Set-Up-To-Fail Syndrome อาจไม่คุ้นหูผู้ชายอย่างเรามากนัก แต่ถ้าพูดถึงอาการที่ว่าไม่ว่าเราจะขยับตัวไปทางไหนทำอะไรก็โดนหัวหน้างานเพ่งเล็ง จับตา พร้อมตำหนิหรือต่อว่าอยู่ตลอด จนเหมือนว่าตัวเราช่างไม่เคยมีความดีในสายตาเขาเลย อาการแบบนี้แหละคือ Set-Up-To-Fail Syndrome คือไม่ว่าจะตั้งใจทำเท่าไหร่ก็พลาดไปหมด! อาการนี้มีที่มาที่ไป รวมถึงมีทั้งทางป้องกันและแก้ไข สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นระดับลูกน้อง แต่คือหัวหน้าหรือมีตำแหน่งที่ต้องบริหารจัดการคนก็อย่าเพิ่งไปไหน เพราะการที่คุณมองว่าใครสักคนแย่ จนต้องตำหนิเขาทุกวัน รู้หรือไม่ว่าคุณเองนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุของ Set-Up-To-Fail Syndrome ซึ่งท้ายที่สุดมันทำร้ายทั้งตัวลูกน้อง หัวหน้า ทีม และอาจจะทำให้ทั้งองค์กรพังทลายลงได้ ถ้าไม่อยากพัง อ่านให้จบ แล้วรีบแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป Set-Up-To-Fail Syndrome ความผิดพลาดครั้งแรกนำไปสู่วงจรสยองในองค์กร Set-Up-To-Fail Syndrome นั้นเกิดจากทั้งตัวหัวหน้าและลูกน้อง จินตนาการถึงตอนทำงานใหม่ ๆ เรียกว่าตอนเริ่มต้นน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แน่ล่ะ เพราะตอนรับเข้าทำงานหัวหน้าและองค์กรก็ย่อมรับคนทำงานจากคุณสมบัติที่น่าสนใจและครบถ้วนในตัวคนนั้น เมื่อเริ่มทำงานทุกอย่างก็ยังราบรื่น สวยงามไปจนกระทั่งลูกน้องทำบางอย่างผิดพลาดขึ้นมา ไม่ว่าความผิดพลาดนั้นจะเล็กหรือใหญ่แต่ก็นับเป็นความผิดพลาด เมื่อนั้นเองที่หายนะกำลังคลืบคลานเข้ามาโดยที่ทั้งเจ้านายและลูกน้องยังไม่รู้ตัว เมื่อเกิดความผิดพลาดครั้งแรกขึ้น ความสัมพันธ์ที่เคยดีระหว่างหัวหน้าและลูกน้องจะถูกสั่นคลอน หัวหน้ามักจะเริ่มต้นสงสัยในศักยภาพของลูกน้อง เริ่มคลางแคลงใจว่าคนคนนี้เก่งจริงหรือเปล่า มีความสามารถอย่างที่หัวหน้าเคยเชื่อจริงหรือไม่ ก็เพราะคุณทำงานแย่ไง ผมเลยต้องกำกับใกล้ชิด! สิ่งที่ตามมาหลังจากลูกน้องทำงานพลาดก็คือหัวหน้าจะเริ่มทำสิ่งที่เรียกว่า “Micro manage” เริ่มลงมาดูการทำงานของลูกน้องแบบละเอียดทุกขั้นตอน จากเดิมที่เคยแค่สั่งงาน แล้วก็รอรับงานตามเวลาที่กำหนด