ทุกคนครับ ! เราไปเจอรองเท้าแบรนด์นี้จากอัลกอริทึ่มของ IG ที่ทำงานดีเกินว่ะ ชื่อแบรนด์ Reproduction Of Found สารภาพว่าไม่รู้จักแบรนด์มาก่อน (ตอนแรกนึกว่า Adidas Samba ด้วยซ้ำ) แต่ถูกใจจัด ก็เลยทำการรีเสิร์ชข้อมูลมาป้ายยาชาว UNLOCKER กัน พบเจอว่านี่คือแบรนด์รองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจาก Military Trainers Shoes ช่วงยุค 1980s ที่ต่อยอดแรงบันดาลใจนั้นให้กลายเป็นรองเท้าพรีเมียมของคนในยุคปัจจุบัน BACK INTO 2016 SOLDIER ! จากแรงบันดาลใจของ Military Trainers Shoes สู่รองเท้าแห่งการ FIND OUT Reproduction Of Found เป็นรองเท้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่เริ่มต้นในปี 2016 ซึ่งตั้งแต่ Day1 เลยนะ แบรนด์หมุนเลนส์โฟกัสให้ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Military Trainers Shoes หรือ รองเท้าฝึกสำหรับทหารซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าสำหรับฝึกของทหารในหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพัฒนารองเท้าที่ดีที่สุดของตัวเอง แบรนด์เลยมีรองเท้าที่ระบุแรงบันดาลใจทางการทหารในรุ่นนั้น
ใต้ฝากระโปรงของ X5 คันนี้ มีเครื่องยนต์ V12 จาก Le Mans ซ่อนอยู่ นี่คือ BMW X5 Le Mans รถ SUV ที่ถูกใช้เป็นสนามทดลองโชว์พลังงานดิบสุดของวิศวกรรม Motorsport “ถ้าเราเอาเครื่อง Le Mans ไปใส่ SUV ล่ะ มันจะเป็นยังไง?” โปรเจกต์นี้เริ่มต้นในปี 1999 – BMW เพิ่งชนะ Le Mans 24h ด้วยรถแข่ง BMW V12 LMR ที่พัฒนาโดยร่วมมือกับ Williams F1 ก่อนจะเปิดตัว X5 production รุ่นแรกที่ Frankfurt Motor Show และเพียง 6 เดือนถัดมา พวกเขาก็เปิดตัว X5 Le Mans ที่
ทุกวันนี้ชื่อสำนัก Top Secret ของ Smokey Nagata คงไม่แปลกหูสำหรับคนไทย เพราะบ้านเรามีร่างทองของทีมคุณเบียร์ ใบหยก เกือบจะครบตำนาน ไม่ว่าจะเป็น S15, GT-R รวมถึง Supra แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสที่รถที่อาจจะบ้าที่สุดของเขา: Top Secret Supra V12 ในโลกของ 2JZ ที่ใครก็ใช้กัน มีไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าดึงหัวใจมันออก แล้วใส่ V12 ลงไปแทน Smokey วางเครื่อง 1GZ-FE V12 จาก Toyota Century ยัด Twin Turbo HKS GT2835 สองลูกเข้าไปเต็มข้อ พ่วงกับ Getrag 6-speed จับคู่คลัตช์ ORC พร้อม LSD ระบบ dry-sump และ ECU จาก HKS F-Con ช่วยควบคุมทุกอย่างแบบแม่นยำ
เพราะเสน่ห์ของ JDM มันมากกว่าความเป็นยานพาหนะ แต่คือเรื่องราวของ Culture & Style รวมถึงความคลั่งไคล้ในทุกรายละเอียด จนทำให้ใครหลายคนพร้อมทุ่มสุดตัว เพื่อให้รถคันเก่ง “หล่อแท้แบบต้นตำรับญี่ปุ่น” แต่จะหล่อทั้งที ต้องเลือกให้ถูกที่ เพราะอู่ทั่วไปอาจไม่เข้าใจถึงจิตวิญญาณแห่ง JDM ได้ถึงแก่น วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับอู่เฉพาะทางสำหรับ JDM Lover ขนานแท้ ที่เข้าอกเข้าใจในรถญี่ปุ่นแบบเข้าเส้น จะเป็นที่ไหนบ้างไปดูกัน 🇯🇵🔥 เริ่มต้นกันที่สำนัก JBOZA GARAGE โดย ‘ช่างเจ’ อดีตเด็กอู่ซิ่งที่เก็บเกี่ยวความรู้ความชำนาญทุกกระบวนท่า มาเปิดกิจการที่เชี่ยวชาญด้านการวางเครื่องตระกูล B, K, SR, RB, JZ ฯลฯ รวมไปถึงจูนกล่อง ทำระบบไฟ ระบบน้ำมัน ช่วงล่าง เบรก ครบวงจร บนพื้นฐานแนวคิดเรื่อง Performance Balance ไม่ใช่แค่แรง แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับไปซื้อกาแฟปากซอยได้สบาย ๆ / ขึ้นเขาไม่ต้องลุ้น / ลง Track ได้
