นับตั้งแต่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศสหรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ นโปเลียน โบนาปาร์ต สั่งให้ช่างทำนาฬิกาสร้างนาฬิกาแบบผูกข้อมือขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับ โฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน มเหสีพระองค์แรกในปี ค.ศ. 1806 ใครจะคิดว่าของขวัญที่เกิดจากความรักชิ้นนี้จะกลายมาเป็นต้นแบบของนาฬิกาข้อมือ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ระยะเวลากว่า 200 ปีที่เครื่องประดับอย่าง “นาฬิกาข้อมือ” ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น ซึ่งในเวลาต่อมาได้ถูกพัฒนาให้มีเหมาะสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานดีไซน์หรือระบบการทำงานที่เทคโนโลยีมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง จนกาลเวลาเดินทางมาถึงปัจจุบันซึ่งนาฬิกาข้อมือกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้วสำหรับทุกคน สำหรับผู้ชายอย่างเรานาฬิกาข้อมือไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับที่ใช้ดูเวลาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรือนเวลาที่เราสวมใส่บนข้อมือในทุก ๆ วัน ปัจจุบันกลายมาเป็นตัวแทนของการแสดงออกในเรื่องรสนิยมและความหลงใหล รวมถึงบอกเล่าตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะเป็นหนุ่มที่ชื่นชอบในมนต์เสน่ห์ของงานออกแบบสุดคลาสสิกหรือหลงใหลในนวัตกรรมและงานดีไซน์สมัยใหม่ นาฬิกาบนข้อมือก็สามารถบอกเล่าถึงตัวตนที่แท้จริงของเราได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิการะดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Swatch® (สวอท์ช) ก็เข้าใจถึงความต้องการด้านต่าง ๆ จากผู้คนที่หลงใหลในนาฬิกาเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาทำการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างนาฬิกาข้อมือที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนทุกเจเนอเรชัน โดยแนวความคิดทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านคอลเลกชันนาฬิกาที่ชื่อว่า SKIN Irony การพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานจาก Swatch® ไม่ใช่เรื่องที่ทำสำเร็จในค่ำคืนเดียว เพราะกว่าจะถือกำเนิดเป็น Skin Irony ที่อยู่ในคอลเลกชันประจำฤดูหนาวของปีนี้ขึ้นมาต้องบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้น โดยย้อนกลับไปในปี 1997 ซึ่งเป็นปีที่ Swatch ® เปิดตัวคอลเลกชันนาฬิกาอย่าง SKIN