แค่ตื่นไปทำงานทันมันไม่พอ ส่อง 6 กิจกรรมที่คนประสบความสำเร็จทำเพิ่มทุกวันก่อนตอกบัตร

เคยไหม เวลาที่พวกเราเห็นคนเจ๋ง ๆ เฉียบ ๆ ในฟีดโซเชียลทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าตามคลิปวิดีโอ แล้วเราเกิดความสงสัย ตั้งคำถามว่า “เฮ้ย! คนพวกนี้วัน ๆ เขาทำอะไรกันวะ?” แต่แล้วเราก็ปล่อยให้ความสงสัยเลยผ่านไปโดยไม่ได้ไปค้นหาคำตอบ ทว่าพอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใหม่ คำถามนี้มันก็วนกลับมาซ้ำอีกหน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เดจาวูมันเกิดแบบไม่รู้จบโดยไม่มีคำตอบ UNLOCKMEN ได้ไปเสาะหาข้อมูลมาคลายข้อสงสัยแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เรารู้คือทั้งคุณ เรา และ “พวกเขา” บรรดาเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายต่างมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้นามสกุลห้อยท้ายด้วยคำว่า “ประสบความสำเร็จ” มันเกิดจากการบริหารเวลาที่ไม่เหมือนกัน หนนี้เราขอโฟกัสเสี้ยวหนึ่งของเวลาที่พวกเรามองข้ามอย่างเวลาช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ว่าพวกเขาจัดการมันอย่างไร ขณะที่ผู้ชายอย่างเราแค่จะแคะตัวเองออกมาจากเตียงก็ยากเย็นเหลือเกินแล้ว

กินอาหารเช้า

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งหมด แต่ทุกวันนี้หลายคนก็ยังคงพูดว่าไม่มีเวลากินข้าวและประทังสมองที่ต้องใช้ทั้งวันด้วยกาแฟเพียงแก้วเดียว ย้อนดูกันให้ดีนักธุรกิจหรือครีเอทีฟคนดังที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง เขายังสามารถนั่งกินเข้าเช้าหรือหาข้าวเช้ากินกันได้ตลอด ดังนั้น ถ้าเราอยาก productive เหนือคนอื่นแบบเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จก่อนตอกบัตรอย่าลืมหาข้าวกินกันด้วยล่ะ หรือถ้าบริษัทไหนใจดีให้กินได้ในเวลางาน จะเตรียมมาจากบ้านแล้วสลับมาตอกบัตรก่อนเปิดกล่องข้าวกินที่โต๊ะช่วงเช้าก็ได้ไม่ว่ากัน

ขยับกายเพื่อออกกำลังใจและสมอง

เพื่อสร้างพลังให้กับวันทั้งวัน ตอนเช้าพวกเขาจะลุกขึ้นมาดูแลความรู้สึกทั้งกายและใจของตัวเองให้มีพลังก่อนไปทำอย่างอื่น หลายคนที่ประสบความสำเร็จเลยเลือกที่จะออกกำลังกายมันตั้งแต่ตอนเช้า พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น หรือขี่จักรยานโฉบไปมาสักหน่อย ซึ่งพวกเขาไม่ได้แค่ทำมันเอาเท่หรือเรียกเหงื่อแบบบ้าพลังเฉย ๆ แต่ทำเอาฉลาดด้วย! ซึ่งเรื่องนี้ออกมายืนยันแล้วว่าจริงไม่มีมั่วเพราะผลวิจัยของ Department of Exercise Science at the University of Georgia ว่าแค่ 20 นาทีก็ให้ผลลัพธ์เหลือเชื่อ เนื่องจากเมื่อเราออกกำลังกายอัตราการเต้นหัวใจของเราจะเพิ่มขึ้น การปั๊มออกซิเจนขึ้นสู่สมองจะมีมากขึ้นไปพร้อมกัน ปฏิกิริยาพวกนี้จึงเพิ่มประสิทธิภาพความจำ และกระตุ้นการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน ใครที่เคยออกกำลังกายหลังเลิกงานลองเปลี่ยนมาตื่นเช้าหน่อยแล้วทดสอบกันดู ความคิดตื้อตันทุกเช้าวันทำงานอาจจะแก้ได้

เตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นให้ครบครัน

พวกเราเคยเห็นคนประสบความสำเร็จทำของหาย หรือดูกังวลกันบ้างไหม? ภาพลักษณ์ที่เนี้ยบตลอดเวลาของเขามันมีที่มากันทั้งนั้น โลกแห่งความเป็นจริงมันไม่มีใครจะเพอร์เฟกต์ไปทุกอย่างแต่เขาฝึกฝนและปรับเวลาเพื่อสร้างความเพอร์เฟกต์ได้จากการตื่นเช้าขึ้นอีกนิดแล้วลุกขึ้นมาเตรียมข้าวของที่จะต้องใช้งาน ดูแลกิจกรรมอื่นนอกเหนืองานที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารสัตว์เลี้ยง ซักแห้งเสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งทำให้ดีกับงานแน่นอนเพราะเวลาที่เหลือหลังจากตอกบัตรเข้างานทุกวินาทีเขาจะโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไม่ต้องกังวล

ชนกับสิ่งที่ยากที่สุดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตายเป็นวลีที่ใช้ได้ผลกับผู้ชายแทบทุกคน ทำให้บางครั้งเราทิ้งงานไปหานม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าดันเรื่องยากออกจากตัวไปทำเรื่องง่ายที่สนุกสนานกว่า แม้การผ่อนคลายความตึงเครียดให้ตัวเองบ้างมันไม่ผิด แต่พี่ ๆ ที่พวกเรายกย่องนับถือให้เป็นไอดอลเขามักสวนกระแสไปทำของยากก่อนเสมอ และทำมันซ้ำ ๆ จนกว่าจะสำเร็จ ดังนั้นเช้าก่อนตอกบัตรอย่าเอาปัด to do list ยาก ๆ ไว้ท้ายรายการ เอามันขึ้นมาทำก่อนเลยเพราะถ้าเคลียร์มันไปได้ทุกอย่างก็ง่าย เข้าข่ายการได้รางวัลทางใจไว้กระตุ้นให้มีแรงใจทำอย่างอื่น ความเครียดที่หนักอึ้งเพราะงานไม่เสร็จจะได้เบาบางลงด้วย เข้าทำนอง “ตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ ถึงพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว”

ใส่ INPUT ทุกช่องทางให้เป็นคน “ตื่นรู้”

คนประสบความสำเร็จคือผู้ตื่นรู้ แต่คำว่าตื่นรู้มันอาจจะไม่ใช่คำที่ใช้ตามศัพท์แสงทางศาสนาเพียงอย่างเดียว หากหมายถึงตื่นมาแล้วต้องหาทางรับความรู้เข้าไปเพิ่มเลย ยิ่งทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารไวติดจรวด เราจะนอนปิดหูปิดตาไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่รับอะไรเลยจนกว่าจะถึงเวลาทำงานไม่ได้ จงใช้เวลาที่มีทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด นี่มันเคล็ดลับที่ทำให้คนเก่งเขารอบรู้ เป็นคนกว้างขวาง ชาว UNLOCKMEN อย่าพลาดทำตามล่ะ

ตั้ง GOAL รายวันและทำตัวเป็นผู้รักษาประตูมือกาว

จะล้มสักกี่ครั้งก็ไม่มีผลหากเรายังมุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายเสมอไม่หลงทาง ก่อนตั้งหลักเข้าทำงานทุกเช้าคนประสบความสำเร็จเขามักคิดกันก่อนว่าเขาอยากได้อะไร จะทำอะไร เพื่ออะไร จะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติภารกิจในวันนั้นแบบตรงดิ่ง และสุดท้ายหลังจากแผนแน่นดีเขาจะทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ให้ตรงตามแผน ถ้าเทียบ GOAL เป็นเป้าหมาย คนที่ตั้ง GOAL ก็ต้องทำหน้าที่เป็น GOAL (ผู้รักษาประตู) ที่ดีด้วย จะได้สมหวัง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากิจวัตรเหล่านี้มันจะดีแค่ไหนพวกเราก็ต้องรู้จักตัวเองด้วย ถ้าดูท่าทางแล้วเรายังทำพร้อมกันให้ครบทั้ง 6 อย่างไม่ได้ ก็ให้เลือกสักอย่างสองอย่างที่คิดว่าทำได้แน่นอนไปลงมือทำไปให้ชินในเช้าวันพรุ่งนี้ จากนั้นพอเริ่มเข้าที่เข้าทางค่อยเพิ่มกิจกรรมที่เหลือเข้าไปจนครบ แม้ใช้เวลาแต่ยังไงก็คงไม่สายเกินไปแน่นอน

SOURCE: 1  / 2