Play

ชวนดู 16 เกมสุดเจ๋งตาม TIMELINE ชีวิต ไล่ตั้งแต่เป็นหนุ่มน้อยจนเป็นหนุ่มเต็มตัว

By: unlockmen April 4, 2018

จุดร่วมของผู้ชายอย่างเรามันมีอยู่ไม่กี่อย่าง และสิ่งที่เป็น Pop-Culture สุด ๆ ที่ทุกคนต้องเคยสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก เป็นวัยรุ่นหรือโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วก็ตาม นั่นคือ “เกม” ที่อยู่กับเรามาเสมอ เรียกว่าเติบโตมาพร้อมกับเราก็ยังได้ แม้มันย้ายจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ แต่ก็มีลูกเล่นหลากหลายเอามาหลอกล่อให้เด็กน้อยในส่วนลึกของเราตาลุกวาวได้เสมอ

วันนี้ UNLOCKMEN ขอพามาย้อนรอยวันวานไปพร้อมกัน รื้อค้นความทรงจำของเราตั้งแต่วัยเด็กจนมาถึงวัยรุ่นร้านเกมและวัยที่พร้อมซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า (อย่างในตอนนี้) ในทุกแพลตฟอร์มเท่าที่จะนึกออก

ทั้งนี้อาจจะเก็บไม่ครบ เพราะแต่ละคนก็จะมีความทรงจำ ความชอบ กันคนละแบบ เลยขอยกอะไรที่ดัง ๆ ในช่วงนั้น อาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด เพราะไม่งั้นอาจจะไปแตะที่ร้อยเกมก็ได้

Super Mario Bros.

จุดเริ่มต้นแห่งความคลาสสิกของ Theme Song ที่คุ้นหูและเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจริง ๆ ถ้าถามหนุ่ม ๆ คงจะปลื้ม Super Mario 3 กันมากกว่า แต่ขอเลือกภาคนี้มาเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความคลาสสิกที่เราคิดถึงกัน แม้ว่าจะไม่สนุกเท่าภาค 3 แต่ว่ามันเป็นเกมในความทรงจำของเรานั่นเอง และมันยังเข้ามาช่วยปลุกกระแสของวงการวิดีโอเกมให้มาเฟื่องฟูแบบระเบิดระเบ้ออีกครั้ง

 The Legend of Zelda

เกมช่วยเจ้าหญิงในตำนาน ให้เราได้สวมบทบาทพระเอก ตะลุยดันเจี้ยน ปราบเหล่าตัวกระจ๊อก ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว ส่วนเนื้อเรื่องแต่ละภาคก็ยังต้องถกเถียงกันต่อไป ว่าอะไรมาก่อนมาหลัง มันต่อเนื่องกันหรือไม่ แต่ยังไงก็เถอะ เกมนี้เป็นเกม RPG ยุคแรก ๆ เลยก็ว่าได้  และมีอิทธิพลมากพอ ๆ กับมาริโอเกมแรกจนถึงขนาดนี่ว่าได้รับการดัดแปลงไปเป็นมังงะอีกด้วย

Sonic the Hedgehog

เม่นสีฟ้านักวิ่งในตำนาน ที่จะทำให้เราหลอนไปกับห่วงสีทองที่เราไม่อยากพลาดไปแม้แต่อันเดียว เกมนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก หลายคนคงไม่พลาดอยู่แล้ว เกมนี้ก็เช่นเดียวกับเซลด้าฮิตจนถูกนำไปทำเป็นมังงะด้วย

Mortal Kombat

เกมต่อสู้เลือดสาดเป็นพิกเซล ที่อาจจะดูโหดร้ายมากแล้วในยุคนั้น เกมนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีภาคหลักต่อมาอีกหลายภาคและมีภาคเสริมอีกต่างหาก นั่นยังไม่หมด มันฮิตซะจนได้เอาเนื้อเรื่องทำเป็นภาพยนตร์ ส่วนภาพยนตร์เป็นอย่างไรนั้น ต้องลองดูเอาเอง (ฮา)

Pokemon red and blue

ก่อนจะมาเป็นเกมบนโทรศัพท์ที่เพิ่งฮิตแบบพลุแตกไปเมื่อปีก่อน โปเกมอนถือว่าเป็นอีก Pop-Culture ที่ยังคงอยู่มาแบบยาวนานไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของมังงะ อะนิเมะ และเกม ให้เราได้เสพในทุกช่องทาง

Diablo 2

Red Alert 2

สองเกมคลาสสิกระดับตำนาน ไม่ต้องพูดอะไรมาก เอามาแปะให้หายคิดถึงก็พอ

Winning Eleven

คือเกมฟุตบอลที่เรียกติดปากสั้น ๆ กันว่า “วินนิ่ง” นั่นแหละ แม้ว่ากลับไปดูตอนนี้เด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจจะงงว่าทำไมมันถึงฮิตนักหนา กราฟิกระดับนี้ กลายมาเป็นเกมระดับตำนานที่ทุกร้านเกมทุกเครื่องคอนโซลต้องเป็นเกมนี้ได้ยังไง เพราะว่ามันสมจริงที่สุดในสมัยนั้นยังไงล่ะ

