ขณะที่ดิจิทัลซึ่งเคยเป็นสิ่งแปลกปลอมกำลังก้าวขายาว ๆ เข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เราทุกคนต้องแบกรับการโดน disrupt ทุกอย่างที่เคยเป็นมาชั่วชีวิต หลายคนเลือกที่จะไล่กวด วิ่งแซง และนำเสนอสิ่งที่ใหม่กว่า เร็วกว่า content มากมายผุดขึ้นมาเพื่อหวังพิชิตใจฐานคนอ่านเดิม สร้างความสดเสมอเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำ แต่สิ่งที่เราตั้งข้อสงสัยคือ ความสดใหม่ จะเอาชนะใจลูกค้าได้จริงหรือ? และนี่คือคำตอบในอีกมุมที่เราค้นพบ… สดหรือเน่า? รักษาหรือทำลาย จากการพูดคุยกับคนจำนวนไม่น้อยในวงการสื่อ เราพบว่าอัลกอริทึมที่แต่ละโซเชียลแพลตฟอร์มตั้งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อเรียกเงินออกจากกระเป๋าให้มากกว่าเดิมหรือไม่ก็ตาม คำว่า “คุณภาพ” ของเนื้อหา ได้กลายเป็นมาตรฐานกลางที่เจ้าของพื้นที่โซเชียลเป็นผู้ “เลือก” ว่าเนื้อหาที่คุณทำมีค่าเพียงพอต่อการปรากฎในสายตาคนอื่นหรือไม่ “ความเร็ว” ของการผลิตเนื้อหาในนาทีนี้จึงเริ่มไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่ใช้ตัดรอบเหมือนยุคก่อนหน้า ผู้บริโภคยินดีจะเสพเรื่องราวของคน ๆ เดียวกันได้หากนำเสนอด้วยมุมมองที่แตกต่างกันตามความต้องการของตัวเอง ความสดที่เร่งผลิตก่อนแต่ไม่ได้เนื้อหาที่ดีหรือลึกพอจึงอาจตกกระป๋องทำหน้าที่เป็นแค่ทีเซอร์หนังที่ทำได้แค่ตัวแทนรอตัวจริงเท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงไม่ใช่การวิ่งหาเรื่องที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในสายคนอื่น แต่เป็นการรีเมคประเด็นที่เคยมีให้น่าสนใจขึ้น “การทำออนไลน์ในเว็บมันง่าย ไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรเยอะ…ในมุมของผู้ผลิตคอนเทนต์ เราต้องแข่งกับคนที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม การสร้างคอนเทนท์ต้องมีประโยชน์และแตกต่าง” – วิสูตร แสงอรุณเลิศ เก๋าเก่ากลับมาเรียกแขกด้วยประเด็นใหม่ สิ่งที่เรามองเห็นได้ดี คือการปรับเปลี่ยนค่านิยมการนำเสนอสินค้าเดิมให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายขึ้นไวรัลได้มากขึ้น ตัวแสดงในโฆษณาอาจไม่ใช่นักแสดงค่าตัวหลายหลัก แต่เป็นคนทั่วไปที่ทำให้คนรู้สึกเข้าถึงได้มากกว่า ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นการทำเพื่อสังคม ตัวอย่างคลิปโฆษณาที่คนธรรมดาใช้ แต่ไวรัลในหมู่คนดู ไม่ว่ายอดขายจะเป็นเช่นไร แต่ยอดแชร์ถล่มทลายและจับจองพื้นที่ใจผู้บริโภคเข้าไปแล้วเต็ม ๆ