Tinder แอปพลิเคชันโด่งดังที่ออกแบบมาให้คนแปลกหน้าได้กลายเป็นคนรู้จักหรือรู้ใจ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย บางคนอาจอยากได้เพื่อนคุย บางคนใช้หาคนที่ใช่ หรือบางคนก็กำลังมองหาคนที่มีรสนิยมหรือความชอบที่คล้ายกันเพื่อแบ่งปันเรื่องราวนั้น ๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Tinder พัฒนาฟีเจอร์ใหม่อย่าง Festival Mode เพื่อผู้คนทั่วโลกที่หลงใหลในเสียงเพลง หลายคนคงเคยใช้หรือรู้จักแอปพลิเคชันหาคู่ยอดฮิตอย่าง Tinder กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ล่าสุดผู้ผลิตแอปฯ ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดเรียกว่า Festival Mode สำหรับจับคู่ตามงานดนตรีด้วยเหตุผลที่ว่าดนตรีคือสื่อกลางดีเยี่ยมสำหรับคนสองคนที่พร้อมจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน เหตุผลที่ Tinder ตัดสินใจสร้างฟีเจอร์นี้ขึ้นเพราะผลของสถิติการดาวน์โหลดแอปฯ มักพุ่งสูงขึ้นในช่วงเทศกาลดนตรี เช่น ในงาน EDC Las Vegas มีคนปัด Tinder มากขึ้นกว่าปกติ 60% หรือระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงในงาน Bonnaroo ก็มีคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปัดขวาเพิ่มขึ้นถึง 300% จึงทำให้ทางผู้พัฒนาระบบเล็งเห็นช่องทางที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถพบเจอกับคนที่มีความชอบคล้ายกันได้จากทั่วทุกมุมโลก วิธีการใช้ฟีเจอร์ Festival Mode ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนำโลโก้ของเทศกาลดนตรีที่ตัวเองชอบหรืองานที่ตั้งใจจะไปมาแปะไว้บนโปรไฟล์ของตัวเอง เพียงเท่านี้เหล่าผู้ชื่นชอบเทศกาลดนตรีเดียวกันก็แมตช์กันได้ง่ายขึ้น และสามารถติดโลโก้ได้ล่วงหน้า 3 สัปดาห์ก่อนวันงานโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กัน ถือว่าเป็นฟังก์ชันพิเศษที่เสริมเข้ามาเพราะตามปกติแล้วแอปพลิเคชันจะค้นหาคนบริเวณใกล้เคียงได้สูงสุดแค่ 160 กิโลเมตรเท่านั้น แต่สำหรับ Festival Mode เพียงแค่เราเลือกงานเทศกาลดนตรีมาหนึ่งงาน จากนั้นคนที่เลือกงานดนตรีเดียวกับเราไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็สามารถแมตช์ได้โดยไม่ต้องอยู่ในละแวกใกล้กัน
