ของจริงต้องแบบนี้! 10 สิ่งที่บ่งบอกว่าคุณคือเด็กยุค 90’s อย่างเต็มตัว

อดีตมักจะมีแรงดึงดูดบางอย่างที่มักจะทำให้เราได้นึกถึงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี สังเกตในระยะหลังมานี้มีการพูดถึงวัฒนธรรมยุค 90’s กันสนั่นโซเชียล มีการถกเถียงกันหลาย ๆ ประเด็นเนื่องจากมีข้อมูลบางอย่างที่ผิดพลาด บางอย่างก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในยุค 90’s แต่กลับกลายเป็นในช่วงยุค 2000’s แทน

ทาง Unlockmen จึงขอนำเสนอ 10 สิ่งที่บ่งบอกว่าคุณคือเด็กยุค 90’s อย่างเต็มตัว มาให้ทุกคนได้ลองทบทวนว่าตนเองคือเด็ก 90’s ของจริงหรือไม่

1.ตู้โทรศัพท์สาธารณะ

ปัจจุบันโทรศัพท์สาธารณะแทบจะหมดความหมายไปแล้ว นับตั้งแต่การเข้ามาของโทรศัพท์มือถือจนพัฒนามาเป็นสมาร์ตโฟน กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีพกติดตัวและเป็นปัจจัยจำเป็นแบบที่ขาดไปชีวิตคงรู้สึกแปลก ๆ

แต่สำหรับคนที่เติบโตมาในช่วงยุค 90’s ตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นสิ่งที่มีความหมายมาก ๆ ตู้กระจกทรงยาวสูงกับพื้นที่ความกว้างที่ไม่น่าจะถึงเมตร ความสูงราว ๆ 2 เมตรนิด ๆ มันได้กลายเป็นห้องที่ใครหลายคนใช้เวลาไปกับมันแทบไม่ต่างจากห้องนั่งเล่นภายในบ้านเพื่อโทรคนรู้ใจ, ติดต่อธุระ, คุยเล่นกับเพื่อน หรือมีเหตุเร่งด่วนที่ต้องติดต่อกลับบ้านเมื่ออยู่นอกสถานที่

แต่ก่อนจะเข้ามาใช้บริการคุณจะต้องทำการแลกเหรียญซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นเหรียญบาท, เหรียญห้าบาท หรือเหรียญสิบบาท สามารถใช้ได้ทั้งหมด ถ้าเอาล้ำขึ้นมาหน่อยก็ใช้เป็นบัตรโทรศัพท์เสียบแทน เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เหลือแค่ลุ้นว่าคิวการใช้บริการจะยาวขนาดไหน บางพื้นที่ที่เป็นแหล่งคนพุกพล่านเราอาจจะเจอคนต่อแถวยาวเป็น 10 คน ซึ่งก็ต้องมานั่งลุ้นอีกว่าแต่ละคนจะโทรนานขนาดไหน

2.โทรศัพท์บ้าน

โทรศัพท์บ้านคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะปัจจุบันก็ยังมีติดประจำบ้านเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นในยุค 90’s โดยเฉพาะวัยรุ่นชายที่เริ่มรู้จักการจีบสาว การยกหูโทรศัพท์โทรหาฝ่ายหญิงจึงเป็นอะไรที่ลุ้นระทึกมาก เพราะเราไม่อาจคาดเดาได้ว่าใครจะเป็นคนมารับโทรศัพท์ จะเป็นเจ้าตัวเอง หรืออาจจะเป็นพ่อหรือแม่ของฝ่ายหญิงก็เป็นได้ นี่คือด่านอรหันต์ที่ต้องหาวิธีฝ่าด่านเข้าไปเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ส่วนทริกที่หลาย ๆ คนทะลวงด่านนี้ บางคนก็อาจจะให้เพื่อนฝ่ายหญิงต่อสายให้ หรือใครเก่งหน่อยก็อาจจะลงทุนปลอมเสียงเป็นผู้หญิงเองซะเลย หรือถ้าใครใจถึง ๆ ก็ใช้เสียงเราบอกไปตรง ๆ ว่าต้องการคุยกับใคร นี่คืออีกหนึ่งความสนุกที่วัยรุ่นยุคปัจจุบันไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกอย่างแน่นอน

3.เพจเจอร์

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของยุค 90’s ไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด เพจเจอร์ทำหน้าที่รับข้อความสื่อสารจากใครก็ตามที่ต้องการติติดต่อเรา ซึ่ง ณ เวลานั้นใครมีอุปกรณ์ชิ้นนี้มันจะทำให้คุณดูเท่ขึ้นมาอีกหลายเท่า แต่ความฮาของการใช้งานเจ้าตัวนี้กลับไม่ใช่เจ้าของเพจเจอร์ แต่มันเป็นผู้ที่ต้องการส่งข้อความเข้าไปต่างหาก

