“โลกอนาคตแม่งอยู่ใกล้เราแค่ปลายจมูก” มั่นใจว่าจากสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันทำให้หลายคนกำลังคิดแบบนี้อยู่เป็นแน่แท้ แต่สิ่งที่ตอกย้ำว่าเรื่องราวในโลกอนาคตนั้นกำลังดำเนินอยู่จริงในช่วงชีวิตของพวกเรา ไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์ล้ำสมัยไฮเทค, ระบบ AI อัจฉริยะ หรืออะไรต่อมิอะไรที่เคยเห็นในการ์ตูนโดเรมอน รวมถึงหนังไซ-ไฟ เมื่อวัยเด็ก แต่ ณ ตอนนี้ ภาพที่เห็นชินตาจากหนังที่ว่าด้วยโลกอนาคต ภาพของมนุษย์ที่พยามดิ้นรนไขว่คว้าหาอากาศบริสุทธิ์ เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติฝุ่นพิษ และการแพร่กระจายของเชื้อโรค เชื้อไวรัสต่าง ๆ นา ๆ ด้วยอุปกรณ์กรองอากาศ ป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งที่ติดตั้งประจำบ้าน หรือสวมใส่ติดตัวตลอดเวลาแบบไปไหนไปกัน ที่กำลังเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน นี่แหละคือสิ่งที่หากย้อนเวลาไปแค่สัก 5 ปี – 10 ปี หากมีใครเดินมาบอกว่าในอนาคตอันใกล้ ‘อากาศดี ๆ จะไม่ใช่ของฟรีอีกต่อไป’ ร้อยทั้งร้อยเราคงคิดว่าไอ้นี่มันท่าจะบ้า ย้อนกลับมา ณ ปี 2020 จากแนวคิดที่เคยมองว่าเพ้อเจ้อ แต่สุดท้ายเราทุกคนล้วนกำลังอยู่ท่ามกลางปรากฎการณ์หน้ากากกันฝุ่นขาดตลาด, เครื่องตรวจสภาพอากาศกลายมาเป็นแกดเจ็ตพกติดตัว, งานเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยียิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง CES มีการเผยโฉม Atmos Faceware หน้ากากฟอกอากาศแบบสวมใส่ เอาไว้สร้างอากาศบริสุทธิ์ได้แบบส่วนตัวด้วยสนนราคา $350 และในเมื่อการที่มนุษย์สวมใส่หน้ากากฟอกอากาศกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานการใช้ชีวิตในช่วงเวลาต่อจากนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่ Demand เกิด