DOOM

ใครที่ชอบ FPS (First Person Shooter) รับรองเลยว่าเกมนี้ต้องติดโผในใจแน่นอน เกมนี้เป็นเกมแรก ๆ ที่มีภาพที่สมจริงและเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในตอนนั้นอยู่พอสมควร แต่จนแล้วจนรอด เกมนี้ก็ขยายแฟรนไชส์ภาคต่อมาอีกเรื่อย ๆ และกลายเป็นเกมระดับตำนานสำหรับใครหลายคน

Half Life 2

เป็นเกม FPS อีกเกมที่ภาคต่อเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นมากกว่าภาคแรก เพราะมันพัฒนาขึ้นเยอะมากในทุกด้านถ้าเทียบกับภาคแรก มากขนาดไหนน่ะหรอ ? ขนาดที่กวาดรายได้ไป 40 ล้านเหรียญไงล่ะ

Resident Evil 4

กว่าจะถูกใจคนเล่นก็ปาเข้าไปภาค 4 สำหรับ Resident Evil ที่วางรากฐานระบบอาวุธใหม่จนทำให้เกมมีความแอ็คชั่นมากขึ้นจนระดับความรุนแรงขึ้นไปแทบจะทะลุปรอท และเป็นการเริ่มระบบมุมมองบุคคลที่สามให้กับเกมอีกด้วย แม้ว่าจะมีภาพยนตร์ชื่อเดียวกันแต่เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ไม่เหมือนกับในเกมเลย

Crysis

เป็น FPS อีกเกมที่ทำออกมาได้ดี ได้รับคะแนนวิจารณ์ไปทางบวกซะจนเกือบเต็มสิบแทบทุกเจ้า จนหลายคนยกให้ความเก๋าเทียบเท่ากับเกม Half-Life 2 เลยด้วยซ้ำ

The Elder Scrolls V: Skyrim

เกมที่ให้อิสระการเล่นเราแบบขั้นสุด และที่ผู้เล่นชื่นชอบที่สุดคงจะเป็น MOD ที่สรรหามาใช้กับเกมนี้นี่แหละ แต่อย่างว่า มันช่วยให้เกมน่าเล่นขึ้นมากกว่าเก่าเยอะอยู่

Grand Theft Auto V

ใครที่รัก GTA ยังไงก็ต้องรักภาค Open World นี้ แม้ว่าจะเพิ่งออกมาได้ไม่นานแต่ยอดขายก็ถล่มทะลายที่ 80 ล้านชุด ไปเรียบร้อย แต่สุดท้ายแล้วจะชอบมากน้อย เบื่อไม่เบื่อยังไง ก็ต้องลองเล่นดูอยู่ดี (เพราะเสียงวิจารณ์ก็แตกออกเป็นสองฝั่งเช่นกัน)

Final Fantasy VII

ส่วนตัวยังไม่เคยเล่น เลยไปถามความคิดเห็นจากคนที่เล่นมาแล้วอย่าง Notthaphon Srisuk เลยได้ความว่า “ผมว่า FF7 มันเป็นที่สุดในหลาย ๆ ด้านนะ ทั้งกราฟิกในสมัยนั้นซึ่งถือว่าสวยงามมาก เนื้อเรื่องที่พิถีพิถันมากในการเรียบเรียงแล้วมันมีความเป็นญี่ปุ่นสูงมาก ตัวละครแต่ละตัวมันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น เป็นที่น่าจดจำมาก”

Overwatch

ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะตอนเปิดตัวกระแสแรงแบบหยุดไม่อยู่ ส่วนตัวก็ยังไม่เคยเล่นเกมนี้ (อีกแล้ว) เลยยืมความเห็นจาก Toey Sriyamaka หนึ่งในชาวเนิร์ดมีความเห็นว่า “ตัวละครมันมีเสน่ห์ มีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกัน เหมาะกับหลายสไตล์ มันต้องเล่นเป็นทีม เก่งคนเดียวไม่ได้ เพราะเกมมันไม่ได้เน้นคิล” จากเหตุผลนี้เลยทำให้ Overwatch ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นกันนี่เอง

สุดท้ายแล้วความทรงจำคือสิ่งที่อยู่กับเราเสมอโดยเฉพาะความทรงจำที่สร้างความสุขให้เรา มันจะยังคงชัดเจนและอบอุ่นอยู่ในหัวใจทุกครั้งที่เรานึกถึง เหมือนที่เคยพูดไปในคอนเทนต์ก่อน ๆ อยู่เสมอ แต่เพราะมันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายามเราเหนื่อยกับชีวิตที่มันไหลไปตามกาลเวลาเรามักจะย้อนกลับไปหาอะไรที่ทำให้เรามีความสุขนั่นเอง

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line