ในยุคปัจจุบัน ฟอร์แมทในการฟังเพลงนั้นมีรูปแบบมากมาย แต่หนึ่งในฟอร์แมทที่สำคัญที่คนยุค 80s-90s ต่างพากันรู้จักกันดีนั่นก็คือการฟังเพลงผ่านคาสเซ็ทท์เทปนั่นเอง หลายท่านที่ผ่านยุคนั้นต่างนึกถึงอดีตอันงดงามไม่ว่าจะเป็นการใช้ปากกาในการกรอเทป / อัดเพลงที่ชอบให้คนที่แอบรักฟัง หรือจับมันโยนใส่ตู้เย็นเมื่อฟังจนเทปยาน แต่ผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของวงการเพลงนี้หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเป็นใคร อีกทั้งเราเพิ่งทราบข่าวร้ายถึงการจากไปในวัย 94 ของปู่ Lou Ottens บุคคลผู้เปรียบได้ดั่งบิดาของคาสเซ็ทท์เทป จึงอยากจะขอใช้พื้นที่นี้ทำการอำลาอาลัย และถ่ายทอดเรื่องราวต้นกำเนิดของตลับเทปจากอดีต รวมถึงบทบาทของมันในโลกยุคดิจิทัล ณ ปัจจุบันนี้ให้ได้อ่านกัน จากการฟังเพลงอันเทอะทะ ปฏิวัติสู่การฟังเพลงแบบพกพา ในยุคแรกเริ่มของการฟังเพลงในยุค 50s-60s หลายคนน่าจะคุ้นเคยการฟังเพลงจากแผ่นเสียง Lou Ottens วิศวะกรชาวดัตช์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เองก็เช่นกัน ที่เขารู้สึกว่าการฟังเพลงในยุคนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบาก กว่าจะได้ฟัง หากคุณไม่นั่งฟังนอนฟังอยู่ที่บ้านจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือวิทยุเครื่องใหญ่โตมโหฬาร คุณก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสอรรถรสแห่งเสียงดนตรีนี้ กระทั่งเขาได้ทำงานที่บริษัท Philips ในปี 1952 เขาเห็นเครื่องบันทึกเสียงที่ชื่อ “Magnetophon” ของประเทศเยอรมัน ที่เป็นเครื่องอัดเสียงแบบ Reel-to-Reel แต่ก็มีขนาดที่ใหญ่และราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยแรกเริ่มนั้นมาจากความบังเอิญที่เครื่องอัดเสียงนั้นพังจนไส้เทปรีลนั้นพันกันยุ่งเหยิงเขาจึงค้นคว้าหาทางจัดระเบียบเจ้าเครื่องเทอะทะนี้ให้สะดวกและเล็กที่สุดให้จงได้ เขาจึงใช้เวลานานถึง 8 ปี เพื่อคิดค้นเครื่องบันทึกเสียงแบบพกพาจนเทปคาสเซ็ทท์ม้วนแรกได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลกในงานแสดงสินค้าที่กรุงเบอร์ลินในปี 1963 ด้วยสโลแกนที่ว่า “เล็กกว่าซองบุหรี่” ซึ่งแน่นอนมันได้สร้างความตื่นตะลึงอย่างมาก ในฐานะอุปกรณ์บันทึกเสียงที่จิ๋วแต่แจ๋ว