หลังซีรีส์เรื่องดังอย่าง Game of Thrones ลาจอไปหมาด ๆ ทางช่อง HBO ก็ไม่ยอมปล่อยให้กระแสเรตติ้งซา รีบส่งซีรีส์เรื่องใหม่ที่สร้างขึ้นจากเค้าโครงเรื่องจริง ของเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่เข้ามาแทนที่ ‘โศกนาฎกรรมแห่งเมืองเชอร์โนบิล’ ที่ได้รับการบันทึกความเลวร้ายไว้ในประวัติศาสตร์ ได้รับการตีความและนำเสนอใหม่โดยใช้ชื่อเดียวกันกับสถานที่ที่เกิดเหตุว่า ‘Chernobyl (2019)’ UNLOCKMEN จะพาคอซีรีส์ทุกคนไปทำความรู้จักกับเมืองเชอร์โนบิลให้มากขึ้น และค้นหาคำตอบไปพร้อมกันว่า เกิดอะไรขึ้นในวันที่ 26 เมษายน 1986 เพื่อสร้างอรรถรสและเรียกความอินให้กับการดูหนัง เสียงระเบิดและขี้เถ้าที่ล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ รุ่งเช้าของวันที่ 26 เมษายน 1986 ย่านชานเมืองเชอร์โนนิลที่เงียบสงบเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิด ส่งผลให้รังสีและสารเคมีอันตรายจำนวนมากแพร่กระจายสู่ชั้นบรรยากาศปกคลุมทั่วทั้งเมือง ความผิดพลาดที่ทั่วทั้งโลกต้องจดจำเกิดขึ้นจากนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทดสอบระบบหล่อเย็นกลางแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่แรงดันไอน้ำกลับพุ่งขึ้นสูงอย่างฉับพลัน แถมระบบตัดการทำงานฉุกเฉินก็ดันใช้การไม่ได้ ส่งผลให้เครื่องร้อนจัดจนแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลอมละลาย ลุกไหม้ และระเบิดสารเคมีทั้งหลายที่อัดแน่นอยู่ภายในเตาปฏิกรณ์จึงพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ความรุนแรงของรังสีนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้สารพิษปกคลุมเมืองไว้กว่า 30 ปี และมีอานุภาพมากกว่ารังสีนิวเคลียร์ที่ถล่มใส่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสี่ร้อยเท่า เปลี่ยนชีวิตผู้คนในเชอร์โนบิลและละแวกใกล้เคียงไปตลอดกาล ทันทีที่เกิดการระเบิดของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 31 คน (บางรายงานบันทึกว่า 28 คน) ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องปฏิกรณ์และคนงานในโรงงาน แต่ระหว่างที่สารพิษกับรังสีจากนิวเคลียร์กระจายไปทั่วทั้งเมือง แทนที่จะเร่งสั่งให้ประชาชนในพื้นที่อพยพ