ผ่านพ้นไปแล้วสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากับกิจกรรม UNLOCKMEN x VESPA: TELL YOUR STORY WITH COLOURS งาน Workshop ดี ๆ เปิดพื้นที่รวมพลคน VESPA พันธุ์แท้จากหลากหลายวงการทั้งศิลปิน, นักแสดง, ช่างภาพ, กลุ่มก๊วนคนรัก VESPA ตัวจริง รวมถึง Influencers ชื่อดังมากมาย ให้มาถ่ายทอดตัวตนที่แตกต่างผ่านสไตล์, สีสัน และ VESPA คันโปรด กิจกรรมภายในงานเริ่มต้นด้วยการเผยโฉมอวดความเฟี้ยวของ VESPA ทั้ง 4 รุ่น 8 เฉดสีใหม่ ที่พร้อมเซอไพรส์สาวก VESPA ตลอดปี 2022 นี้ ด้วยสีสันแห่งอิสระสไตล์อิตาลีภายใต้คอนเซ็ปต์ “TELL YOUR STORY WITH COLOURS” ก่อนที่จะลงลึกถึงการปลดล็อกตัวตน และถ่ายทอดเรื่องราวในแบบที่เป็นตัวเองผ่าน Workshop Session
The Gumball 3000 Rally งาน Rally ที่มีการรวมตัวของ Supercar มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เรียกได้ว่าเรื่องความล้ำนำเทรนด์ต้องยกให้เค้าจริง ๆ กับ Chang Cold Brew Cool Club คลับของคนคูล ที่ล่าสุดได้ผุดโปรเจกต์ใหม่ พร้อมทะยานสู่โลก Metaverse ด้วยชิ้นงาน Music NFT สุดสมูท ซึ่งใครที่ได้ครอบครองเป็นต้องภูมิใจกับอัตลักษณ์เฉพาะซึ่งสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของงาน Original ที่แท้ทรู สำหรับงาน Music NFT โปรเจกต์แรกของ Chang Cold Brew Cool Club ถือเป็นอีกหนึ่งผลงาน NFT ที่เตรียมเข้าทำเนียบของแรร์ เพราะได้ถูก Mint ขึ้นมาเพียงแค่ 3 ชิ้นในโลกเท่านั้น โดยตัวชิ้นงานจะเป็นบทเพลง ‘สมูทให้คูล (Smooth to be Cool)’ จาก Chang Cold Brew Cool Club X 1Flow Ft.CNAN ซึ่งบทเพลงนี้เป็นเพลงฟังสบายในสไตล์ HipHop /
“Ars Longa Vita Brevis – ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” คือภาษิตของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ ที่เชื่อว่าพวกเราทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยกับวลีนี้จากคำสอนของ ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย และหนึ่งในบุคคลที่ไม่เพียงรู้จัก แต่ยังตกผลึกกับวลีอมตะดังกล่าว คือ ‘เข้-จุฬญานนท์ ศิริผล’ คนทำหนังฝีมือดี ที่ Vespa Thailand ได้ชักชวนให้ร่วมออกเดินทางไปพูดคุยกับคนขี่เวสป้าทั่วประเทศ จนเขาได้ตระหนักถึงความผูกพันของผู้คนกับความหมายของสกู๊ตเตอร์อย่างเวสป้าที่เป็นมากกว่าพาหนะ ด้วยจิตวิญญาณของศิลปะ รวมถึงความอิสระเสรีที่แฝงอยู่ในเวสป้า ที่ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นผ่านชั่วอายุของชาวไทยมายาวนานกว่า 75 ปี ด้วยเหตุนี้ ‘ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น’ จึงถูกเลือกให้เป็นชื่อภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของผู้ชายคนนี้ กับสารคดีเรื่องแรกที่เล่าถึงต้นกำเนิดและความผูกพันระหว่างคนไทยกับเวสป้า และพร้อมจะพาทุกคนออกเดินทางท่องไปในความทรงจำที่มีทั้งใหม่ และเก่าปะปนกันไปจากคำบอกเล่าของผ่านผู้คนมากมายที่แตกต่างกัน แต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกระลึกถึงวันวานอันอบอุ่นที่มีกับเวสป้า ผ่านมุมมองของผู้กำกับอย่าง ‘เข้-จุฬญานนท์’ ที่เชื่อว่า “ทุกความทรงจำมีจุดเริ่มต้น แต่ยังไม่มีจุดจบ ตราบเท่าที่ศิลปะชิ้นนี้ยังคงอยู่” และเพื่อให้ผู้ชม และกลุ่มคนรักเวสป้าได้เข้าถึงแก่นแท้ของเรื่องราวในสารคดี ‘ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น’ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมาทาง Vespa Thailand
