การงานแขวนอยู่บนเส้นด้าย เตรียมใครดี? 5 ผู้จัดการทีมที่ถูกโยงกับ MUFC หากโซลชาร์ถูกปลด

ดูเหมือนว่าชะตาของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคงยืดออกไปอีกเล็กน้อย หลังผลงานการเอาชนะ Tottenham Hotspur ในนัดสำคัญไปถึง 3-0 นัดวัดใจว่า Ole จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่แม้จะผ่านมาได้หนึ่งนัด ก็ยังคงอยู่ในความเสี่ยงหากมีการแพ้ต่อเนื่องเกิดขึ้นให้แฟนบอลและสโมสรต้องผิดหวังอีก

ด้วยเหตุนี้สื่อหลาย ๆ เจ้าจึงหันไปจับประเด็นเกี่ยวกับว่าใครจะมารับเผือกร้อนต่อจากกุนซือชาวนอร์เวย์ และนี่คือรายชื่อผู้จัดการทีมทั้ง 5 คนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรหามางานงานต่อจากโซลชาร์

1. อันโตนิโอ คอนเต้

กุนซือชาวอิตาเลียนผู้นี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากคอนเต้ยังคงว่างงานและมีโปรไฟล์การทำทีมที่ยอดเยี่ยม การันตีถ้วยแชมป์ลีกมามากมายทั้งจากยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และเชลซี

คอนเต้มีรูปแบบแผนการเล่นที่ชัดเจนโดยเฉพาะ 3-5-2 ที่เหมือนเป็นสูตรประจำตัวไปแล้ว นอกจากนั้นกระแสข่าวยังโหมมาทางคอนเต้ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามความน่ากังวลใจที่สุดคือเรื่องการมีปัญหากับนักเตะภายในทีม รวมถึงปัญหากับบอร์ดบริหารที่เข้ามาล่วงเกินงานของเขา แต่เรื่องดังกล่าวดูจะเป็นเรื่องเล็กไปเลยหากแลกกับการได้กลับมาเป็นแชมป์ในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แถมคอนเต้จะยังได้กลับมาร่วมงานกับปอล ป็อกบา อีกครั้ง

2. ซีเนดีน ซีดาน

ความสำเร็จกับเรอัล มาดริด โดยเฉพาะถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, บารมีของนักเตะเวิร์ลคลาสระดับตำนาน, ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกนักเตะ

ทุกสิ่งที่เหมาะเจาะและดูเพอร์เฟคที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมเจ้าตัวยังเคยร่วมงานกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และราฟาแอล วาราน มาก่อนแล้วด้วย เรียกได้ว่ามีคู่มือการใช้งานก็คงไม่ผิด

ทั้งนี้จากกระแสข่าวที่ออกมาดูเหมือนว่าซีดานจะสนใจรอคุมทีมชาติฝรั่งเศสหรือทีมแปแอสเช (PSG) มากกว่า แต่ถ้าเกิดเจ้าตัวเปลี่ยนใจและตอบรับมาคุมทีมปีศาจแดงเชื่อได้เลยว่าเกมรุกของทีมจะสนุกขึ้นทันตาเห็นอย่างแน่นอน

3. เมาริซิโอ ปอเชตติโน่

ผู้จัดการทีมชาวอาเจนตินาที่ปัจจุบันกำลังคุมทีมเปแอชเชอยู่ จุดเด่นของปอเชตติโน่คือเกมเพรสซิ่งและเกมรุก ที่มักมาพร้อมกับแผน 4-2-3-1 เขาเคยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับสเปอร์ สามารถพาทีมไปเกาะกลุ่มท็อปโฟร์ได้อย่างสง่างาม แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่เคยมีถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือกลับมาบ้างเลย

สำหรับการคุมทีมเปแอชเช เขาพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัฟของฝรั่งเศสไปเมื่อฤดูกาลก่อน และเจ้าตัวยังมีสัญญากับทีมถึงปี 2023 ดูแล้วน่าจะเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว

4.เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

แอบมีข่าวหลุดมาเหมือนกันสำหรับอดีตกุนซือหงส์แดง ลิเวอร์พูล สัญชาติไอร์แลนด์เหนือ ที่ปัจจุบันกำลังคุมทัพจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ ซึ่งเป็นทีมที่เพิ่งตบปีศาจหัวทิ่มมาในสกอร์ 4-2 (เกมก่อนแพ้ลิเวอร์พูลคาบ้าน)

สไตล์การทำทีมถือว่าน่าสนใจเพราะเขามักจะให้ลูกทีมเน้นครองบอล, ต่อบอลกันด้วยความแม่นยำ, มีเกมรุกที่ต้องคอยเคลื่อนที่ลูกฟุตบอลตลอดเวลา แถมยังไล่บีบเพรสซิ่งใส่คู่แข่งทันทีที่เสียบอล แม้ร็อดเจอร์สจะยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยพรีเมียร์ลีก อาจจะด้วยเพราะยังไม่มีโอกาสได้คุมทีมใหญ่ที่มีงบให้ชอปได้เต็มที่ บางทีหากเขาเลือกไปคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์ มันก็น่าลองจินตนาการเหมือนกันว่าเขาจะพาทีมไปได้ไกลขนาดไหน แต่หากเลือกมาจริงเตรียมโดนเหล่าเดอะ ค็อป สาปแข่งกันได้เลย

5. เอริก เตน ฮาก

จาก 4 คนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า ฮาก จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงน้อยที่สุด ผู้จัดการทีมชาวดัตช์คนนี้กำลังเนื้อหอมแบบสุด ๆ จากผลงานพาทีมอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ได้แก่ลีกสูงสุดและฟุตบอลถ้วยของเนเธอร์แลนด์ในฤดูกาล 2018-2019 และ 2020-2021 ส่วนในฤดูกาลล่าสุดทีมของเขายังคงอยู่อันดับ 1 ของตาราง ทิ้งห่างอันดับสองอย่างพีเอสวีอยู่ 4 คะแนนด้วยกัน ตั้งแต่รับคุมทีมอาแจกซ์เมื่อปี 2017 เขาส่งลูกทีมลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 181 นัด ชนะได้ถึง 133 นัด, เสมอ 23 นัด และแพ้เพียง 25 นัดเท่านั้น ทำสถิติชัยชนะสูงถึง 73.48%

แม้ว่าชื่อเสียงจะน้อย แต่ผลงานไม่ใช่เล่น ๆ เลย การมาคุมทีมใหญ่ก็ยังคงต้องเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันอีกทีเพราะความกดดันและความคาดหวังแตกต่างกันอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ ๆ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางผู้ถูกลืม ซึ่งเป็นอดีตลูกทีมของฮาก ก็มีโอกาสได้กลับมาเฉิดฉายอย่างแน่นอน

แต่ละคนก็ต่างมีสไตล์การคุมทีมที่แตกต่างกัน และแน่นอนสิ่งเหล่านี้ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงในการล้มเหลวด้วยเช่นกัน แต่ที่แน่นอนกว่าผู้จัดการทีมคนใหม่จะเข้ามาได้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องถูกปลดก่อนเท่านั้น