ในปี 1974 ชายชื่อ Count Gregorio Rossi di Montelera (ทายาทตระกูล Martini & Rossi ผู้สนับสนุน Porsche แข่ง Le Mans) ได้รับรถแข่ง Porsche 917K สีเงินเมทัลลิกคันหนึ่งจากโรงงานที่ Zuffenhausen เป็นรถที่สร้างเพื่อลงสนามแข่งเท่านั้น ไม่มีไฟเลี้ยว ไม่มีทะเบียน ไม่มีแอร์ เสียงท่อ Le Mans ดังกระหึ่มตลอดทาง แน่นอนว่ามันไม่สามารถขับบนถนนได้ แต่ Count Rossi อยากจะขับกลับบ้าน เลยตัดสินใจขับ Porsche 917K คันนั้นจากโรงงาน Zuffenhausen เยอรมนี ข้ามประเทศไปถึง Paris ด้วยถนนสาธารณะ แน่นอนว่าทุกคนที่ได้เห็นต่างต้องหันมองตามกันหมด กลายเป็นตำนานที่ทั้งผู้คนและ Porsche ต่างไม่เคยลืมโมเมนต์นั้น 50 ปีต่อมา Porsche อยากรำลึกเหตุการณ์นี้อีกครั้ง โดยเอารถแข่งระดับ 963 Le
Honda ตัดสินใจส่งท้าย Civic Type R ในตลาดยุโรปด้วยรุ่นพิเศษสุด “Ultimate Edition” รุ่นสั่งลาแบบจำกัดจำนวนแค่ 40 คัน พร้อมรายละเอียดที่ทำให้มันกลายเป็น edition แห่งยุค ตัวรถมาในสี Championship White คู่กับสติ๊กเกอร์ตกแต่งสีแดงบนฝากระโปรงและด้านข้างตัวถัง รับกับหลังคาสีดำและชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์เต็มระบบ ทั้งสปอยเลอร์หลังและสเกิร์ตข้าง เพิ่มความจัดจ้านของรุ่นส่งท้ายให้เกินคำว่าพิเศษ ภายในห้องโดยสารมาตกแต่งด้วยธีมคาร์บอนบนคอนโซลกลาง มาพร้อม Type R Logo Projection ที่ฉายบนพื้นเมื่อเปิดประตู สะท้อนความเป็น Limited อย่างแท้จริง สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่านั้นคือ กล่องของขวัญเฉพาะรุ่น ที่บรรจุหมายเลขลำดับ 1–40, พวงกุญแจคาร์บอน, พรมปูพื้นคัสตอมที่ผลิตเฉพาะสำหรับรุ่น Ultimate Edition เท่านั้น ทั้งหมดนี้คือการเฉลิมฉลอง 28 ปีของ Civic Type R ที่เริ่มต้นจากญี่ปุ่นในปี 1997 และกลายเป็นตำนานของรถขับหน้าที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในหลายสนามแข่งทั่วโลก รวมถึง Nürburgring, Suzuka, Magny Cours, Spa,
ไม่ว่าคุณจะเป็นชาว #เลือดกรุ๊ปแลม อยู่ที่ไหนบนประเทศไทยหรือโลเคชั่นไหนบนโลกนี้ ปี 2025 เราจะกลับสู่จุดเริ่มต้นประเทศบ้านเกิดของแลมที่อิตาลีไปด้วยกัน ด้วยการฉลองการเปิดตัวซีรีส์ LAMBRETTA X300 CASA LIMITED EDITION ที่มีเพียง 999 คันทั่วโลก ! ซึ่งมาพร้อมกับแรงบันดาลใจ Race With Passion ที่จะทำให้คนขี่สกู๊ตเตอร์ Italian Craftmanship คันนี้ ได้มีแพชชั่นอย่างแรงกล้ากับรถที่รักของตัวเองอีกครั้ง แต่ก่อนที่เราจะเล่าเรื่องราวของแลมในซีรีส์ล่าสุดนี้ จำเป็นที่จะต้องกลับไปเล่า Lambretta Heritage Story เรื่องราวของ CASA LAMBRETTA อาณาจักรแลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวัฒนธรรมแลม จนทำให้สกู๊ตเตอร์คันนี้กลายเป็นพาหนะประจำชีวิตคนอิตาลี และกลายเป็นภาพจำความหมายของ ‘สกู๊ตเตอร์เท่’ ไปทั่วทั่งโลก จุดกำเนิดของ CASA LAMBRETTA เริ่มต้นขึ้นจากความหลงใหลในสกู๊ตเตอร์ของชายชื่อ Vittorio Tessera ที่มี #แลมทรงจำ ร่วมกับสกู๊ตเตอร์แบรนด์นี้ตอนอายุ 16 จากการซื้อ 1953 Lambretta LD 125 ที่คุณยายคนหนึ่งในเมือง
