ฝืนใจไปก็เจ็บตัวฟรี การ ‘ยอมรับและช่างแม่ง’ เป็นอีกวิธีที่ดีเพื่อชีวิตที่แฮปปี้กว่า

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าทุกคนคงเจอทั้งเรื่องราวดี ๆ ที่น่าจดจำ และเรื่องราวร้าย ๆ อันแสนเจ็บปวดกันมาอย่างโชกโชน แต่ชีวิตคนเรานั้น ไม่ได้มีอะไรที่คงอยู่ตลอดไป มีขึ้นก็ต้องมีลง มีชนะ มีพ่ายแพ้ นี่แหละคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเป็นแบบทดสอบใจของคน

สำหรับบางคน ปีที่ผ่านมาอาจจะเป็นปีชงที่โคตรจะเฮงซวย ทำอะไรก็ไม่เป็นอย่างที่หวังไปซะหมด แต่ถ้าหากคุณลองทบทวนดูดี ๆ อีกที เรื่องราวตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้ จะช่วยสอนให้คุณได้เรียนรู้ว่า อะไรที่คุณควรจะทำต่อไป และอะไรที่คุณควรจะทิ้งมันไว้เป็นอดีต และจำมันมาเป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต

ดังนั้น วันนี้เราจึงได้นำเอาวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนำไปใช้เริ่มต้นปีใหม่ เพื่อให้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาฝากกัน กับ 6 สิ่งในชีวิตที่บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องฝืน แต่ควรจะช่างแม่ง และปล่อยวาง รับรองได้เลยว่า คุณจะมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน

1. ช่างแม่งกับบุคคลมลพิษ

มันอาจจะฟังดูน่าตลก แต่มันเป็นเรื่องจริงที่คนเรามักพยายามเอาชนะใจคนอื่น แม้แต่กับคนที่เรารู้อยู่เต็มอกว่า แม่งไม่ได้ทำดีอะไรกับเราเลย  Toxic People หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ‘บุคคลมลพิษ’ กับเรานี้ อาจจะได้ทั้ง เพื่อน ญาติ คนในครอบครัว หรือใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาชีวิต แต่ที่รู้ก็คือว่า คนเหล่านั้นไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย แถมยังคอยขัดแข้งขัดขาตลอดเวลา ทั้งด้วยวาจา หรือการกระทำ เราแนะนำว่ากับคนเหล่านี้แหละ ที่คุณไม่ควรฝืนทำดีด้วยให้เสียเวลา อย่าไปโฟกัสหรือใส่ใจ รับรองว่าชีวิตคุณจะง่าย และมีความสุขขึ้นอีกเป็นกองเลยทีเดียว

 2. ช่างแม่งไม่ต้องเอาใจทุกคนบนโลก

คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นที่รักของทุกคนบนโลก บางครั้งการทำตัวเป็นคนที่แสนดี ปรับตัวตามทุกความคิดเห็นของคนอื่น มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับใครบางคนสักเท่าไหร่ เพราะคุณไม่มีวันจะ perfect 100% อยู่แล้ว มันจะมีคนที่คอยจ้องจับผิดคุณ แม้กระทั่งเรื่องยิบย่อย คอยทักคุณในเรื่องลบ ๆ  เสื้อคุณหลวมไปไหม รองเท้าคุณดูใหม่เว่อร์เกินไปรึเปล่า ฟันคุณขาวจนดูแปลกตา หรือกางเกงทรงนี้มันตกยุคไปแล้ว

ช่างแม่งไปเถอะ อย่าไปพยายามฝืนให้ทุกคนชื่นชมทุกสิ่งอย่างในตัวคุณเลย ไม่ต้องไปกังวลกับอะไรพวกนั้นให้มาก ใส่ใจกับสิ่งที่คุณเป็น ทำทุกอย่างในแบบที่คุณมั่นใจจะทำ เพราะถ้าคุณชอบในสิ่งที่คุณเป็น แต่คนอื่นนั้นไม่ชอบ ชัดเลยว่าคนพวกนั้นไม่คู่ควรให้คุณจะต้องมาใส่ใจหรือกังวลให้เสียเวลา