เมื่อเวลาหมุนวนมาบรรจบครบเดือนที่ 12 ของปฏิทินทีไร เชื่อว่าหลายคนคงกำลังเฝ้ารอกิจกรรมสนุก ๆ จาก ไฮเนเก้น ที่มักจะมีแคมเปญเจ๋ง ๆ แตกต่างอย่างมีคอนเซปต์ตามสไตล์ของแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกแบรนด์นี้ออกมาต้อนรับช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีอยู่โดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ ไฮเนเก้น ก็ไม่พลาดที่จะจัดเต็มด้วยแคมเปญสุดอลัง เพื่อยกระดับการสังสรรค์ช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองให้พิเศษกว่าที่เคย ด้วยการสร้างจุดเด่นแบบไม่เหมือนใคร เพื่อต่อยอดแนวคิดโกลบอล “Because you’re one in a billion” ที่เชื่อว่าทุกคนล้วนมีความพิเศษในตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ในปีนี้ ไฮเนเก้นเลือกสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกว่าทุกปีด้วย Heineken® Festive Campaign 2020 เพื่อสร้างประสบการณ์การเฉลิมฉลองปีนี้มีให้มีความพิเศษกว่าใคร ให้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ผ่านทาง Element ต่าง ๆ เหล่านี้ สำหรับสิ่งแรกที่ถือเป็นสัญญาณการมาถึงของแคมเปญแจ่ม ๆ ส่งท้ายปีจากไฮเนเก้น ที่หลายคนน่าจะเริ่มสังเกตเห็นกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา คืองานแพทเทิร์น Heineken® Festive Edition 2020 ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ไฮเนเก้นแบบแตกต่างกว่าเดิม โดยดึงเอาอัตลักษณ์ของแบรนด์ ไฮเนเก้นมาจัดวางออกแบบให้ทันสมัยเป็นดีไซน์บนฉลากของผลิตภัณฑ์ที่มีไม่ซ้ำกันถึง 30 ลายทั้งรูปแบบขวด และกระป๋อง ที่ต้องยอมรับว่ามันช่างโดดเด่นเตะตานักสะสมอย่างเรา ๆ เสียเหลือเกิน อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Heineken® One in a Billion Instagram Filter ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองวิธีคิดของไฮเนเก้น ที่ตั้งใจส่งต่อความสนุกสนานในทุกที่ไม่เว้นแม้แต่บนโลกออนไลน์
“A gentleman’s choice of timepiece says as much about him as does his Saville Row suit.” – Ian Fleming เสน่ห์ของนาฬิกาข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับสุดหรูที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ สะท้อนถึงรสนิยม ภาพลักษณ์ รวมถึงตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาฬิกาแต่ละเรือนก็มีเสน่ห์และเหมาะสมกับโอกาสการสวมใส่ที่แตกต่างกันออกไป ในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบหรือสนใจนาฬิกาอยู่แล้ว การลงทุนในสิ่งที่รักและหลงใหลอย่างนาฬิกาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การลงทุนในด้านอื่น ๆ นี่คือโอกาสดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเรือนเวลา เพราะ Luxetime “Luxury Watch Consignment แห่งแรกในไทย” ได้จัดอีเวนต์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สุด Exclusive ครั้งแรกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxetime Beyond the Time” “คุณตั้ม- ชนกพล ไชยศุภรากูล”ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Luxetime กล่าวว่าอีเวนต์แรกของ Luxetime ครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Timepiece จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ มาร่วมสัมผัสความสวยงามหรูหราเหนือกาลเวลา และยังเป็นการรวมตัวของสาวกนักสะสมที่ต่างนำนาฬิกาเรือนคู่ใจของตัวเองมาอวดโฉม พร้อมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ภายในงานประกอบไปด้วยนาฬิกาแบรนด์หรูระดับโลกที่ยกขบวนกันมาแบบจัดเต็ม
