่ๆ จะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย เพราะอาวุธที่ดีที่สุดอยู่ในมือของคุณแล้วค่ะ

นี่ไม่ใช่การชี้ชะตาของใครทั้งนั้น เป็นเพียงแค่คำแนะนำที่เราหวังว่ามันจะเป็นแรงขับให้คุณหันมาพัฒนาตัวเอง และธุรกิจของตนเองอยู่เสมอ ถึงแม้คุณบอกว่าธุรกิจมันก็อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโชคเข้าไปด้วย แต่จะอาศัยโชคทั้ง 100 % มันก็ไม่ใช่หรอกนะคะ มีโชค มีโอกาส รู้จักที่จะวางกลยุทธ์ เข้าใจธรรมชาติของธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ เรียนรู้ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้เองที่มันจะประกอบกันจนทำให้ธุรกิจของคุณสำเร็จพร้อมมอบกำไรให้คุณได้มากมาย ตั้งใจ ลงมือทำ หากคุณมีครบ 7 ข้อ หรือครึ่งในนี้ความฝันคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ที่สำคัญคืออย่าหยุดพัฒนาตัวเองค่ะ

ข้อมูลบางส่วนจาก : lifehack

cover photo  : ภาพยนตร์เรื่อง Chef