เห็น Only Monday ตั้งแต่วันที่ ธีร์-ทีปกร คำสุรีย์ (ร้องนำ/กีตาร์) / โปรด-วริศ สาระเขตต์ (เบส) / เฟรม-คฑาวุธ ขำทอง (กลอง) ยังเป็นเด็กมัธยม และยังจำวันที่ทั้งสามคนเข้าสังกัด Gene Lab วันแรก ๆ พร้อมปล่อยเอ็มวีไฟแรง ๆ ‘สองมาตรฐาน’ ได้อยู่เลย ยังพูดกับตัวเองอยู่เลยว่า สักวันหนึ่งยังไงพวกเขาก็จะเป็นหนึ่งในตัวแทนความรู้สึกของวัยรุ่นยุคใหม่แน่นอน วันนี้ Only Monday กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ‘WE ARE ONLY MONDAY CONCERT’ พร้อมกับปล่อยอัลบั้ม HOTEL 302 อัลบั้มที่ 2 ที่ให้คนฟังได้เช็กอินความรู้สึกแบบ Happy Sad Song สุขปนเศร้า ความรู้สึกก่อนกลายเป็นผู้ใหญ่ของวัยเยาว์ … เราเชื่อว่ามันเป็นอัลบั้มที่พวกเขาจะเช็กอินกับความรู้สึกนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเช็กเอาต์เติบโตในวันข้างหน้า ทั้ง 13 เพลงใน HOTEL 302
ในโลกที่เต็มไปด้วยแรงกระตุ้น สิ่งเร้ารอบด้านที่คอยปั่นให้อารมณ์ขึ้นจนอยากตอบโต้ฟาดกลับให้สะใจ ไม่ว่าจะบน Social Media บนถนน หรือจากคนรอบตัว การตอบโต้กลับทันที กลายเป็นพฤติกรรมที่ถูกสังคมหล่อหลอมขึ้นมาจนเราลืมการควบคุมตัวเอง ทุกคนถูกฝึกให้อารมณ์ขึ้นง่าย ตอบโต้ไวแบบไม่มีใครยอมเสียเวลา ราวกับว่าการตอบโต้ก่อนคือผู้ชนะ แต่ยิ่งเราเร่งตอบโต้มากเท่าไร ก็ยิ่งเปิดช่องให้อารมณ์ชั่ววูบเข้ามาควบคุมสมองมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เราอยากแนะนำทักษะที่ไม่มีใครพูดถึงกันเลย แต่จำเป็นสุด ๆ ในยุคนี้ นั่นคือ “ศิลปะของการไม่ตอบโต้ทันที” — The Art of Not Reacting ไม่ใช่เพราะเราอยากสอนให้ทุกคนเป็นพระ หรือให้กลืนเก็บกดความรู้สึกจนไม่เหลือความเป็นตัวเอง แต่เพราะการตอบโต้แบบไร้สติ อาจเป็นเหมือนการโยนระเบิดใส่ชีวิตตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะมีหลายเคสที่การตอบสนองทันทีแบบไร้สติ กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว สร้างปัญหาชีวิตให้ลุกลามใหญ่โตโดยไม่จำเป็น ทำไมเราตอบโต้เร็วเกินไป? ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ สมองส่วน Amygdala กลไกเอาตัวรอดของมนุษย์ มันถูกออกแบบมาเพื่อสั่งให้เราหนีเมื่อเจอเสือ ตอบโต้เมื่อถูกคุกคาม หรือที่เราเรียกมันว่า Fight or Flight Response แต่ปัญหาคือ ยุคนี้เราไม่ได้ถูกไล่ล่าโดยสัตว์ป่าอีกต่อไป ทุกวันนี้สิ่งที่กระตุ้น Amygdala ของเรากลับกลายเป็น คอมเมนต์แดกดันในโซเชียล เสียงแตรเสียงด่าจากรถคันข้าง ๆ ข้อความแซะจากคนในออฟฟิศ หรือคำพูดประชดในวงสนทนา