งานศิลปะทางการเมือง Political Art ในนาม “Headache Stencil” ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผยหน้าสักเท่าไร แต่หลาย ๆ คนก็รู้จักเขาผ่านทางผลงานที่เล่าเรื่องคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ ประเด็นทางการเมือง หรือประเด็นที่บางคนไม่กล้าพูดถึง รับรองว่าใครที่เขาได้ mention ถึงในผลงานได้มีอาการ “ปวดหัว” เป็นแน่แท้ ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาปล่อยผลงานที่แสดงถึงการต่อต้านเผด็จการ จึงถูกคุกคามจากกลุ่มคนนิรนาม ถึงบ้านพัก บางครั้งก็ถูกขับรถตาม เรียกได้ว่า “บ้าน” ก็ยังไม่ปลอดภัยสำหรับเขา ยิ่งถูกคุกคามมากเท่าไร เขายิ่ง “พร้อมจะตีแผ่ความจริงของประเทศให้โลกได้รับรู้มากเท่านั้น” การพูดความจริงไม่สามารถพูดได้ในที่สาธารณะ แต่เขายังคงยืนหยัดที่จะสร้างผลงาน เพื่อต่อต้านเผด็จการ หรือประชาธิปไตยจอมปลอมต่อไป โดยผลงานของเขาได้ถูกสื่อต่างประเทศอย่าง reuters ตีแผ่เพื่อให้โลกได้รับรู้ และถูกขนานนามว่าเป็น Banksy (ศิลปินชาวอังกฤษ) แห่งเมืองไทย และล่าสุด การตีแผ่ความจริงทางการเมืองในเชิงศิลปะ ของเขาถูกจัดแสดงขึ้นที่ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ซึ่งคิดว่าเป็นเพราะ เพื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงจากกลุ่มบุคคลอื่น และเป็นที่สนใจของสื่อต่างประเทศเป็นอย่างมาก ภายใต้ชื่องานที่ว่า ดู-ดาย (Do or Die) : HEADACHE STENCIL SOLO
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบไปทั่วโลกและทำให้ผู้คนในหลายประเทศต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อความปลอดภัยของตัวเองในขณะเดียวกันวิถีชีวิตแบบปกติใหม่หรือ New Normal ก็ได้สร้างช่องทางการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนกับโลกภายนอกที่เรียกว่า Virtual Event ขึ้นมาพร้อมกัน Virtual Experience หรือการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนเราเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกับชีวิตยุค New Normal หลังการแพร่ของไวรัสโควิด-19 เมื่อมนุษย์ต่างหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะยังคงกลัวความเสี่ยงจากโรคติดต่อส่งผลให้งานอีเวนต์และการรวมตัวกันของผู้คนต้องหยุดชะงักไปด้วย Virtual Event จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญแถมยังทำหน้าที่ได้ดีอีกด้วย วันนี้เรามาแนะนำ Virtual Event ดี ๆ ที่ผ่านมารวมไปถึงอีเวนต์ที่ไม่ควรพลาดซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ จะมีอีเวนต์เจ๋ง ๆ แบบไหนรออยู่บ้างมาชมไปพร้อมกันเลย นอนชมภาพเขียนระดับโลกอยู่บ้านผ่าน “Virtual Tour” ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ช่วงกักตัวอยู่บ้านหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ที่ชื่นชอบการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และผลงานศิลปะสามารถเข้าไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ผ่านหน้าจอได้อย่างใกล้ชิด พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) พิพิธภัณฑ์ที่เป็นเหมือนจุดหมายสำคัญของคนที่หลงใหลผลงานศิลปะได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์แบบ “Virtual Tour” ผ่านกล้องมุมมอง 360 องศาที่เผยให้เห็นรายละเอียดทุกส่วนภายในตัวอาคารที่รวบรวมผลงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 30,000 ชิ้น การทัวร์พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ช่วยให้เราได้ชมผลงานระดับ Masterpiece จำนวนมากแต่ที่พลาดไม่ได้คงจะเป็นภาพเขียน Mona Lisa ของศิลปิน เลโอนาร์โอ
