ชีวิตนี้ไม่ได้เริ่มจากเงินล้าน “Warren Buffett”

หากคุณไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง หรือกำลังน้อยใจโชคชะตาว่าทำไมเราถึงเกิดมาลำบากไม่ร่ำรวยเหมือนคนอื่นๆ สักที บทความที่เรากำลังจะเขียนต่อไปนี้ น่าจะให้คำตอบกับความสงสัยในชีวิตคุณตอนนี้ได้บ้าง

ถ้าพูดถีงเจ้าพ่อนักลงทุนแห่ง Wall Street ตัวจริงอย่าง Warren Buffett คงไม่มีคนในแวดวงหุ้นคนไหนไม่รู้จัก เพราะเขาคนนี้แหละคือคนที่สร้างรากฐานความมั่นคงมาจากผลกำไรในการเล่นหุ้นอย่างแท้จริง แต่กว่าเขาจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เขาผ่านมาหมดทั้งการทำงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างการขายหมากฝรั่ง ถูกเหยียดหยามว่าจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิต ถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด และยังถูกผู้เป็นภรรยาทิ้งอีกด้วย

วอร์เรน บัฟเฟต์ (Warren Buffett) คุณปู่วอร์เรนวัย 84 ปีคนนี้ (30 สิงหาคม ค.ศ. 1930) เกิดมาในเมืองโอมาฮา เนแบรสก้า สหรัฐอเมริกา เขาเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อของเขาเป็นสมาชิกในสังกัดพรรครีพับลิกัน และเป็น stock broker ถึงแม้จะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็ฟังดูไม่น่าจะลำบากอะไร แต่ทว่าเขาเป็นคนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับตัวเลขตั้งแต่ยังเด็ก วอร์เรนจึงเป็นคนที่มีหัวก้าวหน้ามากๆ เขาเริ่มต้นทำงานตั้งแต่หกขวบจากการเดินเร่ขายหมากฝรั่ง โค้ก และนิตยสารรายสัปดาห์ ทำงานในร้านขายของชำของคุณตา จากนั้นเขาก็ได้เริ่มลงทุนครั้งแรกในตลาดหุ้น แต่ก็ลงทุนด้วยเงินที่เล็กน้อยมากๆ เขาสามารถซื้อมันได้แค่ 3 หุ้นในราคาหุ้นละ 38 เหรียญ กระทั่งเขาสามารถขายมันไปได้ในราคาหุ้นละ 40 เหรียญ จึงถือเป็นการทำผลกำไรครั้งแรกในชีวิตของเขา

ถึงแม้ว่าชีวิตของวอร์เรน จะไม่ได้ลำบากยากจนข้นแค้น แต่เขาคือคนขยัน สู้ชีวิตตัวจริง หลังจากที่เขาเข้าสู่แวดวงการเล่นหุ้น เขาก็ยังทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่ไปด้วย ในขณะที่วอร์เรนอายุ 15 ปี เขามีรายได้ถึง $175 ต่อเดือนจากการส่งหนังสือพิมพ์ Washington Post เข้าสู่ช่วงไอสคูลเขาสามารถลงทุนซื้อที่ดินได้ในราคา $1,200 เหรียญ ทั้งหมด 40 เอเคอร์ เพื่อให้คนเช่าทำการเกษตร ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกับพ่อของเขาเอง

วอร์เรนเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่วอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และย้ายที่เรียนจนไปจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในปี 1951 เขาเริ่มสนใจและฝักใฝ่ในการลงทุนจากการอ่านหนังสือของเบนจามิน เกรแฮม ที่มีชื่อว่า The Intelligent Investor ซึ่งเปรียบเสมือนคัมภีร์ของตัวเขา

ในปี 1957 เขากลับมาเปิดบริษัทในบ้านเกิดของตัวเอง ชื่อว่า Buffett Partnership, Ltd. ซึ่งการเปิดบริษัทของเขาครั้งนี้เป็นความต้องการที่จะเอาชนะดัชนีดาวโจนส์ แน่นอนว่าเขาทำสำเร็จและได้รับผลกำไรที่ดี ต่อมาปี 1962 เขาได้ทำการซื้อบริษัท Berkshire Hathaway แปลงโฉมมันให้กลายเป็น Holding Company จนกระทั่งปี 2006 ราคาหุ้นของ Berkshire สูงถึง $100,000 ทุบสถิติหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดในอเมริกา

ในปัจจุบันวอร์เรนเป็นที่นับหน้าถือตาของ CEO ชั้นนำมากมาย ไม่เว้นแต่บิลล์ เกต ที่นับถือเขาเสมือนพ่อคนหนึ่ง จากเด็กขายหมากฝรั่ง กลายเป็นนักลงทุนชั้นนำของโลก ที่ทุกคนต่างขนานนามว่าเขาเปรียบเสมือนนักพยากรณ์หุ้นคนหนึ่ง ที่ไม่ว่าเขาจะขยับตัวทำอะไร ก็มีผลต่อวงการแห่งนี้ วอร์เรนเป็นนักลงทุนในหุ้นระยะยาว เพราะเขาเชื่อว่ามันสามารถให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นระยะสั้น ในขณะที่เขารวยติดอันดับโลก เขาก็ยังเป็นคนรวยที่ใจบุญ เผื่อแผ่เงินให้แก่คนที่ยากไร้อยู่เสมอ เป็นยอดคนจริงๆ

สำหรับคนที่อยากร่ำรวยเหมือนวอร์เรน บัฟเฟต์ เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มาฝาก จำให้ขึ้นใจ นำไปปรับใช้รับรองช่วยได้แน่

1. ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว มันจำเป็นต้องใช้เวลา อย่าใจร้อน ตั้งสติให้มั่น

2. ศึกษาให้ดี รู้ให้ลึกก่อนลงทุน สำคัญคือต้องลงทุนกับบริษัทที่เชื่อถือได้ และมีศักยภาพพอ

3. ถ้าไม่ทำวันนี้จะเริ่มทำวันไหน เริ่มต้นทำเสียตั้งแต่วันนี้

4. เมื่อคนอื่นกลัว คุณต้องตั้งมั่น อย่าปอดแหกตามคนอื่น โอกาสทองรออยู่ตรงหน้า

5.ใจรัก ทุ่มเท สุดท้ายความสำเร็จจะมาหาคนที่ทุ่มเทให้แก่มันเสมอ