Business

ธุรกิจของเล่นกำลังเฟื่องฟูอีกครั้ง “แต่ TOYS R US ล่มสลาย” อะไรคือสาเหตุ ?

By: PERLE July 2, 2018

เหลือเพียงชื่อให้คนรุ่นหลังได้จดจำไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ‘Toys R Us’ หนึ่งในร้านขายของเล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา Toys R Us ได้ตัดสินใจยุติการทำตลาดในอเมริกาด้วยการปิดร้านทั้ง 735 สาขาทั่วประเทศเนื่องจากประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก นอกจากนี้บนหน้าเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ยังขึ้นข้อความ ‘Don’t ever grow up. Play on!’ หรือ ‘อย่าลืมความเป็นเด็ก มาเล่นกันเถอะ’ เรียกได้ว่าใครเป็นลูกค้าขาประจำของร้านขายของเล่นในตำนานนี้คงใจหายน่าดู แต่อย่าเพิ่งเศร้าขนาดนั้นเพราะ Toys R Us ไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิง ล่าสุดบริษัท Fairfax Financial ได้เข้าซื้อกิจการของ Toys R Us ในประเทศแคนาดาและจะยังดำเนินธุรกิจต่อไป เช่นเดียวกับในบ้านเราที่ Toys R Us จะยังเป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าคนรักของเล่นอยู่

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแง่ธุรกิจ Toys R Us อยู่ในช่วงวิกฤต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกเนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงที่ธุรกิจของเล่นกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ดูได้จากผลประกอบการของบริษัทอย่าง Lego, Hasbro, Hot Toys, Bandai ที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แล้วทำไม Toys R Us จึงดิ่งเหวขนาดนี้ อะไรคือสาเหตุ?

ทำเลที่ตั้ง

Toys R Us ในอเมริกาส่วนใหญ่มักจะเป็นร้าน Stand Alone ขนาดใหญ่และตั้งอยู่ย่านชานเมือง ซึ่งสาเหตุของทำเลที่ตั้งแบบนี้ต้องย้อนไปเมื่อยุค 50 ซึ่งในสมัยนั้นในประเทศอเมริกาธุรกิจของเล่นถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ พ่อแม่มักจะพาลูก ๆ ไปซื้อของเล่นในวันหยุด เป็นกิจกรรมหนึ่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะยอมลงทุนขับรถออกนอกเมืองเพื่อซื้อของเล่น เด็ก ๆ ก็ชื่นชอบเนื่องจากมันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังตามล่าสมบัติในร้านขายของเล่นที่มีของเล่นกองพะเนินจนถึงเพดาน

แต่ทุกวันนี้ทุกอย่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ของเล่นมีอยู่ในทุกที่ แค่ขับรถ 5 นาทีไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านก็สามารถเลือกช็อปของเล่นได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องถ่อไปไกลถึงชานเมืองอีกต่อไป Toys R Us ย่านชานเมืองจึงเป็นร้านที่ใหญ่ ของเล่นเยอะ แต่ไม่มีลูกค้าไปในที่สุด

เด็กในวันนี้ต่างจากเด็กในวันนั้น

ของเล่นอาจจะไม่จำเป็นกับเด็กสมัยนี้อีกแล้ว พวกเขาสามารถโหลดเกมไว้เล่นในสมาร์ตโฟนได้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชั้นประถม มันเป็นอะไรที่บริโภคง่ายและสร้างความบันเทิงได้มากกว่าการนั่งใช้จินตนาการหรือสมาธิในการเล่นของเล่น นี่ยังไม่นับรวม YouTube และ Video Streaming อีกมากมายที่มีคอนเทนต์สร้างความบันเทิงให้กับเด็ก ๆ นับไม่ถ้วน ดังนั้นในโลกที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็ว ของเล่นจึงอาจจะดูน่าเบื่อไปเสียแล้วสำหรับเด็ก ๆ

ถึงแม้ว่า Toys R Us จะพยายามปรับกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการตามเทรนด์มากขึ้น เช่นการนำของเล่นสุดฮิตในหมู่เด็ก ๆ อย่างสไลม์มาวางจำหน่าย แต่ผลลัพธ์ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ราคา

ถ้าลูก ๆ ของคุณอยากได้โมเดลหุ่นยนต์หรือตุ๊กตาบาร์บี้สักตัว คุณไม่สนใจหรอกว่าจะต้องซื้อจาก Toys R Us จะเป็นที่ไหนก็ได้ขอแค่สะดวกและราคาถูก ซึ่งในยุคนี้เป็นยุคแห่งการแข่งขันทางการตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านก็มีขายของเล่นเช่นกัน แถมยังมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่บ่อย ๆ เรียกว่าทั้งถูกทั้งสะดวก นี่ยังไม่พูดถึงร้านขายของเล่นออนไลน์ที่ตัดราคากันเป็นว่าเล่น ซึ่งเมื่อย้อนมอง Toys R Us ที่นอกจากทำเลที่ตั้งจะไม่ดี เดินทางไม่สะดวก ในเรื่องราคาก็ถือว่าสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ จึงไม่แปลกเลยที่วันนี้ด้านหน้าร้านจะมีคำว่า ‘Going Out of Business’ ติดอยู่

ไม่น่าตื่นตาตื่นใจ

แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าหลักของ Toys R Us คือเด็ก ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่สนใจหรอกว่าร้านของเล่นจะมีโปรโมชั่นอะไรหรือราคาเท่าไร พวกเขาสนใจความน่าตื่นตาตื่นใจภายในร้านมากกว่า ซึ่งในเรื่องนี้เนื่องจาก Toy R Us เป็นร้านของเล่นจากยุคเก่าประกอบกับขนาดของร้านแต่ละสาขาค่อนข้างใหญ่การตกแต่งร้านจึงค่อนข้างดูน่าเบื่อในสายตาเด็ก ๆ มีชั้นวางของเล่นวางเรียงกันเยอะ ๆ และซ้อนกันสูงจนเกือบติดเพดาน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับร้านอย่าง Lego ที่มักจะตกแต่งร้านด้วยการนำตัวต่อมาต่อกันเป็นรูปต่าง ๆ ดึงดูดความสนใจเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อการไปซื้อของเล่นที่ Toys R Us ไม่ใช่สิ่งน่าตื่นเต้นอีกต่อไป ร้านขายของเล่นในตำนานแห่งนี้จึงมีแต่ของเล่นแต่ไร้ซึ่งเงาของเด็ก ๆ

ถึงแม้จะรู้ดีว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกเรา แต่เมื่อวันนั้นมาถึงจริง ๆ ก็อดใจหายไม่ได้ สำหรับคนรักของเล่นอย่างเราคงได้แต่หวังว่า Toys R Us จะเป็นแบรนด์สุดท้ายที่ต้องหายไปจากสารบบ การเห็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขในวัยเด็กกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเห็นคุณค่าในวันนี้เป็นเรื่องน่าเจ็บปวดไม่น้อยเลยทีเดียว

 

SOURCE1

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line