8 ขั้นตอนพัฒนาทักษะการเขียนของคุณให้ดีขึ้น

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะหันหน้าไปทางไหนก็สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วเสมือนอยู่ในเหตุการณ์ แม้แต่การหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมก็ยังสามารถเปิดหาอ่านจากเว็บไซต์ต่างๆ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟน แทปเล็ต หรือโน็ตบุ๊คในการค้นหา แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของการเขียนคอนเทนต์ จนเราอาจพูดเลยได้ว่าการเขียนนั้นมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้คนอย่างมาก จะสื่อสารให้คนตีความเข้าใจได้หรือไม่ก็ตัดสินกันตรงนี้เลย เท่านั้นไม่พอ การติดต่องานผ่านอีเมล์ การพรีเซนต์งาน การเขียนรายงานต่างๆ ล้วนต้องใช้ทักษะด้านการเขียนแทบทั้งสิ้น แต่ทว่าการเขียนก็ยังคงเป็นอุปสรรคของใครหลายๆ คนอยู่ บ้างก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีทักษะในด้านนี้เอาเสียเลย เรียกว่าขุดอย่างไรก็ไม่ขึ้นสักที

มันไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้นค่ะ เราเชื่อว่าทุกๆ ทักษะ สามารถสร้างได้จากการฝึกฝน และความเอาใจใส่ของตัวเอง การเขียนที่คุณรู้สึกว่ามันยากใช้เวลาเขียนมาสองวันแล้วก็ยังไม่เข้าใจประเด็นที่ตัวเองจะสื่อ ทั้งๆ ที่ในหัวของคุณตอนนี้สามารถเล่าสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อออกมาได้เป็นฉากๆ ด้วยซ้ำ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้คุณสามารถสื่อสารสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาในรูปแบบของการเขียน และสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ วันนี้ UNLOCKMEN มีเคล็ดลับดีๆ ในการพัฒนาทักษะการเขียนมาฝาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราหมั่นฝึกฝนกันเป็นประจำอยู่แล้ว เชื่อเถอะว่ามันสามารถช่วยได้จริงๆ

The Ghost Writer 

• ฝึกฝน และเขียนให้ได้ทุกวัน

สำหรับคนที่อยากพัฒนาทักษะในการเขียนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล์ การเขียนรายงาน หรือแม้แต่คนที่ทำงานในสายคอนเทนต์เป็นทุนเดิมแล้วก็ไม่ควรมองข้ามข้อนี้นะคะ อยากเขียนเป็นต้องเริ่มจากการเขียนทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องวิชาการ หรือบทความเลยค่ะ เริ่มจากเรื่องของตัวเองในรูปแบบของไดอารี่นี่แหละ ง่าย และให้ผลดีที่สุด จากวันแรกๆ ที่คุณเขียนไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง คุณลองเขียนไปเลยค่ะเดือนนึง พอย้อนกลับมาอ่านคุณจะเห็นการพัฒนาของตัวเองอย่างชัดเจน ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อน ตรงไหนเป็นจุดแข็ง คุณก็สามารถเรียนรู้งานเขียนที่ดีได้จากข้อผิดพลาดของตัวเองค่ะ

• อ่านหนังสือให้มากเท่าที่คุณจะทำได้

การเขียนที่ดีเริ่มต้นจากการอ่าน ถามว่าอ่านอะไร อ่านสิ่งที่คุณอยากอ่านนั่นแหละค่ะดีที่สุด อยากอ่านนิตยสารก็อ่านไปเลย แต่ลองเลือกหัวข้อที่น่าสนใจดูบ้าง หรือไม่ก็สะกดจิตให้ตัวเองอ่านให้ครบทั้งเล่มให้ได้ คุณจะได้แยกประเภทได้ว่า การเขียนลักษณะไหนที่เหมาะกับเรื่องที่คุณต้องการนำเสนอ ที่สำคัญเลยมันจะเพิ่มพูนศัพท์ในหัวของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นก็ควรเพิ่มระดับไปที่หนังสือที่ตีความยากขึ้น หรือพวกนิยายของนักเขียนชื่อดังจะได้เรียนรู้เคล็ดลับในการดำเนินเรื่องของพวกเขาค่ะ

Limitless

• เรียนรู้เคล็ดลับจากนักเขียนคนอื่นๆ

อยากรู้ว่าคนเก่งเขาทำอะไรกันบ้าง ก็ลองไปศึกษาข้อมูลมาเลยค่ะ ลองดูว่าเขามักจะเริ่มต้นจากอะไร เขามีเทคนิคการเขียนตอนไหน เวลาไหนที่จะเขียนได้ดีที่สุด เวลาไหนที่จะคิดออกมากที่สุด สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ และสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการเขียนของคุณได้เสมอ

