ช่วงต้นปี 2020 มีเรื่องราวที่สะเทือนไปทั่วโลกเกิดขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะโรคไวรัสโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019) ที่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนและกระจายตัวไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เราเฝ้าดูรายชื่อของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตกันแบบรายวัน โดยเฉพาะกับประเทศทางฝั่งเอเชียที่มีผู้ติดเชื้อเยอะมากจนบางประเทศต้องออกมาขอความร่วมมือว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเลยจะดีกว่า เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่มีมาตรการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นประเทศที่ออกนโยบายรับมืออย่างรัดกุมก่อนใคร พวกเขาระแวดระวัง ถึงขั้นที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ติดป้ายไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประชาชนใส่แมสก์กันอย่างเคร่งครัด แต่กลายเป็นว่ามาตรการป้องกันตัวเองของเกาหลีใต้กับต้องสั่นสะเทือนจากการพบปะของประชาชนชาติตัวเองที่มีความเชื่อเดียวกันเสียอย่างนั้น ลัทธิชอนจี กรณีศึกษาจากอาจุมม่าผู้มีศรัทธา จากประเทศมาตรการเข้มงวดที่ช่วงแรกมีรายชื่อผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าหลายประเทศ ตอนนี้เกาหลีใต้กลับมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสแซงหน้าประเทศอื่น ๆ ไปแบบทิ้งห่างหลายร้อยคนภายในไม่กี่วันได้อย่างไร? เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นโดยคุณป้าจากเมืองแดกูผู้เข้าลัทธิในโบสถ์ร่วมกับคนนับพัน ภายในเวลา 4 วัน เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 6 เท่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากแดกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลีใต้ มีประชากรอยู่ราว 2.5 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของลัทธิชอนจี (Shincheonji) โดยพาหะแพร่เชื้อให้คนจำนวนมากมาจากคุณป้าอายุ 61 ปี เธอนับเป็นคนไข้รายที่ 31 ของเกาหลีใต้ แต่เมื่อเธอไปเข้าประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์เมืองแดกูร่วมกับคนอื่น ๆ พบคนนับพัน จาก 31 จึงกลายเป็น 346 อย่างรวดเร็ว