‘2nd Oneh-Style Dungeon’เอาเรื่องเน่า ๆ ในชีวิต มา Flip แบบฟรีสไตล์ Flow กระจายกลาง Tokyo

งาน Event ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่ทำให้ผู้ชมที่เข้ามาในงานได้อะไรกลับไป บางงานอาจจะเป็นความรู้ บางงานอาจจะเป็นความสุข รวมไปถึงการได้รางวัลจากการแข่งขันในงาน Event นั้น ๆ ไปครอบครอง

วันนี้ UNLOCKMEN ได้ไปเจอเข้ากับ Event งานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญมันยังเป็น Event การแข่งขัน Rap Freestyle เช่นเดียวกับที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในประเทศไทยของเราอีกด้วย

แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า งานนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งสถานที่ ทั้ง Theme งาน รวมไปถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันนั้น มีประโยชน์ต่อประชากรในประเทศของเค้ามากเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักกับงานที่มีชื่อว่า “2nd Oneh-Style Dungeon” กันเลยดีกว่า

ระหว่างช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1945 – 1956 ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีในบริเวณ Shinjuku Ni-Chome ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งทำมาหากินของเหล่าโสเภณีทั้งหลาย หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า “ย่านโคมแดง”

หลังจากการประกาศดังกล่าว ทำให้สถานบริการในย่านโคมแดง รวมถึงหญิงสาวหากินในแถบนั้น ค่อย ๆ หายไปทีละนิด แต่ทว่า เมื่อมีประกาศห้ามผู้หญิงขายตัวขึ้น ทำให้มีสถานเริงรมณ์ทางเลือกใหม่ นั่นก็คือ บาร์เกย์ เปิดขึ้นมาแทนที่ในช่วงปี 1980 เป็นต้นมา และกลายเป็นที่รู้จักในภายหลังว่า “Gay Town”

บาร์เกย์ในแถบนี้นั้น ถือว่าเป็นย่านที่เข้มงวดสุด ๆ เนื่องจากว่า มีกฏห้ามให้คนที่เป็นชายหญิงประเภท “Heterosexual” (ชายจริงหญิงแท้นั่นเอง) เข้ามาในบริเวณดังกล่าวเป็นอันขาด

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โลกของเราเริ่มเปิดเผยมากขึ้น มีการออกเดทออนไลน์ และใช้สื่อ Social ต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลาย ชุมชน “Gay Town” ก็ไม่ใช่พื้นที่ลึกลับที่ห้ามให้คนประเภท “Heterosexual” เข้าใกล้อีกต่อไป จากชุมชนชาวเกย์ลึกลับขนาดย่อม จึงกลายเป็นแหล่งของความบันเทิงขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียวที่คนรักแสงสีจากทั่วทุกมุมโลกจะมาหาความสุขกันในยามราตรีจนถึงปัจจุบันนี้

แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ณ บริเวณ Shinjuku Ni-Chome ซึ่งอดีตเคยเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงจาก “Gay Town” และ ขึ้นชื่อในสถานบันเทิงที่อัดแน่นไปทั่วทุกบริเวณนี้ ก็กลับมามีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากบริเวณนั้น ถูกใช้เป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขัน MC ที่มีชื่อว่า “2nd Oneh-Style Dungeon” ขึ้น

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ถ้าให้เปรียบแทบก็คงจะคล้าย ๆ กับรายการแข่ง Rap ชื่อดังของบ้านเราอย่าง Rap is Now อะไรทำนองนั้น

เพียงแต่ว่าคอนเซ็ปต์ในการจัดงานนี้นั้นได้มาจากปรากฏการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่อย่างหนักหน่วง นั่นก็คือ Sazae-San Syndrome ซึ่งเป็นภาวะโรคซึมเศ้ราชนิดหนึ่งที่จะมีอาการหดหู่และซึมเศร้าอย่างรุนแรงในคืนวันอาทิตย์ เนื่องจากกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตและเผชิญหน้ากับสัปดาห์ต่อที่กำลังจะมาถึง

การแข่งขัน MC ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ถูกนำมาใช้เป็นทางออกให้กับคนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภาวะ Sazae-San Syndrome ได้มาระบายความในใจของพวกเค้า ผ่านการแร็พฟรีสไตล์กันสด ๆ แทน

สำหรับเหล่า Rapper ที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ทุกคนจะต้องขึ้นไปประชันฝีปากกันบนเวทีที่มีการแบ่งไว้ถึง 3 เวที ภายใต้ตรีม Drag Queen Onstage ได้แก่ Rachel D’amour, the “Queen of Passion” เป็นเวทีที่ 1, Angel Jasqo, the “Fallen Angel of Shinjiku Ni-chome” เป็นเวทีที่ 2 และสุดท้าย Chikako Relax, the “Maiden of Extreme Dissing.” เป็นเวทีที่ 3

นอกจากนี้ผู้แข่งขันทุกคนยังต้องแต่งตัวแบบจัดเต็ม เป็นกระเทยทรงเครื่องที่ฝีปากกล้า Rap Battle กันไปมา โดยผู้ชมภายในงาน จะเป็นผู้ที่ให้คะแนนตัดสินว่า ใครที่แต่งตัว รวมไปถึงลีลาการฟรีสไตล์สุดเร้าใจและเรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะไป

ผู้ชมในงานจึงจะได้ฟังการระบายเรื่องราวชีวิตที่ตึงเครียดในแง่มุมต่าง ๆ ผ่าน Rhyme ที่ใส่หนักจัดเต็มกับแบบโคตร Flow เรียกว่า ทั้งผู้แข่งขัน และทั้งผู้ชมต่างก็ลืมความ ซึมเศร้าในคืนวันอาทิตย์ไปเสียสนิท ถือว่าเป็น Event ที่ยอดเยี่ยมที่แก้ปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

SOURCE