10 เคล็ดลับความสำเร็จของสุดยอด Rapper แห่งศตววรษที่ 20 Jay-Z

จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes หลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพล และมีรายได้มากที่สุดในโลกก็ คือ Rapper ผิวสี หวานใจของ Beyonce อย่าง Jay-Z  เพราะเขาสามารถสร้างรายได้ต่อปีมากกว่า 520 ล้านเหรียญสหรัฐ (19,000 ล้านบาท)

โดยความสำเร็จของเขาไม่ได้มาจากการที่เขาเป็นนักร้องดังเพียงอย่างเดียว เพราะนั้นเป็นเพียงบันไดสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อแข้งขาให้ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ การเป็นเจ้าของค่ายเพลง Def Jam กับ Roc A Fella อีกทั้งเป็นเจ้าของคลับ 40/40 Club และยังเป็นหุ้นส่วนหลักของทีมบาสเก็ตบอล Brookly Net อีก

ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จะขอมาแชร์ถึง 10 Key ความสำเร็จของ Jay-Z ว่าทำไมเขาถึงเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้มากมายถึงเพียงนี้

ดิ้นรน ผลักดัน และทะเยอทะยาน

Jay-z เกิดในย่านที่ไม่ค่อยดีนักใน Brookly พ่อของเขาทิ้งเขาไป และปล่อยให้แม่ของเขาเลี้ยงดูเขาเพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงดิ้นรนทำงานทุกอย่าง โดยไม่สนว่างานนั้นจะเป็นงานหนักงานเบาแค่ไหน และ Jay-Z เคยกล่าวว่า ” Without the work, the magic won’t come ”

อย่ารอให้พร้อมค่อยเริ่มทำ

หลายๆ คนอาจจะอ้างโน้น อ้างนี้ โทษโชคชะตา ว่าเพราะคนนั้นรวย คนนี้มีสมบัติเก่า เขาถึงประสบความสำเร็จเร็ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Jay-Z เพราะเขาไม่เคยหยุดรอให้โชคชะตาวิ่งเข้าหา แต่เขาวิ่งหามันด้วยตัวเอง อย่างเช่นตอนที่เริ่ม Rap ครั้งแรก Jay ก็ไม่ได้มีอุปกรณ์ไฮโซอะไรมากมายเลย แต่เขากลับใช้โต๊ะในครัวเป็นที่เคาะให้เกิดจังหวะแทน

อย่าปล่อยให้คำพูดเป็นนายเรา

Jay-Z เชื่อในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่เสมอ และบางครั้งคำพูดก็เป็นนาย และเราทำให้เราผิดพลาดได้ บทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ก็คือบางครั้งการเงียบเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะการพูดมากไปก็อาจทำให้เสียเรื่องได้ ดังคำที่ว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

อ่อนน้อม ยอมรับคำแนะนำจากคนอื่น

บ่อยครั้งที่ศิลปินที่ประสบความสำเร็จ มักทะนงตนว่า ข้าเจ๋ง ข้าแน่ ไม่ยอมรับฟังคำแนะนำจากคนอื่น แต่ไม่ใช่กับ Jay-Z เพราะเขารู้ว่าการเรียนรู้จากความผิดพลาด และการรับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์จะช่วยให้เขาก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จได้ และคนที่ให้คำแนะนำเขาก็ล้วนเป็นที่มีประการณ์ และประสบความสำเร็จมาก่อน  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเรียนรู้จากคนเหล่านี้

วางแผนให้กับชีวิต

Jay-Z ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นศิลปินขาขึ้นของอาชีพนี้ตลอดไป ดังนั้นเขาจึงวางแผนให้กับชีวิต โดยการไปลงทุนกับธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ค่ายเพลง โดยเขาวางแผนธุรกิจนี้ทั้งในระยะสั้น ระยะยาว และยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จึงทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

