แทบทุกคนคงรู้ดีว่า นาฬิกา Swiss Made หรือนาฬิกาที่ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั้นมีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพมากมายขนาดไหน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าธุรกิจนาฬิกาในสวิตเซอร์แลนด์นั้นเคยประสบกับฝันร้าย ที่เรียกว่าวิกฤตการณ์ Quartz crisis ที่มีจุดเริ่มต้นจากเทคโนโลยี Quartz ที่ชาวสวิสคิดค้นเอาไว้แต่ไม่ได้ใส่ใจพัฒนาต่อ เพราะยังต้องการสืบสานความคลาสสิกของเครื่องไขลานแบบดั้งเดิมเอาไว้ แต่แล้วเรื่องมันก็เกิด เมื่อทางฝั่งญี่ปุ่นได้นำเครื่อง Quartz มาสานต่อผลิตนาฬิกาข้อมือที่บางที่สุดในโลก ณ เวลานั้นออกมาเป็นผลสำเร็จ ด้วยมาตรฐานการบอกเวลาแม่นยำ บวกกับความบาง และ ราคาเบา ๆ นาฬิกาข้อมือจากญี่ปุ่นจึงได้รับความนิยมถล่มทลาย สวนทางกับยอดขายนาฬิกาสวิสที่ลดฮวบอย่างน่าตกใจ และปวดใจ จนสุดท้ายผู้ประกอบการธุรกิจนาฬิกาสวิสจึงต้องร่วมมือกันกอบกู้สถานการณ์ มีการควบรวมบริษัทปรับโครงสร้างกิจการขนานใหญ่ และได้ปล่อยท่าไม้ตายออกมาในปี 1983 ด้วยนาฬิกาพลาสติกระบบ Quartz ตัวเรือนบางเฉียบ ดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย ราคาไม่แพง ซึ่งช่วยพลิกฟื้นให้ธุรกิจนาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์กลับมาผงาดอีกครั้ง และ เจ้านาฬิกาพลาสติกเรือนที่ว่าก็ยังคงยืนหยัดประจำการณ์อยู่บนข้อมือผู้คนทุกเพศทุกวัยและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในนามว่า Swatch(สวอท์ช) มาจนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่าแบรนด์ Swatch นั้นผ่านหน้าประวัติศาสตร์ และผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการแต่งกายมาอย่างยาวนานโดยไม่มีทีท่าว่าจะตกยุค ซึ่งต้องยกประโยชน์ให้กับ DNA ในการพัฒนาเอาตัวรอด การปรับตัวให้เท่าทันยุคสมัย และเทรนด์ที่เปลี่ยนไปของแบรนด์ Swatch ที่ถูกปลูกฝังเอาไว้อย่างเข้มข้น นับตั้งแต่การถือกำเนิดของตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่าง Swatch รุ่น