ผ่านไปแล้วสำหรับงานรวมตัวประจำปีครั้งใหญ่ของคนรักบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง BIMMERMEET ครั้งที่ 4 โดยงานในปีนี้ยังคงจัดอย่างยิ่งใหญ่และมาพร้อมการเปิดตัวโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” เพื่อมอบประสบการณ์งานศิลปะระดับโลกให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 45 ปี “ BMW Art Cars” โปรเจกต์สุดติสท์ที่มีศิลปินชื่อก้องโลกเคยรังสรรค์ผลงานเอาไว้ถึง 19 คัน งานนี้บีเอ็มดับเบิลยูจับมือกับ 9 ศิลปินชั้นนำจากหลากหลายแขนงทั้งในและต่างประเทศมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานลงบนรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูและเปิดตัวสู่สายตาผู้คนเป็นครั้งแรกภายในงาน รวมถึงความพิเศษอีกมากมายภายในงานที่ UNLOCKMEN เก็บมาฝากทุกคน พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษจากเหล่าศิลปินที่ฝากผลงานไว้ในโปรเจกต์นี้ เมื่อเริ่มเข้าสู่งานซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพค สปีด ปาร์คบอกเลยว่าเราสัมผัสได้ถึงความน่าสนใจและความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้นทุกปีสำหรับงานรวมพลคนรักบีเอ็มดับเบิลยู BIMMERMEET#4 ที่ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “Tribute to BMW Art Cars” ฉลองครบรอบ 45 ปี BMW Art Cars ซึ่งขนเอาโมเดลเจ้าฃองงานศิลปะระดับตำนานของอาร์ตคาร์ทั้ง 19 คันมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนั้นบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยยังได้จัดโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” ขึ้นเพื่อชวนคนไทยมาสัมผัสประสบการณ์งานศิลป์ของ
ตึกเก่าบางหลังที่เคยเดินผ่าน ชั่วชีวิตนี้เราอาจไม่มีโอกาสได้เห็นข้างในของมัน เรื่องเล่าที่สูงศักดิ์ที่อ่านจากตำรา พงศาวดาร ฟัง ๆ ไปก็เหมือนมีฝ้าบางมากั้นไว้เสมอ “บางทียิ่งเป็นเรื่องพระองค์ เป็นเจ้า บางทีคนจะยิ่งรู้สึกห่าง เป็นสิ่งที่คนจะกระเถิบ แต่อยากจะให้คนเห็นว่าจริง ๆ มันมีความเป็น Humanity ในเรื่องนี้พอสมควร อยากให้ทุกคนเห็นว่าท่านแม้ว่าจะเป็นบุคคลเชิงประวัติศาสตร์ เป็นกษัตริย์ไทย ท่านก็โชว์ความรู้สึกส่วนพระองค์แล้วท่านก็มีความเป็นมนุษย์อยู่เหมือนทุกคน อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ คิดว่าทุกคนพอจะเข้าใจเพราะทุกคนเคยมีญาติ” คำอธิบายในฐานะภัณฑรักษ์และเจ้าของผลงานของท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เจ้าของนิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” เล่าเรื่องราวหลังตามรอยเส้นทางเสด็จฯ ประพาสรัชกาลที่ 5 ณ ประเทศนอร์เวย์ ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย–นอร์เวย์ในปี 2563 ซึ่งกำลังจัดแสดงอยู่ในงาน Bangkok Design Week 2020 ตรึงเราไว้ทันทีที่ได้ยิน ทำไมงานนี้ถึงเป็นงานที่มีผู้คนพูดถึงมากที่สุดในบรรดางานกว่า 500 ชิ้นที่กำลังจัดอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำไมคนถึงต้องแห่กันจองเพื่อเข้าชมงาน เหตุผลเพราะอีกแค่ 2 วันกับไม่กี่ชั่วโมง พวกคุณจะไม่ได้สัมผัส 3 สิ่งนี้ตลอดกาล ไม่ได้เห็นมุมมองของรัชกาลที่ 5