ความรู้ไม่ได้อยู่แต่ในห้องเรียน

Jay-Z ไม่เคยเรียนโรงเรียนธุรกิจ หรือแม้แต่เคยเรียนวิชา MBA แต่เขาสามารถหาเงินได้มากกว่า 100 ล้าน เพราะว่าเขาได้เรียนรู้วิชาธุรกิจจากข้างถนน คนส่วนใหญ่มักมองว่าอาชีพระดับล่างนั้นไม่มีความหมาย แต่จริงๆ แล้วทุกอาชีพไม่เว้นแต่คนขายของข้างถนน ถ้าเราสามารถเรียนรู้เคล็ดลับประโยชน์จากมัน เราก็สามารถนำมาพัตนาไปใช้กับงานสเกลที่ใหญ่ขึ้นได้ โดยไม่เป็นปัญหา

เรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวัง

กว่า Jay-Z จะก้าวขึ้นมาเป็น Rapper หรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เขาต้องเจอกับความผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน เขาเคยโดนบริษัทขายเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งปฎิเสธการร่วมแบรนด์กัน แต่หลังจากนั้น Jay ก็ได้ไปเปิดไลน์เสื้อผ้าของตัวเอง และสามารถทำเงินได้มากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ

ฝันให้ยิ่งใหญ่

จากเด็กยากจนคนหนึ่งที่โตมาจากย่านสลัม คงไม่มีใครคิดว่าวันหนึ่งเขาจะมีเงินมากมายถึง 520 ล้านเหรียญ แต่เขาได้รับความเชื่อมั่นในวัยเด็ก โดยครูคนหนึ่งของ Jay-Z บอกกับเขาว่า เขามีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ Jay-Z เริ่มฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต

ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง

เรื่องจริงที่ว่าวงการศิลปินหลายคนมักประสบปัญหา และเจอมรสุมในชีวิตเพราะ ปารตี้ ยา เหล้า แต่ไม่ใช่กับ Jay-Z  เพราะเขารู้ตัวว่าเขาจะโฟกัสกับการหาเงินมากกว่าการใช้ โดยเขาเป็นคนที่ดื่มน้อยถึงน้อยมาก และมักจะเลือกดื่มเครื่องดื่มเบาๆ เพื่อเป็นการถนอมร่างกายตัวเอง เพราะเขารู้ว่าเขายังต้องใช้ร่างกายนี้หาเงินกับมันอีกเยอะ

ต้องการได้รับการยอมรับ

สมัยที่ Jay ได้รับรางวัลแกรมมี่ครั้งแรก เขาไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะคิดว่าเขาไม่ได้รับเกียรติมากพอ เขาจึงแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความไม่พอใจ เช่นในชีวิตจริง เกิดถ้าคุณทำงานหนักและดีมาหลายปี (ต้องดีจริงนะ ไม่ใช่คิดไปเองว่าดี) แต่เจ้านายก็ยังมองว่าคุณทำงานได้แย่ ถ้าคุณไม่แสดงออกอะไรเลย เจ้านายก็จะคงจะแสดงถ้าทีแบบนั้นต่อไป คำแนะนำคือถ้าคุณมั่นใจในผลงานของตัวเอง เข้าไปพูดคุยพร้อมอธิบายด้วยหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน จะได้เข้าใจตรงกัน Happy Ending

จาก 10 อย่างที่เรากล่าวมาก็เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของยอดคนอย่าง Jay-Z โดยเราหวังว่าชาว UNLOCKMEN จะนำมาปรับเปลี่ยนใช้ในชีวิตของตัวเองได้ เพราะเราจะเห็นได้ว่า Jay-Z ก็ไม่ได้โตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์ แถมต้องกัดฟันสู้กับชีวิตของตัวเองในวัยเด็ก ซึ่งมันเป็นเหมือนเส้นบางๆ ถ้าหลงทางผิดไป Jay ก็อาจจะเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาเลือกทางที่ถูกต้อง จึงทำให้โลกนี้ได้รู้จักกับ Jay-Z The King of Hip Hop