6 เคล็ดลับช่วยให้คุณทำงานดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องโหมงานหนักข้ามวันข้ามคืน

ช่วงต้นปีหลายคนก็บ่นไปตามๆ กันว่า งานล้นไม้ล้นมือซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเก็บกดมาจากไหน แต่แหม งานเยอะดีกว่าเหงาหงอยนั่งตบยุงเพราะไม่มีงานให้ทำนะคะ เพียงแต่ว่าเราจะต้องจัดการตัวเองให้พร้อมที่จะสู้งานหนักให้ไหว และในขณะเดียวกันก็ควรได้ใช้ชีวิตมันส์ๆ ให้คุ้มค่าที่สุดเช่นเดียวกัน หลายคนก็ละเลยสิ่งสำคัญข้อนี้ไป ใช้วิธีการโหมงานหนัก แถมบางครั้งก็เผลอปาร์ตี้หนักจนงานค้างเป็นดินพอกหางหมู แบบนี้ไม่ไหวจะเคลียร์ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 6 เคล็ดลับช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องโหมงานหนัก แค่ทำทุกอย่างให้เป็นระบบขึ้นเท่านั้นเอง

• to-do list สำคัญและจำเป็นมาก

พูดกันอยู่ทุกบทความจริงๆ สำหรับ to-do list ใครที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีระบบระเบียบ ทำงานไม่ค่อยจะทัน รู้สึกงานล้นมือไปเสียหมด คุณอาจจะต้องลองเช็คตัวเองดูว่าคุณมีระบบในการทำงานมากน้อยแค่ไหน ใช้วิธีจำเอาดื้อๆ อยู่หรือเปล่า พอใกล้ถึงเวลาก็ต้องมานั่งควานหาว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง มันจะไม่โหมงานหนักได้อย่างไรล่ะคะแบบนี้ ฉะนั้นการทำ to-do list จึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนนอน หรือตอนตื่นนอนก็ได้ค่ะ ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง ลิสต์เป็นข้อๆ ไว้ จะจดไว้ในกระดาษ หรือสมาร์ทโฟนก็เอาตามสะดวกได้เลย

• ตั้งกฎเล็กๆ ให้ตัวเองว่าเวลาไหนควรแชท หรือพูดคุย

ถ้าเป็นโรงแรมเราก็จะใช้วิธีการแขวนป้าย “Do Not Disturb” เป็นการบ่งบอกว่าเราต้องการเวลาส่วนตัว อยู่ที่ทำงานก็ควรมีช่วงเวลาแบบนี้เช่นกัน คุณควรหาที่เงียบสงบปั่นงาน หรือถ้าไม่สามารถลุกไปไหนได้จริงๆ คุณก็ต้องสร้างกติกาขึ้นมาเลยว่า เวลานี้ถึงเวลานี้ ฉันจะไม่คุยกับใคร ทำให้เป็นเรื่องปกติ และให้ทุกคนรู้ว่าเวลานี้จะต้องไม่ชวนคุณคุย รวมไปถึงตัวคุณเองด้วยที่ต้องรักษากติกา และอย่าแอบแชทเป็นเวลานาน ไปทำงานอีกทีตอนบ่ายแบบนี้จะไม่ให้อยู่ดึกได้ยังไงล่ะ

• เช็คอีเมล์ และเล่น Social ให้เป็นเวลา 

อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่ควรไปกำหนดอะไรมันมาก จริงอยู่ที่เมื่อมีอีเมล์เข้ามาเราก็ต้องเช็ค อันนี้คือเรื่องปกติสามัญค่ะ แต่สิ่งที่อยากให้คุณทำเพิ่มเติมคือ การเช็คอีเมล์ช่วงเช้า เพื่อลิสต์สิ่งสำคัญ และทบทวนว่ามีอะไรบ้างที่จำเป็นจะต้องรีบเร่งทำให้เสร็จ และอีกข้อห้ามของเราก็คือ อย่าเช็คอีเมล์ช่วงค่ำหรือก่อนนอน เพราะหากมันมีงานเข้ามา คุณอาจจะเผลอทำมันหามรุ่งหามค่ำอีกก็ได้ การเล่นเฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรมก็ไม่ต่างกันค่ะ ทำงานพัง งานพอกมาเยอะแยะแล้ว

• ปรับพื้นที่โต๊ะทำงานให้ดีขึ้น 

โต๊ะทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งช่วยให้เรารู้สึกสบายตา สบายใจ และเป็นตัวช่วยให้เราทำอะไรได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งโต๊ะทำงานที่ดีนั้น ก็ควรจะมีสิ่งของจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นปากกา ดินสอ สมุดจด โพสอิท ทุกสิ่งอย่าง นอกจากนี้การมีสิ่งของที่คุณรัก หรือหนังสือที่สร้างแรงบันดาลให้กับคุณทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน ก็ล้วนเป็นสิ่งของที่โต๊ะทำงานคุณจำเป็นจะต้องมีเช่นกัน เครียดๆ หันไปเห็น เวลาคิดอะไรไม่ออก หันไปเห็นมันก็ช่วยสร้างกำลังใจที่ดีได้ค่ะ

• ทำงานหนักก็ต้องรู้จักพักเบรคบ้าง

ถึงจะขยัน ใจจดใจจ่ออยู่กับการทำงานมากแค่ไหน คุณก็ต้องรู้จักพักเบรคตัวเองเสียบ้าง ไม่ใช่ว่าทำงานตะบี้ตะบันทำมันเข้าไปไม่รู้จักจบจักสิ้น แบตหมดไปพร้อมๆ กับการทำงานให้เสร็จแน่นอนค่ะแบบนี้ แทนที่จะได้บริหารเวลาไปใช้ชีวิตในเรื่องอื่นๆ ต่อ กลับต้อง sleep ระบบของตัวเองพักผ่อนเอาแรงมาทำงานต่อในวันต่อไป ฉะนั้นคุณควรกำหนดเวลาเบรคให้เป็นนิสัย สมองจะได้ไม่ช็อต ความคิดจะได้ไม่ตันจนคุณเหนื่อยล้า

• ความคิดที่เป็นระบบเป็นเรื่องที่ควรมี

ทั้งหมดทั้งมวลจะเกิดขึ้นได้ยาก หากคุณไม่มีความคิดที่เป็นระบบ ความคิดที่เป็นระบบคืออะไร คุณรู้ว่าควรทำอะไรเมื่อไร และทำมันแบบไหนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด การพัฒนาตัวเองให้มีความคิดเป็นระบบรู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลังไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพียงแค่คุณให้เวลากับตัวเองสักหน่อย ทบทวนตัวเองว่าเราเป็นแบบไหน ความคิดเราเป็นอย่างไร เรื่องไหนที่ทำไปแล้วไม่คุ้ม เรื่องไหนที่ควรให้ความสำคัญ เมื่อเราเข้าใจมันดี เราก็จะวางระบบความคิดของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

หากคุณนำ 6 ข้อนี้มาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัวของคุณ เราเชื่อว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำของคุณต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน แต่คงไม่ใช่ว่าเปลี่ยนกันทันควัน ก็อาจจะค่อยๆ เปลี่ยนไป จากที่เคยทำงานถึงตีห้า อาจจะเลื่อนขึ้นมาเป็นตีสอง แล้วพอคุณสามารถจัดการมันได้อย่างเป็นระบบ ชีวิตวุ่นๆ ก็น่าจะดีขึ้นไปพร้อมๆ กับงานที่ดีขึ้นเช่นกัน