Business

สงคราม Fast Food ใครคือตัวจริงเรื่องเบอร์เกอร์ระหว่าง Burger King กับ McDonald’s

By: Thada April 23, 2016

Fast Food คือคำเรียกอาหารจานด่วน หรืออาหารขยะสำหรับฝรั่งที่มันไม่ให้โภชนการอะไรเลย นอกจากความอิ่ม และอร่อย ซึ่งเราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบทานมันมากแต่ติดอยู่เรื่องเดียว คือมันโคตรจะทำให้เราอ้วนเลย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาหากนานๆเราจะกินมันที

แต่นั่นก็เป็นเพียงการเกริ่นนำเรื่องที่เราอยากจะพูดในวันนี้ การแข่งขันในตลาด Fast Food หลายคนอาจจะมอง KFC กับ McDonald’s เป็นคู่แข่งกัน แต่ความจริงทั้งสองฝ่ายไม่ใช่คู่แข่งกันโดยตรงเพราะ Product หลักของทั้งสองแบรนด์ก็คนละอย่างกันแล้ว หากมองให้ลึกคู่แข่งของ KFC ถือว่ามีน้อยมากที่เป็นคู่แข่งเรื่องไก่ทอด แต่หากมองไปที่ McDonald’s ต้องบอกล้วนลายล้อมไปด้วยหมู่ เสือ สิงห์มากมายที่เป็นคู่แข่งที่ขาย Burger

160423-kings-3

จริงๆ แล้ววงการ Burger บ้านเรากับเมืองนอกมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างต่างกัน เวลาเราพูดถึง Burger ในไทยก็จะคิดถึงแต่ Mc แต่สำหรับต่างประเทศแล้วเขามีทั้งร้าน Homemade มากมาย แล้ว McDonald’s ก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกหากพวกเขาจะกิน Burger  แต่หากพูดว่าสงคราม Burger แบบจริงๆ จังคงจะมีแค่สองแบรนด์ที่โผล่ขึ้นมาอย่างชัดเจนที่สุด ก็คือ Burger King และ Mc ที่แข่งขันกันไม่ต่างจาก Pepsi กับ Coca-Cola

สงครามระหว่างสองแบรนด์นี้มีมากกว่า 60 ปี โดย Mc เริ่มในปี 1955 มีเมนูชูโรงของเขาคือ Big Mc ส่วน Burger King เริ่มธุรกิจในปี 1953 ซึ่งมาก่อนหน้าสองปี ก็มีเมนูอย่าง Whopper ที่เป็นหัวหอกสำคัญ แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่เหมือนยิ่งแข่งก็ยิ่งห่างกันก็คือ การทำการตลาดที่แต่ละแบรนด์ใช้มาตลอด ซึ่งต่างคนต่างมีจุดยืนของตัวเอง และไม่เคยทับกันเลยในด้านนี้

160423-kings-2

McDonald’s จะให้ความสำคัญกับรสชาติที่ถูกปาก และปรับตัวตลอดเวลา เพราะเมื่อเขาเข้าไปยังประเทศไหนเขาก็จะปรับเปลี่ยนรสชาติเพื่อให้เข้ากับคนชาตินั้นๆ อย่างเช่นประเทศไทย ก็เคยมี Burger ข้าวเหนียวหมู หรือข้าวลาบ อีกจุดที่เห็นได้ชัดคือ Mc จะมีกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างเด็กเพื่อให้พ่อแม่ซื้อให้ไปจนถึงวัยรุ่นและพนักงานออฟฟิศ เพราะเขามีชุดของเล่น Happy Meal มาดึงดูดล่อตาล่อใจอยู่ตลอดเวลา หรือพวกเฟรนช์ฟราย 1+1 โปรยอดฮิตสำหรับพนักงานออฟฟิศแชร์กับเพื่อน

แต่กับ Burger King เขาทำแบรนด์ให้ออกมาสมชื่อจริงๆ เพราะเขาให้ความสำคัญกับเบอร์เกอร์ทีเด็ดของตัวเนื้อ หรือวัตถุดิบมากกว่าเรื่องรอบตัวอย่างของเล่นหรือของแถม เราจะไม่ได้เห็นในร้าน Burger King และเหมือนเขาเลือกจะเจาะกลุ่มคนที่โตกว่าเพราะมีราคาสินค้าแพงกว่า Mc แต่ผู้ใหญ่ที่ไหนจะมานั่งกิน Fast Food หละ

160423-kings-4

จึงไม่น่าแปลกใจว่า Big Mac ของ Mc จะสามารถทำเงินได้ปีละไม่ต้ำกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กับ Whopper สามารถทำเงินได้ปีละ 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่างกันมากเลยทีเดียว แต่นี่คงจะเป็นตัวเลขที่โชว์ว่าใครทำการตลาดได้ดีกว่ากันมากกว่า เพราะถ้าจะตัดสินเรื่อง Burger ว่าใครดีกว่ากัน คงต้องวัดกันที่รสชาติ ซึ่งจุดนี้ Burger King ไม่แพ้แน่นอน แต่นี่คือ 5 เหตุผลหลักๆ ที่เรามองว่า Mc ทำการตลาดได้ดีกว่า Burger King

  1. ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ก็อย่างที่เราเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า Mc มีภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมิตรมากกว่าของ Burger Kings คือเราจะรู้สึกสบายใจเมื่อเดินเข้าร้าน Mc มากกว่า Burger Kings
  2.  Mc สร้างทางเลือก เนื่องจาก Burger Kings คือธุรกิจในเครือ Wendy Company ที่มีทั้ง  Starbuck และ Subway  แต่กับ McDonald’s ที่เป็นแบรนด์เพียวเขาจึงสามารถใส่ Mc Cafe และอื่นๆ ลงไปในร้านของเขาได้ นอกจากนั้นในด้านบริการ Mc ก็มีทั้ง Drive-Thru ที่ให้คนขับรถแวะซื้อได้ นั่งกินในร้านก็ได้ และยังใช้เป็นฐานทัพในการ Delivery ได้ทั่วถึงกว่าอีกด้วย
  3. นัก Copy ชั้นเยี่ยม สิ่งที่ Mc ทำได้ดีอีกอย่างคือการ Copy Product จากแบรนด์อื่นโดยไม่ทำให้ รสผิดเพี้ยน อย่างเช่น Mcflurry ที่หน้าตาเหมือน  Blizarrd ของ Daily Queen ที่สำคัญรสชาติไม่ต่างกันเลย ซึ่งผิดกับ Burger Kings ที่ไม่มีตรงจุดนี้
  4. Mc เลือกที่จะพูดคุยกับเด็ก โดยการใช้ชุด Happy Meal มาล่อ ซึ่งหากใครไม่รู้ Happy Meal คือชุดของเล่นเด็กที่ขายดีที่สุดทั่วโลกในแต่ละปี
  5. Mc จะเป็นคนแรกเสมอ หากมองย้อนไปยังประวัติศาสตร์ Mc จะเป็นเจ้าแรกเสมอที่เข้าไปเริ่มทำธุรกิจในที่ใหม่ๆ เสมอ

160423-kings-1

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line