• อย่าลืมว่าผู้อ่านของคุณคือใคร

เอาจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ เลยค่ะ ก่อนคุณจะเขียนทุกครั้ง คุณต้องรู้ก่อนว่าผู้ที่จะอ่านเรื่องราวที่คุณเขียนนั้นคือใคร เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ อายุประมาณเท่าไร มีพื้นฐานในเรื่องนั้นๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือเปล่า อย่างถ้าคุณจะเขียนเรื่องการประมง ผู้อ่านของคุณคือชาวประมง จะเขียนเรื่องที่เบสิคมากๆ แบบระดับเริ่มต้นก็คงจะไม่เหมาะสม เพราะพวกเขารู้เรื่องระดับเบสิคดีอยู่แล้ว แต่ถ้านำมาเล่าให้นักเรียนอ่าน อันนี้ก็สามารถทำได้ค่ะ อย่าลืมที่จะศึกษากลุ่มเป้าหมายของคุณให้ดีค่ะ ที่สำคัญมันจะช่วยให้คุณคิดเรื่องที่จะนำมาเขียนได้ง่ายขึ้นด้วย

Mad Men

• หัดจับประเด็นที่คุณต้องการสื่อสารไปยังผู้อ่านให้ได้

สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนเป๋ไปบ้างในการเขียนอะไรสักเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือลืมนึกถึงประเด็นสำคัญที่เราต้องการจะพูด ยกตัวอย่างหากคุณจะต้องการพูดเรื่องกางเกง แต่ในข้อความล้วนเต็มไปด้วยการแมทช์กางเกงกับเสื้อ เลือกเสื้อแบบไหนดี แทนที่จะเล่าว่าเลือกกางเกงอย่างไรดีให้เหมาะกับเสื้อ แบบนี้เรียกว่าผิดประเด็นไปเลยค่ะ อยากเขียนเรื่องกางเกง กางเกงก็ต้องเป็นพระเอกเด่นที่สุด สิ่งอื่นๆ ค่อยไล่ลำดับลงมา ควรชั่งน้ำหนักของแต่ละหัวข้อให้บาลานซ์กันด้วย อย่าให้ประเด็นรองกลบประเด็นหลักไปเสียหมด อันนี้ต้องใช้การฝึกฝน นั่นแหละเหตุผลที่คุณควรเขียนให้ได้ทุกวัน

• เขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียน นำสิ่งที่อยู่ในหัวใส่มันลงกระดาษ

สำหรับเทคนิคนี้เขาจะเรียกกันว่า Free Writing ซึ่งมันก็คือวิธีการเขียนอะไรก็ได้ตามใจของเรา ในหัวตอนนี้คุณคิดเรื่องอะไรอยู่ก็ถ่ายทอดมันออกมาเลย จะเขียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างอย่าเพิ่งสนใจ เอาความรู้สึกแรกที่ตัวเองเริ่มเขียนมันออกมานี่แหละดีที่สุดค่ะ จากนั้นค่อยกลับมาอ่าน มาเกลาให้สวยงามขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณสามารถฝึกฝนได้ง่ายๆ แค่มีสมุดโน็ตเล่มแรกๆ พกพาไปกับคุณทุกที่ หรือจะจดในสมาร์ทโฟนก็ได้ไม่ว่ากัน

Ruby Sparks

• ท้าทายความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ

หลังจากคุณทำสิ่งที่เราแนะนำมาข้างต้นเป็นประจำแล้ว สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาทักษะนี้เลยก็คือ (ทักษะอื่นๆ ก็ควร) การท้าทายความสามารถของตัวเอง เคยเขียนวันละหน้า ก็เพิ่มเป็นวันละสองหน้า เขียนไดอารี่เล่าเรื่องตัวเองธรรมดา ก็เปลี่ยนเป็นนิยาย หรือเป็นเรื่องที่วิชาการขึ้น แล้วมาเช็คตัวเองว่าคุณสามารถทำเรื่องต่างๆ เหล่านั้นได้ดีไหม คุณสามารถไปได้ไกลกว่าแค่เขียนไดอารี่หรือเปล่า วิธีการท้าทายความสามารถตัวเองแบบนี้จะช่วยให้การเขียนของคุณมีความโดดเด่นได้มากทีเดียว

• อย่าท้อ อยากเก่งต้องสู้

สิ่งสำคัญข้อสุดท้าย ต้องบอกว่าสำคัญมากจริงๆ อย่าท้อค่ะ อย่าเพิ่งล้มเลิกความตั้งใจที่จะเขียนหนังสือให้ดีขึ้น อยากจะเก่งก็ต้องสู้ เอาชนะตัวเองให้ได้ เขียนไปเถอะค่ะ ถึงมันจะยังอ่านไม่เข้าใจ ทำเป็นประจำไม่เก่งขึ้นก็ให้มันรู้ไปสิคะว่าคนที่แน่วแน่และตั้งใจจะไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่ดูเหมือนจะยากได้ ขอแค่มีความตั้งใจ และหมั่นฝึกฝนก็พอ

อ่านจบแล้วก็เริ่มปฏิบัติกันเลยดีกว่า ส่วนใครที่มีทักษะด้านนี้ดีอยู่แล้วก็อยากให้ฝึกฝนกันต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ของแบบนี้ถ้าเว้นระยะไปก็จับต้นชนปลายกันแทบไม่ถูกเหมือนกันนะ (อันนี้ต้องคอยย้ำเตือนตัวเองด้วย) ใครจะรู้ว่าการเริ่มต้นจากการเขียนรายงาน หรือทำพรีเซนต์เสนอหัวหน้า อาจทำให้คุณกลายเป็นนักเขียนมีชื่อก็เป็นได้