ความเหงาของคนโสดมันดูจะทำงานหนักเป็นพิเศษช่วงวันหยุดพักผ่อน ใคร ๆ ก็พากันไปเที่ยวเป็นคู่ ๆ เห็นแล้วมันยิ่งร้อนใจจนนั่งไม่ติด ยิ่งวันหยุดทำให้ผู้ชายอย่างเรามีเวลาว่างมากขึ้น เวลาส่วนหนึ่งก็ยอมรับมาเถอะว่าเอามาปัดทินเดอร์รัว ๆ แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมมันมี MATCH ขึ้นมาบ้างเลยวะ ? ทั้ง ๆ ที่เราก็ปัดขวาให้สาว ๆ ไปเป็นกระบุง ๆ วันนี้ UNLOCKMEN เอา 5 ข้อมาให้ตรวจเช็คว่าทำตามนี้บ้างหรือเปล่า เพราะถ้ายังก็ทำซะ จะได้มีคนมาปัดขวาในทินเดอร์ให้ช่วงสงกรานต์นี้ Bio อย่าว่างไว้ เขียนอะไรลงไปสิครับ! ดูเหมือนว่าการตั้งใจเลือกรูปมาใส่ แล้วตั้งหน้าตั้งตาปัดขวาให้สาว ๆ ดูจะเป็นอะไรที่ชายถนัดเอามาก ๆ แต่หลงลืมไปว่าในทินเดอร์มันมีส่วนของ Bio ให้บรรยายอะไรลงไปสั้น ๆ ด้วย ซึ่งสิ่งนี้เรามักจะปล่อยให้ว่างไว้ รู้หรือไม่ว่าการไม่ใส่อะไรลงไปเพื่อบรรยายตัวเองเลยทำให้เรามีโอกาสถูกปัดขวาลดลง เพราะมันดูไม่น่าสนใจ! รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าปล่อยให้ว่างไว้ ไปเขียนขายความเป็นตัวเองไว้หน่อย สาว ๆ จะได้สนใจกว่าเดิม อย่าคิดว่าแว่นกันแดดมันเท่นะเพื่อน แม้เราจะคิดว่า โอ้โห การใส่แว่นกันแดดจะทำให้เราดูเท่ขึ้น 15 ระดับ แต่อยากจะบอกว่านั่นอาจเป็นความคิดที่เราคิดเองอยู่คนเดียวเท่านั้นครับพี่! เพราะจากสถิติที่สำรวจมาพบว่าการใช้รูปที่ใส่แว่นกันแดดเป็นรูปโปร์ไฟล์บนทินเดอร์นั้นลดโอกาสการถูกปัดขวาของเราลงไป
มันหมดยุคส่งข้อความผ่านทางเพจเจอร์หากันมานานมากแล้ว (บ่งบอกอายุกันเลยทีเดียว) เดี๋ยวนี้ใคร ๆ เขาก็จีบกันผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งนั้น จะเฟซบุ๊กก็ได้ ไลน์ก็ดี หรือ แอปพลิเคชันออนไลน์ที่เกิดมาเพื่อการตะลุยจีบสาวโดยเฉพาะอย่างทินเดอร์ บีทอล์ค ฯลฯ ความดีงามของการจีบบนโลกออนไลน์คือความรวดเร็ว ตกหลุมรักปุ๊ปก็ชวนมาเดตปั๊ปได้ทันใจไม่ต้องแห้งเหี่ยวรอนานให้เสียเวลา แต่ขอเสียของมันก็คือส่วนใหญ่เราจะรู้จักสาวหน้ามนคนสวยของเราผ่านโลกออนไลน์ก่อนจะได้รู้จักตัวตนจริง ๆ ของเธอ แล้วเราจะเอาอะไรมามั่นใจได้ล่ะวะ! ว่าจะไม่เป็นหมูโดนเธอต้มโดนเธอตุ๋นเอาได้? UNLOCKMEN ภูมิใจนำเสนอหนทางเอาชนะการเดตออนไลน์ ด้วนการสแกนกรรม เอ้ย สแกนเธอดูก่อนได้ว่าน่าไว้ใจไหม ประวัติเป็นอย่างไร และเราไม่ได้มโนวิธีขึ้นมาเองเล่น ๆ แต่นี่คือคำแนะนำจาก Jane Way (นามสมมติ) หญิงสาวผู้เป็น Sex Worker เหตุผลที่ใคร ๆ ก็เชื่อว่า Sex Worker สามารถสแกนคนได้ดีกว่าใคร ๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องทำเป็นประจำ โดยเฉพาะต้องสแกนผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนที่จะเกิดการยื่นเงินซื้อขายจริง ๆ โดยประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชนของเธอสรุปออกมาเป็นทริคคร่าว ๆ ที่ UNLOCKMEN เอามาเสนอกัน เพราะ Jane Way บอกว่าบ่อยครั้งที่สาว ๆ Sex Worker