ถ้าเป็นสมัยนี้เราก็คงพิมพ์ข้อความผ่านช่องทางต่าง ๆ ง่ายดาย แต่ในตอนนั้นเราจะต้องโทรเข้าไปยังคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งแน่นอนจะมีเจ้าหน้าที่รับสายเพื่อให้เราบอกข้อความที่ต้องการจะส่ง โดยเจ้าหน้าที่นั่นแหล่ะที่จะเป็นคนพิมพ์ข้อความของเราส่งไปแทน แล้วลองคิดดูถ้าคุณต้องการบอกรักหรือต้องการส่งข้อความจีบใครซักคนที่ตามปกติจะให้พูดก็เขิลจะแย่อยู่แล้ว แต่นี่ต้องบอกข้อความเหล่านั้นผ่านคนกลาง งานนี้เจ้าหน้าที่ต้องมีแอบเขิลบ้างอย่างแน่นอน

4.ร้านเช่าวิดีโอ

นี่คือธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงยุค 90’s ไปไหนมาไหนเราจะเห็นร้านเช่าวิดีโอผุดขึ้นเต็มไปหมด มันทำให้เราสามารถฃหาภาพยนตร์ที่ออกจากโรงแล้วมาชมได้, หาการ์ตูนตอนใหม่ ๆ มาดูก่อนช่อง 9 หรือแม้กระทั่งหาซีรีส์หนังจีนมาดูอย่างต่อเนื่อง

ระบบร้านเช่าวิดีโอไม่มีอะไรซับซ้อน คุณแค่สมัครสมาชิกกรอกลงสมุดของร้าน หลังจากนั้นก็ไปเลือกม้วนวิดีโอที่เราอยากดูกันได้เลย แต่ก็ใช่ว่าจะสมหวังเสมอไป เพราะบางทีก็มีคนเช่าม้วนที่เราต้องการไปก่อนแล้ว ทำให้เราต้องมาเชคจากสมุด เช่า-คืน ของทางร้านเพื่อจะได้ล็อกวันเข้ามาเช่าต่อ

5.สมุดสะสมสติ๊กเกอร์

รู้ว่าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ประโยคนี้ใช้ได้ดีกับการซื้อสติ๊กเกอร์เพื่อแปะลงสมุดสะสม โดยในยุคนั้นจะมีทั้งสมุดสะสมดราก้อนบอล, คนเก่งฟ้าประทาน, โดราเอม่อน, เซนต์ ไซย่า และอีกมากมาย รวมไปถึงพวกรูปนักฟุตบอลด้วยเช่นกัน โดยเราจะต้องไปซื้อสติ๊กเกอร์มาจากกล่องขนมเพื่อเอามาแปะให้เต็มสมุดแล้วเอาไปแลกของรางวัล ซึ่งจะมีเกณณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่นสะสมครบ 1 เล่มได้นาฬิกา, 2 เล่มได้โมเดล, 10 เล่มได้เพลย์สเตชั่น เป็นต้น

จากลูกล่อลูกชนดังกล่าวมันก็ทำให้เด็ก ๆ ฮึกเหิมต้องสะสมให้ครบให้ได้ก่อนใครเพื่อของรางวัลและต้องการเอาชนะเพื่อน สูญเสียเงินไปไม่รู้เท่าไหร่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วของรางวัลบางอย่างมันราคาแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง

6.รสนิยมการฟังเพลง

ยุค 90’s ถือเป็นยุคที่วัฒนธรรมทางดนตรีผลิบานอย่างสวยงามและเป็นยุคของการฟังเทป มีศิลปินผลิตผลงานออกมาสู่ท้องตลาดมากมาย นับเอาเฉพาะในไทยก็มีให้ฟังอย่างไม่ขาดสาย

ฝั่งเพลงร็อกตรงกับช่วงยุคอัลเทอร์เนทีฟและกรันจ์ เราได้รู้จักวงอย่าง โมเดิร์นด็อก, เดอะ มัสต์, พาราดอกซ์, พราว, อรอรีย์, บาร์บี้ส์, ที.เอ็น.ที., แบล็กเฮด, ซีเปีย และอีกมากมาย

ส่วนฝั่งป๊อปดูเหมือนว่าค่ายอาร์เอสจะกุมหัวใจเด็ก ๆ และวัยรุ่นได้หมดจากผลงานของศิลปินอย่าง แร็พเตอร์, เจอาร์ วอย, ราฟฟี่ แนนซี่. โดม ปกรณ์ ลัม, เจมส์ เรืองศักดิ์, ลิฟท์-ออย, เต๋า สมชาย และนู๊ก สุทธิดา เป็นต้น

ส่วนฝั่งแกรมมี่ก็งัดศิลปินมาสู้แบบไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเป็น มอส, ทาทา ยัง และ ยูเอสที ส่วนฝั่งคีตาก็มีศิลปินเช่น ฝันดี ฝันเด่น, ที-สเกิ๊ต และอ้อม สุนิสา