3. อะไรควบคุมไม่ได้ก็รู้จักช่างแม่ง

อะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในชีวิตของคน ไม่ว่าคุณจะวางแผนการณ์อะไรเอาไว้ล่วงหน้าหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าโชคชะตาบางครั้งมักจะมีอะไรมาเล่นตลกร้ายกับเราอยู่ดี เหมือนปั่นจักรยานอยู่ดี ๆ ก็มีกระดูกไก่กระเด็นเข้ามาในซี่ล้อ ทำให้รถล้มอย่างโคตรซวยแบบไม่รู้จะโทษอะไรดี แต่คุณต้องรู้จักที่จะปล่อยวางและช่างแม่ง เพราะคนเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้ 100%

ดังนั้นการฝืนพยายามเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ควบคุมทุกสถานการณ์ นอกจากมันจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ยังทำให้คุณยิ่งกดดันกับชีวิตเปล่า ๆ บางครั้งแค่วางแผนหลวม ๆ แล้วปล่อยให้มันเป็นไปในแบบของมัน คุณก็จะไปต่อได้ง่ายขึ้น แถมอาจจะเป็นคนใจเย็น ดูหล่อ สปอร์ต ใจดี มีฐานะ น่าค้นหาขึ้น แทนที่จะดูเป็นมนุษย์เผด็จการ บ้าการควบคุมในทุกสถานการณ์

4. ใครทำให้เจ็บปวดก็ลองช่างแม่งดูบ้าง

เราควรปล่อยวางความแค้นในชีวิตทิ้งไปซะ ต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อนว่าการปล่อยวางความแค้น ไม่ได้หมายถึงการไม่แคร์การกระทำที่ทำให้เราต้องเจ็บปวด ที่เราหมายถึง คืออย่าไปจมหรือคิดมากจนนอนไม่หลับไปกับผู้คนที่ทำร้ายหรือหักหลังคุณ ลองเขียนเล่าเรื่องห่วยแตก พวกนั้นลงบนกระดาษ เขียนชื่อพวกมันเอาไว้ แล้วขีดฆ่ากามันทิ้งไป ฉีกมันเป็นชิ้น ๆ หรือจุดไฟเผา เหมือนใน MV สายดาร์คที่เราเห็นในทีวี จากนั้นก็ช่างแม่ง และก็ใช้ชีวิตของคุณต่อไป

ถ้าโลกนี้มันพาให้คุณต้องพบเจอกับเรื่องพวกนี้หรือคนพวกนี้อีกจนเกินจะทน คราวนี้อยากจะแก้แค้นบ้างก็อาจจะเอาซะหน่อยพอเป็นพิธี คือที่ว่ามานี่ไม่ได้จะบอกให้ยกโทษให้อภัยใคร ๆ ที่ทำร้ายคุณไปซะหมดนะ ก็ขนาดพระยังทำไม่ได้ แต่มันเกี่ยวกับตัวคุณเองมากกว่า ที่จะไม่ปล่อยให้ความเจ็บปวดจากคนพวกนั้น มาทำให้คุณมัวจมอยู่กับความคิดลบ ๆ เพราะความแค้นก็เหมือนก้อนหินที่มันทั้งหนักและไร้ค่าที่คุณฝืนแบกไว้ตลอดเวลา โยนมันทิ้งไว้ข้างทางดีกว่า รับรองว่าคุณจะใช้ชีวิตต่อไปแบบเบาสบายทีเดียว 

