จับให้มั่นคั้นให้ตาย! ’12 สัญญานอันตราย’ที่บอกว่าคนตรงหน้ากำลังพูดโกหก

ไม่ต้องเป็นสายลับก็สามารถจับโกหกได้ เพราะคนโกหกมักมีสัญญานบางอย่างที่แสดงความลุกลี้ลุกลนออกมาจนเราสามารถสัมผัสได้เองว่าคนคนนี้ไม่ได้พูดความจริงกับเราอยู่ หรือถ้าโกหกมาจนเทพแล้วก็ไม่ต้องกังวลไป UNLOCKMEN สรรหา 12 สัญญานจากที่จะบ่งบอกได้ว่าคนตรงหน้าเรานั้นกำลังโกหกเราอยู่แน่นอน!

1.ขยับหัวไปมาอย่างรวดเร็ว

ดร. Lillian Glass ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษากาย ผู้เขียนหนังสือ The Body Language of Liars  บอกว่าคนโกหกมักจะขยับหัวอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาถูกคาดคั้นให้ตอบคำถาม อาจจะเป็นการก้มหัว เอียงข้าง ขยับซ้าย หรือขยับขวา แต่มันจะเกิดขึ้นทันทีอย่างรวดเร็วเมื่อถูกยิงคำถามเข้าใส่

2.เปลี่ยนจังหวะการหายใจซะอย่างนั้น

ปฏิกริยาตอบสนองที่ชัดเจนที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือจังหวะการหายใจ คนโกหกจะเริ่มมีจังหวะการหายใจที่หนักขึ้น ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเมื่อคนเราโกหก เราก็จะรู้สึกตื่นเต้น กดดัน จังหวะการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนของเลือดก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นอาจจะมีอาการร่วมอย่างหัวไหล่ที่ยกตัวสูงขึ้น น้ำเสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย

3.พูดซ้ำ ๆ วน ๆ

อาการพูดซ้ำ ๆ วน ๆ เกิดขึ้นเพราะคนโกหกจะพยายามชักจูงเราให้เชื่อในสิ่งที่เขาพูด รวมถึงเป็นการโน้มน้าวให้ตัวเองเชื่อในสิ่งที่พูดเองด้วย ไม่เพียงแค่นั้นการพูดซ้ำ ๆ ด้วยคำเดิม หรือวลีเดิมก็เป็นการประวิงเวลาให้คิดว่าจะพูดอะไรต่อดี หรือถ้าถูกถามคำถามก็ต้องประวิงเวลาให้คิดตอบแบบเฟค ๆ ขึ้นมา

4.เอามือกุมส่วนที่เปราะบางของร่างกาย

ถ้าใครสักคนยกมือขึ้นมาปิดคอ หน้าอก หัว หรือหน้าท้องตัวเอง ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะกำลังโกหกอยู่ ดร. Lillian Glass บอกว่าทีแรกเธอก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อสังเกตนี้จนกระทั่งได้เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษให้กับเอฟบีไอและได้มีส่วนร่วมในศาล เธอเห็นหลายคนที่ให้การต่อศาลและมีลักษณะเช่นนี้

5.จับหรือปิดปากตัวเอง

การจับปากหรือปิดปากตัวเองมักเดิขึ้นตอนที่คนคนนั้นถูกจู่โจมด้วยคำถาม หรือพูดถึงหัวข้อที่พวกเขาไม่อยากตอบหรือยุ่งเกี่ยวด้วย เป็นสัญญานของความต้องการหลีกเลี่ยง การไม่ต้องการบอกความจริง

6.ขยับเท้าไปมา

การขยับเท้าเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อคนเรากระวนกระวายใจ รู้สึกอึดอัด รวมถึงบ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว

7.อยู่ ๆ ก็พูดมาก ให้ข้อมูลเต็มเปี่ยมขึ้นมา

การที่ใครสักคนให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องหนึ่งเยอะเกินไปโดยที่คุณไม่ได้ถาม แถมบอกมาละเอียดยิบ นั่นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะกำลังโกหกคุณอยู่

การที่คนโกหกมักพูดอะไรเยอะ ๆ นั่นเป็นเพราะเขามีความหวังว่าการพูดแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนเปิดเผย และเชื่อในสิ่งที่เขาพูด

8.ชี้นิ้วใส่ไปทั่ว

เมื่อคนโกหกกำลังเริ่มถูกรุกล้ำหรือกำลังถูกไล่ต้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะเริ่มแสดงอาการโกรธเกรี้ยวและเริ่มชี้นิ้วใส่วงสนทนามากขึ้น

9.เริ่มพูดอะไรไม่ค่อยออก

ร่างกายเรามักมีปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัติที่ลดปริมาณการหลั่งของน้ำลายลงในช่วงที่เราอยู่ในสภาวะตึงเครียด นั่นจะทำให้ช่องปากเราแห้งผากและพูดอะไรออกมาได้ยากเต็มที โดยอาจมีการกัดหรือเม้มปากร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้พบมากในการสอบสวนผู้ต้องสงสัย

10.มองตาคุณโดยกระพริบตาน้อยมาก

เรามักเคยได้ยินว่าคนที่กระทำความผิดจะหลบสายตา แต่คนที่มาเพื่อโกหกคุณโดยเฉพาะมักมีแนวโน้มที่จะมองตาคุณมากกว่าปกติ เพื่อหวังว่าจะทำให้คุณเชื่อได้

แต่การมองตาแบบคนโกหกนี้จะจ้องนานและกระพริบตาน้อยกว่าการกระพริบตาทั่วไป ทั้งที่ในความจริงแล้วถ้าเราพูดจากันปกติเราก็ไม่ได้จ้องตาคู่สนทนาตลอดเวลาขนาดนั้น แต่มองไปรอบ ๆ บ้าง หรือจ้องไปที่สิ่งอื่นบ้าง แต่คนโกหกจะจ้องเราเพื่อแสดงความโน้มน้าวและควบคุม

11.เหงื่อไหล

การโกหกคือความกดดัน คนโกหกจึงมักกระวนกระวาย ไม่สบายใจ ตื่นตระหนก ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้เหงื่อเริ่มผุด โดยสังเกตได้ง่ายบริเวณหน้าผากและเหนือริมฝีปาก

12.อยู่ไม่สุข

บางคนก็อยู่ไม่สุขด้วยตัวเอง ต้องขยับขาบ้าง แกะเล็บบ้างเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะดูว่าเขาอยู่ไม่สุขแบบนั้นเป็นปกติหรือเปล่า เพราะบางทีโกหกก็อาจไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้ เนื่องจากความตื่นตระหนก กระวนกระวายเช่นกัน

การศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ แม้จะไม่ได้เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจับโกหกคนตรงหน้าแบบมืออาชีพ แต่ก็เป็นอีกหนทางที่ดีที่จะทำให้เรารู้จักสังเกตหรือทำความเข้าใจกับท่าทางของคนที่อยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น รวมถึงคอยระมัดระวังเมื่อตัวเองอยู่ในอาการประหม่าว่าจะเผลอแสดงอาการกระวนกระวายอะไรออกไปในเวลาที่ต้องแสดงความมืออาชีพบ้างหรือเปล่า ดังนั้นอ่านทวน 12 ข้อซ้ำ ๆ เอาไว้จับโกหกผู้อื่นและพัฒนาตัวเองกันเถอะ!

SOURCE