ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ทำให้ใครหลายคนวิตกจริตและใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นสุขไปตาม ๆ กัน ไหนจะต้องหมั่นขัดถูมือจนแทบถลอก ใส่หน้ากากอนามัยจนปวดใบหู หรือกักเก็บตัวอยู่ในบ้านหลายสิบวันอย่างหดหู่โดยที่ไม่ได้ออกไปไหน ความรู้สึกที่ต้องหมกตัวอุดอู้อยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ทุกวี่วันไม่ได้ทำให้คุ้นชินแต่อย่างใด หากทำให้ผู้คนเริ่มโหยหาการออกไปข้างนอก การเดินทางไกล และอยากหนีห่างจากบ้านที่ผูกพันธนาการพวกเขาเอาไว้ในช่วงที่ไวรัสระบาดหนักเช่นนี้ แม้แต่ประเทศเยอรมนีที่ดูจะจัดการวิกฤติโคโรนาไวรัสครั้งนี้ได้ดีกว่าบ้านเราและนานาประเทศ ก็ไม่อาจละความรู้สึกโหยหาที่จะออกเดินทางไปไหนไกล ๆ ได้ แถมชาวเยอรมันยังรู้สึกว่าตนติดอยู่ในบ้านนานและอาจนานเกินไป ยิ่งมาตรการกักตัวเข้มข้นรุนแรงมากเท่าไร ยิ่งทำให้ความปรารถนาที่จะออกไปไหนไกล ๆ ทวีขึ้นมากเท่านั้น พลังแห่งความโหยหาของชาวเยอรมันจึงเริ่มแทรกซึมไปในแทบทุกแคว้นของประเทศ จนคำศัพท์ “Fernweh” ซึ่งนิยามถึงความโหยหาที่จะเดินทางไกลถูกนำกลับมาพูดใหม่ในยุคนี้อีกครั้ง ความโหยหาที่จะเดินทางไปให้ไกลสุดลูกหูลูกตา Fernweh (แฟรน-เวฮ์) เป็นคำนามภาษาเยอรมันที่เคยปรากฏในหนังสือภาษาอังกฤษ ‘The Basis of Social Relation’ ของ Daniel Garrison Brinton ผู้เขียนอธิบายคำนี้ว่าเป็นความปรารถนาสุดลึกซึ้งหรือความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอันเนื่องมาจากระยะทางไกล ในภาษาอังกฤษจึงถอดความหมายออกมาเป็น “Distance Sickening” หรือ “Far Woe” ทว่า Christiane Alsop อธิบายถึง Fernweh ในบทความวิชาการเรื่อง Home