หลายคนบ่นกันเหลือเกินว่า 24 ชั่วโมงมันไม่พอ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์เคลียร์ Duty ทั้งหลายไม่ค่อยลงเท่าไหร่ หัวฟูตั้งแต่ต้นสัปดาห์ยันวันหยุด ลองมาเปลี่ยนตัวเองให้ใช้เวลากันแบบชาญฉลาดดีกว่า UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคบริหารเวลาที่มีแบบเจ๋ง ๆ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมาจัดการตัวเองแบบมีสติ จะได้มีเวลาเหลือ ๆ นอนชิลกันบ้าง เพื่อให้ทุกวันจันทร์ของเราไม่เป็นวันที่แสนน่าเบื่ออย่างที่คนอื่นเขามีกัน แถมยังเป็นวันที่เราอยากให้มาถึง เพื่อที่จะได้ปล่อยพลังของเราให้เต็มที่ และใช้ชีวิตในวันหยุดแบบสุดเหวี่ยงได้แบบไม่มีภาระมาเกาะหลัง ปรับนิสัย รู้ว่านิสัยไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ แต่เคยลงมือหรือยังว่าตัวเองจะเปลี่ยนได้มากน้อยแค่ไหน การทำอะไรซ้ำ ๆ กัน 21 วัน หรือ 30 วัน ถูกยืนยันมาแล้วว่าช่วยให้เปลี่ยนพฤติกรรมของเราได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเคยมีนิสัยแบบไหนมาก่อน ดูอย่างเวลาเข้างาน ไม่ว่าเราเคยตื่นสายตอนมหาวิทยาลัยแค่ไหน แต่พอมาทำงาน เราก็ต้องปรับตัวเองไปเรื่อย ๆ แม้ว่าช่วงแรกมันจะรู้สึกยากแค่ไหน แต่ถ้าหากความจำเป็นมันบังคับ เราจะค่อย ๆ หาทางให้ตัวเองทำมันได้ในที่สุดเอง ปรับพลัง แพลนก็ก็อปเพื่อนมาเลยนี่หว่า ทำไมของเรายังไม่ลงตัวซะที จริง ๆ แล้วแพลนที่เรามีมันอาจจะลงตัวแล้วก็ได้ แต่เราอาจจะทำมันด้วยพลังที่ไม่มากพอ ลองเติม Energy เข้าไปให้ตัวเองมากขึ้นมากกว่านี้
ลมหายใจเข้าออกของผู้ชายขั้นสุดอย่างพวกเรานอกจากการใช้ชีวิตแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องงาน การทำงานคือหลอดเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและความฝันของเราให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่เพียงเท่านั้นหนังสือ The Brain and the Meaning of Life ที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยายังระบุไว้ว่า “การทำงานคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า” เวลา 1 ใน 3 ของชีวิต Urban Men อย่างเราจึงใช้ไปกับการทำงานในแต่ละวัน เพราะการทำงานทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า และตอบสนองความก้าวหน้าแบบบ้าพลังสุด ๆ ของเราได้อย่างเต็มสูบ แต่การก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว โดยหลงลืมด้านอื่น ๆ ของชีวิตไป อาจทำให้ชีวิตขาดความสมดุลได้ เหมือนที่ Heather Schuck นักธุรกิจและ CEO กล่าวไว้ว่า “การทำงานจะไม่มีวันทำให้คุณมีความสุขได้อย่างแท้จริง จนกว่าคุณจะมีความสุขกับชีวิตเสียก่อน” “Life Well Balanced” หรือการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ระหว่างการทำงานอย่างเต็มที่และการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ผู้ชายผู้แสนบ้าคลั่งกับการงานอย่างเรา ๆ ต้องให้ความสำคัญกับมันมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะความรู้สึกสมดุล ผ่อนคลายและมีความสุขในชีวิตเท่านั้น แต่งานวิจัยชื่อว่า Worked to Death: The Relationships of