ยุคนั้นหากจะวัดความสำเร็จศิลปินที่ง่ายที่สุดนอกจากจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ การทำยอดขายได้ล้านตลับก็เป็นเครื่องชี้วัดได้เช่นกัน

7.ขึ้นรถเมล์ราคา 3.50 บาท

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าราคาตั๋วรถเมล์เคยถูกมาก ๆ จริง ๆ ในราคาเพียงแค่ 3.50 บาท รถเมล์ที่บริการก็เป็นสีครีม-แดง ที่ยังคงวิ่งให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในยุค 90’s การเดินทางที่สะดวกและประหยัดที่สุดก็ต้องยกให้รถบริการประจำทางเหล่านี้

หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงบรรยากาศตอนเลิกเรียนที่ต้องยืนเกาะกลุ่มรอรถเมล์กลับบ้าน บางครั้งก็รวมเงินกันเป็นสิบคนเพื่อจะจ่ายรวดเร็วเพราะอยากเห็นตั๋วยาว เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทำให้ชวนอมยิ้มได้เสมอ

8.ตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์

นี่คือเทคโนโลยีที่บอกได้เลยว่าล้ำมาก ๆ ในตอนนั้น ตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ตามห้างสรรพสินค้าจะทำให้คุณได้รูปหล่อ ๆ สวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายเดี่ยว, ถ่ายเป็นคู่ หรือถ่ายกับเพื่อน ๆ เป็นกลุ่ม แถมยังไม่ต้องรอล้างฟิล์มเหมือนกล้องถ่ายรูปทั่วไป ใช้เวลายืนรอไม่นานคุณก็จะได้รูปปริ้นออกมาเป็นแบบสติ๊กเกอร์แผ่นใหญ่ที่มีหลายรูปหลายแอคชั่นอยู่ในนั้น ให้คุณได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือเอาไปแลกกับเพื่อนก็ได้

ยุค 90’s ใครไม่มีรูปถ่ายสติ๊กเกอร์บางได้คำเดียวว่าไม่จ๊าบเลย

9.เครื่องแฟมิคอม

ก่อนการมาของเพลย์สเตชั่น เจ้าเครื่องแฟมิคอมเคยครองใจเด็กไทยและวัยรุ่นยุค 90’s มาก่อน เป็นเกมที่ให้ภาพและเสียงในสไตล์ 8 บิต ที่มีความคลาสสิคมากจริง ๆ

เกมที่ได้รับความนิยมในตอนนั้นถ้าเอ่ยมาจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน เช่น คอนทร้า, ซุปเปอร์มาริโอ้, แพคแมน, บอมเบอร์แมน, ร็อกแมน, สตรีท ไฟท์เตอร์ และอีกเพียบ

วิธีการเล่นเราจะต้องเสียบตลับเกมลงไปในตัวเครื่อง แต่ในหลาย ๆ ครั้งเราจะเจอปัญหาคือเปิดไม่ติดหรือแฮงค์ วิธีแก้ในยุคนั้นแบบไร้เหตุผลคือต้องเลียตลับหรือพ่นโซแนกซ์ลงไป ซึ่งมันก็ติดสามารถเล่นได้หลาย ๆ ครั้งอย่างน่าประหลาดใจ แต่ภายหลังเพิ่งทราบสาเหตุว่าที่ตลับเปิดไม่ติดเนื่องจากอาจจะมีฝุ่นเยอะ ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไรก็ตาม ก็บอกได้เลยว่าไม่ทันแล้วเพราะขมคอไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

10.MBK HALL

ในสมัยนี้หากนึกถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่ก็คงต้องนึกถึงอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เป็นที่แรก แต่สำหรับวัยรุ่นขาโจ๋ในยุค 90’s MBK HALL คือแลนด์มาร์คการชมคอนเสิร์ต

MBK HALL ชื่อนี้แม้คนเกิดไม่ทันก็น่าจะดูออกจากชื่อว่ามันตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้ามาบุญครองอย่างแน่นอน ซึ่งใช่่แล้ว มันเคยตั้งอยู่บริเวณชั้น 7 ที่ปัจจุบันคือชั้นของโรงภาพยนตร์นั่นเอง

ฮอลล์จัดกิจกรรมแห่งนี้เคยต้อนรับศิลปินไว้มากมายโดยเฉพาะระดับโลก เช่น Green Day, Mr.Big, Blur, Manic Street Prechers เป็นต้น

นี่เป็นเพียงบางสิ่งเท่านั้นที่เกิดขึ้นในยุค 90’s ซึ่งใครที่เคยมีประสบการณ์เหล่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะการันตีได้ว่าคุณคือเด็กยุค 90’s ของจริง หากใครนึกถึงอะไรได้เพิ่มเติมอีกก็สามารถมาคอมเมนต์พูดคุยกันได้ที่หน้าเพจ Unlockmen นะครับ