หมุนเข็มไมล์กลับสู่หลักกิโลเมตรที่ 1947s ช่วงเวลาจุดเริ่มต้นของ LAMBRETTA เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์เปลี่ยนโลกของตัวเอง แบรนด์ได้สร้างสกู๊ตเตอร์ซีรีส์ล่าสุด 𝐋𝐀𝐌𝐁𝐑𝐄𝐓𝐓𝐀 𝐗𝟑𝟎𝟎 𝐂𝐀𝐒𝐀 𝐋𝐢𝐦𝐢𝐭𝐞𝐝 𝐄𝐝𝐢𝐭𝐢𝐨𝐧 รุ่นที่เหล่าผู้หลงใหลความแรงแบบระดับเข้าเส้น #เลือดกรุ๊ปแลม พลาดไม่ได้ ! 🏁 คอนเซปต์ของซีรีส์นี้ เลือกใช้คำประกาศกร้าวถึงความหลงใหลอันแรงกล้าที่ว่า “Race With Passion” เพื่อถ่ายทอด DNA ความแรงของความแลม ซึ่งรับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณขณะโฉบเฉี่ยวอยู่บนสนามแข่งของ 𝐂𝐀𝐒𝐀 𝐋𝐀𝐌𝐁𝐑𝐄𝐓𝐓𝐀 𝐑𝐚𝐜𝐢𝐧𝐠 𝐓𝐞𝐚𝐦 ทีมแข่งเซกเมนต์สำคัญที่เคยโฉบรางวัล British Scooter Sport Organisation (BSSO) กับ European Scooter Challenge (ESC) เป็นครั้งแรกให้กับอิตาลี ส่วนหนึ่งใน 𝐂𝐀𝐒𝐀 𝐋𝐀𝐌𝐁𝐑𝐄𝐓𝐓𝐀 ของ Vittorio Tessera ผู้สร้างอาณาจักรที่เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และอู่ เพื่อ Represent แบรนด์มาตลอดกว่า 45 ปี จนแลมกลายเป็นสกู๊ตเตอร์ไอคอนิกสะท้อนความเท่แบบ Made
รวมเอาไว้ในที่เดียวกับที่สุดของงานออกแบบและนวัตกรรมแห่งเรือนเวลาจากแบรนด์ดังอย่าง Rado ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Master of Materials” พร้อมยกขบวนเรือนเวลาไฮไลท์หลากหลายรุ่น ทั้งรุ่นใหม่ล่าสุดและรุ่นพิเศษที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของราโด Rado ในทุกมิติ มาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ยลโฉมในงาน Rado Novelties 2025 ซึ่งต้องบอกว่านี่คือการรวมตัวของเรือนเวลาหรูน่าสะสมแห่งปีจาก 6 คอลเลกชั่นยอดนิยมของ Rado ไม่ว่าจะเป็น Captain Cook, Anatom, True Square, DiaStar, Centrix และ LaCoupole ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละเรือนล้วนสะท้อนวิสัยทัศน์ของ Rado ในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ก้าวล้ำเหนือกาลเวลาผ่านเทคโนโลยีอันล้ำยุค ผสานงานฝีมือระดับสูง รวมถึงแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมจากหลากหลายมุมโลกออกมาได้อย่างชัดเจน และสำหรับพระเอกของงานครั้งนี้เราขอมอบตำแหน่งให้กับ Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton รุ่น R32192152 สัญลักษณ์แห่งการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ที่ทั้งอบอุ่นและแข็งแกร่ง นอกจากนี้ภายในงานยังมี 2 นักแสดงชื่อดังอย่าง ‘อาเล็ก-ธีรเดช’ และ ‘มิ้นท์-รัญชน์รวี’ รวมถึงเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ อาทิ อภินรา ศรีกาญจนา, พรรษมน
มันไม่ใช่รถใหญ่ ไม่ใช่รถหรู ไม่ใช่รถอวดคนอื่น แต่มันคือรถที่ทำมาเพื่อ “คนขับ” แบบจริงจัง M2 CS ใหม่ คือคำตอบที่ BMW ตั้งใจให้คนขับได้สัมผัสว่าอะไรคือแก่นแท้ของคำว่าขับสนุก ในยุคที่โลกกำลังผลัก performance car ให้เป็น digital experience และแม้ BMW จะตัดเกียร์ธรรมดาทิ้งไป แต่มันก็ยังไม่ทิ้งวิญญาณของ M2 ที่เราเคยหลงรัก นี่คือ M2 CS 2026 รถ compact coupe ที่แรงกว่า M4 Competition ด้วยพลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร จากเครื่อง S58 inline-six twin-turbo บล็อกเดียวกับ M4 CSL รีดพลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ZF ที่จูนมาอย่างเฉียบ แม่น และดุดัน ทำเวลา