5. ผิดพลาดก็แก้ไข ไม่จำเป็นต้องแก้ตัว

อะไรที่มันผิดก็คือผิด อะไรที่มันดี หรือไม่ดี เมื่อเราได้ลงมือทำลงไปแล้ว ผลของมันก็จะออกมาเป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะแก้ตัว หรือมีเหตุผลใด ๆ อธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นหมื่นพันแสนล้านคำ ก็ไม่ช่วยอะไร คุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกต้องเสมอ ดังนั้น ข้อแก้ตัวในบางกรณีอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่ผิดได้ แต่ไม่ได้ทำให้คุณสบายใจหรือมีความสุขมากขึ้นเลย

ทางที่ดีคุณควรที่จะยอมรับในความผิดพลาด หรือสิ่งที่คุณเคยกระทำเอาไว้ อย่างเข้าใจ กล่าวขอโทษ และจดจำไว้แก้ไขในวันข้างหน้าจะดีกว่า เพราะผิดก็คือผิดอยู่วันยันค่ำจะฝืนแก้ไขด้วยคำแก้ตัวกี่ล้านคำก็คงไม่ช่วยอะไร สุภาษิตไทยยังบอกเอาไว้เลยว่า ‘คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว’ เพราะฉะนั้นถ้าทำผิดจงเลือกที่จะแก้ไขและทำให้มันดีขึ้นดีกว่า

6. นินทาลับหลัง เป็นการกระทำที่โคตรไม่แมน

สิ่งที่ไร้สาระและเสียเวลาที่สุดก็คือ ‘การนินทา พูดจาระบายความในใจที่มีต่อคน ๆ หนึ่ง ให้คนอื่นฟัง’ ในขณะที่ตัวบุคคลนั้นไม่ได้รับรู้อะไรไปกับคุณด้วยเลย การ Gossip นอกจากจะสร้างแต่แรงดึงดูดผู้คนที่มีทัศนวิสัยทางลบให้เข้ามาหาคุณแล้ว เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องนินทามันจะยิ่งกระจายไปไวกว่าไฟไหม้ป่าซะอีก มันยิ่งทำให้คุณยิ่งดูแย่ไปใหญ่

แทนที่คุณจะเอาเวลาไปพัฒนาหาความสุขให้ตัวคุณเอง แต่กลับเสียเวลาไปกับการนินทาใครสักคนลับหลัง สู้ช่างแม่งแล้วเดินไปแมน ๆ คุยกันต่อหน้า บอกไปเลยว่า อะไรที่คุณคิดว่ามันไม่ดี ควรแก้ไขยังมีประโยชน์และจริงใจมากกว่า ยิ่งถ้าคนที่คุณได้ไปพูดคุยกันต่อหน้า นำไปปรับปรุงแก้ไขตามที่คุณบอกด้วยล่ะก็ จากคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันอาจจะกลายเป็นเพื่อนสนิทและดีที่สุดอย่างที่คุณคิดไม่ถึงก็เป็นได้

และทั้งหมดนี้ก็คือ 6 สิ่งที่เราหวังว่าคุณจะเลิกฝืนทำ และรู้จักช่างแม่งให้กับเรื่องพวกนี้ซะ เพราะ 6 สิ่งที่กล่าวมาล้วนแต่เป็นสิ่งที่เรามองว่า ‘มันไม่มีประโยชน์อะไรกับชีวิตของเราเลย’ นอกจากจะเพิ่มความวุ่นวาย ไม่สบายใจ และทำให้จิตใจของเราตกต่ำลงไปเปล่า ๆ

พวกเรา UNLOCKMEN ขอให้ทุกคนที่รู้สึกว่าปีที่ผ่านมานั้นดีอยู่แล้ว ดียิ่งขึ้นไปอีก ส่วนคนที่รู้สึกว่าปีที่ผ่านมามันแย่จนแทบจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ไหว เราเชื่อว่าปีหน้าที่จะถึงนี้ ชีวิตคุณต้องมีอะไรดี ๆ รออยู่อีกเพียบอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่างเพิ่งท้อ พวกเรามา ช่างแม่ง แล้วลุยกันใหม่ในปีต่อ ๆ ไปกันดีกว่าครับ

Reference: SOURCE