แบบนี้ก็ได้หรอ ? WordPress ประกาศขายตึกสำนักงานทิ้ง เพราะอนุญาตให้พนักงานทำงานที่ไหนก็ได้

ทุกวันนี้ใครที่อยู่ในแวดวงของสื่อ, การเขียน –  อ่านบทความ หรือพวกเว็บไซต์ขายของออนไลน์ต่าง ๆ อาจคุ้นหูกับ WordPress กันมาบ้างแล้ว โดย WordPress เป็นระบบ CMS ขนาดใหญ่ที่เป็นตัวสร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบ ปรับเปลี่ยนได้เหมาะสมตามแต่การใช้งาน และยังเป็น CMS ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกอีกด้วย

ซึ่งเจ้าของผู้พัฒนา WordPress คือ Automattic บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกล่าสุดมีข่าวออกสื่อ เป็นเรื่องของตัวบริษัทที่มีข่าวขายตึกสำนักงานในซานฟรานซิสโกทิ้ง เราก็นึกว่าบริษัทนี้จะเจ๊ง แต่ที่ไหนได้เป็นเพราะมันแทบจะไม่มีพนักงานเข้ามานั่งทำงานในออฟฟิศเลยต่างหาก

โดยสำนักงาน Automattic ได้ประกาศขายทอดตลาดผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ Matt Mullenweg ซีอีโอของ Automattic ก็เคยพูดไว้แล้วว่า เขากำลังประสบปัญหาเรื่องการที่พนักงานไม่เข้ามาในทำงานในพื้นที่ออฟฟิศ!!

ฟังแล้วดูน่าตกใจใช่ไหมครับ เพราะว่ามันช่างสวนทางกับยุคปัจจุบันที่บริษัทที่มักจะมีการเติบโต จะต้องขยับขยายพื้นที่ออฟฟิศเพื่อรองรับกับปริมาณและการใช้งานของพนักงานที่เพิ่มขึ้นมากขึ้น

โดย Matt ก็ได้พูดถึงเกี่ยวกับออฟฟิศแห่งนี้ไว้เหมือนกันว่า เขาทำออฟฟิศนี้เมื่อ 6-7 ปีก่อน ทุกอย่างล้วนตกแต่งใหม่ สวยงาม น่าใช้ คิดวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี มีโต๊ะทำงาน มีมุมพักผ่อนต่าง ๆ  นอกจากนี้ยังมีห้องสมุด และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางถึง 15,000 ตารางฟุตกันเลย แต่มันดันไม่มีใครเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเลยนะสิ

ซึ่งในออฟฟิศตอนนี้มีพนักงานเข้ามาทำงานจริง ๆ แค่ 5คนเท่านั้น จากพื้นที่ทั้งหมดที่มี แปลว่าพนักงาน 1 คน มีพื้นที่ทำงานถึง 3,000 ฟุตต่อคน และในความเป็นจริงแล้ว มันมีพนักงานถึง 550 คนต่างหาก แต่พวกเขาดันไปอยู่ไหนกันหมด

สืบไปสืบมา ก็พบว่ามันเนื่องมาจากนโยบายของทาง Automattic เอง ที่ใช้ระบบการทำงานแบบเปิดกว้าง ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้! โดยทาง Automattic จะยื่นข้อเสนอให้พนักงานทุกคนเลือกทำงานได้จากทุกที่ ๆ ต้องการ

และสำนักงานที่ซานฟรานซิสโกนั้น สร้างไว้เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับใช้เป็น co-working space เท่านั้น ทางบริษัทเองก็มีออฟฟิศลักษณะนี้เอาไว้สำหรับพนักงานที่สาขาอื่น ๆ เช่นกัน อย่าง Cape Town ในแอฟริกาใต้ และที่ด้านนอกของ Portland, Maine ทางตอนเหนือของอเมริกา

นอกจากนี้ทาง Automattic ยังมีสวัสดิการให้กับพนักงานอีกเดือนละ $250 (8,750 บาท) หากพวกเขาต้องการที่จะเปิดความคิด หามุมมองใหม่ ๆ และไปเช่าใช้งาน co-working ที่ตัวเองอยากไปนั่งทำงาน หรือว่าอยากจะนั่งทำงานในร้านกาแฟแบบสตาร์บัค ทางบริษัทก็พร้อมที่จะจ่ายค่ากาแฟให้

เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนการทำงานนอกสถานที่อย่างเต็มตัว เนื่องจากมีหลากหลายงานวิจัยที่บ่งบอกว่าการนั่งทำงานอุดอู้อยู่ในบริษัท นอกจากไม่ช่วยให้พนักงานปลดปล่อยพลังความคิดแล้ว จะยิ่งทำให้พนักงานกดดันจากสภาพแวดล้อมการทำงานรอบตัว ส่งผลให้งานไม่ได้แบบที่หวังอีกด้วย

เป็นการปรับตัวเข้าสู่นวัตกรรมยุคใหม่ได้อย่างเต็มตัวจริง ๆ คิดว่าอาจเป็นผลดีด้วยซ้ำกับการขายทิ้ง เพราะไม่ว่าจะค่าบำรุง ค่าแม่บ้าน ค่าใช้จ่ายรายปีอีกมากมาย ทำให้การทำงานแบบ Work From Anywhere ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวสำหรับสังคมยุคนี้ก็ว่าได้

Source