อัพกันหรือยัง? 8 ฟีเจอร์ดี ๆ ของ iOS 11 ที่จะช่วยเพิ่มพลังให้เครื่องโปรดของคุณ

หลังจากที่ Apple ปล่อยให้ดาวน์โหลดและอัพเดทตัว iOS11 ไปสด ๆ ร้อน ๆ คงมีอีกหลายคนที่ยังลังเลใจว่าจะอัพดีเปล่า ถ้ามันช้าและเน่าจะทำยังไงดี เพราะอัพเดทแล้ว ถอยหลังกลับไปใช้อันเดิมก็คงไม่ได้ หลายคนจึงยังอยู่ในช่วงตัดสินใจกันอยู่ หรือใครที่อัพไปแล้ว ยังไม่รู้ว่ามีอะไรเด็ดใหม่ น่าสนใจบ้าง เพราะเค้าให้อัพ ก็อัพ ๆ ตามกันไป เห็นแต่หน้าตาใหม่เท่านั้น

UNLOCKMEN จะมาขยายความ 8 ฟีเจอร์ยิบย่อยของ iOS 11 ที่ถูกปรับปรุงให้เพิ่มพลังมากขึ้นกว่าเก่าซะน่าใช้เลย แต่ว่ามีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน

App Store ใหม่ไฉไลกว่าเดิม

หลังจากคงรูปโฉมแบบเดิมมาหลาย iOS ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงเวลาพลิกโฉม App Store ใหม่สักที โดยครั้งนี้แอปเปิ้ลได้ออกแบบใหม่แทบจะทั้งหมด เน้นความคลีนดูสะอาดตา และข้อความต่าง ๆ โดดเด่นเห็นชัด นอกจากนี้ยังเพิ่มแท็บ “วันนี้” ที่เน้นมัดรวมแอปพลิเคชั่นเด่น ๆ เจ๋ง ๆ ออกมาแยกต่างหาก คัดมาให้โดยเฉพาะ เพื่อให้เราสามารถค้นหาและได้รับคำแนะนำที่เหมาะผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น ลองเปิดกันดูซะ

Live Photos ดีและทำอะไรได้มากขึ้น

ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วกับฟีเจอร์ Live Photos ของ Apple ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งแต่ขยับดุ๊กดิ๊กได้เหมือนวิดีโอเพียงแค่ 2-3วินาที

ก่อนหน้านี้เราจะยังสับสนกันว่ามีไว้ทำไม ทำไมไม่ถ่ายวิดีโอละ หรือเอาไปลงบน facebook ที่มีสำหรับ Live Photos ก็ต้องกดค้างเล่นให้วุ่นวาย ตอนนี้ Apple มีตัว Edit ภายใน ให้เราสามารถทำ Live Photo ออกมาเป็นรูป GIF ไปมาได้ตามที่เราต้องการ (ไม่ต้องโหลดแอปฯ เพิ่ม) และแชร์ออกไปใช้งานได้ทันทีอีกด้วย

รูปและวิดีโอเก็บได้ X2

ก่อนหน้านี้สำหรับชาว 16 gb หรือใครที่มีรูปภาพจำนวนมากจนทำให้ไม่เหลือพื้นที่ใช้งานอย่างอื่น ตอนนี้ดีใจกันได้แล้ว เพราะว่า iOS 11 ถูกปรับปรุงให้เราสามารถจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า

เนื่องจาก Apple ได้ปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมในการบีบอัดบน iOS ไปเก็บไว้บน iCloud แค่เพียงเราไปตั้งค่าที่ Setting -> “Optimize iPhone Store”

iMessage สนุกขึ้นเยอะ

บ้านเราอาจไม่อินกันสักเท่าไหร่กับการใช้ iMessage ในการส่งข้อความ เพราะว่าไม่ได้มีสติกเกอร์น่ารักน่าสนใจแบบใน Line และยังเจาะกลุ่มเฉพาะคนที่ใช้ Apple เท่านั้นอีกด้วย

โดย iMessage เวอร์ชั่น iOS 11 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งในด้านการออกแบบและด้านฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ เพราะว่าสามารถเพิ่มสติกเกอร์และส่ง Gif หากันได้ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดแถบ App ดึงการทำงานมาใช้และส่งให้กับคู่สนทนาอีกด้วย อย่างเช่นเราไปเล่นแอปฯ วาดภาพก็สามารถส่งภาพที่วาดให้ได้เลยทันที รับลองว่าสนุกน่าสนใจขึ้นเยอะ ลองกันซะนะครับ

Notification ไม่มีพลาดอีกต่อไป

จากเดิมเราจะเห็นว่า Notification จะมีเฉพาะพวกแอปฯ ต่าง ๆ ที่เราตั้งไว้ โดยจะสามารถดูได้โดยดึงลงจากด้านบนของหน้าจอ และแยกเป็นแท็บ ๆ แต่ตอนนี้ iOS 11 ได้หมดรวมทุก Notifacation เอาไว้ในที่เดียวไม่มีแท็บแยกต่างหากอีกต่อไป เพื่อให้เราสามารถดูทุกอย่างได้พร้อม ๆ กัน และดีกว่าแบบเก่าที่แยกเป็นหน้าจอแยกต่างหากแน่นอน

Control Center ดีไซน์ใหม่ การทำงานใหม่

เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือแถบ Control Center ที่ถูกออกแบบใหม่ซะหมด โดยยังคงประโยชน์ ฟังก์ชั่นลัด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ที่สุด ตั้งแต่ตัว iOS 7 มาจนปัจจุบัน และตอนนี้สามารถเลือกใส่ฟังก์ชั่นได้ตามต้องการได้เพียบ! ตั้งแต่การเพิ่มลดแสง, โหมดกลางคืน, ไฟฉาย, กล้อง ฯลฯ แค่เพียงคลิกเดียว และถ้าต้องการลดเสียงหรือลดแสงก็แค่ลากดึงตามที่ต้องการ

คุณสมบัติใหม่ที่อาจช่วยชีวิตเราได้

หลายคนอ่านแล้วอาจแปลกใจกันสักหน่อยว่าคืออะไร เนื่องจาก Apple ได้เพิ่มคุณสมบัติสุดฉลาดที่เรียกว่าโหมด “Do Not Disturb” เพื่อให้ไม่รบกวนคุณขณะอยู่ในรถ และซ่อนการแจ้งเตือนทุก Notification ไปจนถึงข้อความทั่วไปในขณะที่เราขับรถอยู่ แล้วโหมดนี้ยังแจ้งเตือนไปให้คนอื่นทราบอีกด้วยว่าเราขับรถอยู่และจะติดต่อกลับภายหลัง

Apple Maps ใช้ในอาคารได้แล้ว

แม้ส่วนใหญ่ในบ้านยังเน้นการใช้งานไปที่ Google Maps ซะมากกว่า แต่ตอนนี้เราขอแนะนำว่าให้ลองใช้ Apple Maps กันดูซะหน่อย เพราะว่าตอนนี้ได้ปรับปรุง พลิกความสามารถคือการเพิ่มแผนที่ในอาคาร เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้าทั่วโลกกว่าร้อยแห่ง เพื่อให้เราไม่เดินหลงและตามหาร้านค้าหรือสิ่งที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น

นอกจากนี้ Apple Maps ยังมีคำแนะนำในการเดินทางในแต่ละรูปแบบ ไปจนถึงการเลี้ยวทิศทางที่ถูกต้องได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เรียกว่าเป็น 8 ฟีเจอร์ที่ถูกปรับปรุงใหม่จากเดิมไปเยอะพอสมควรก็ว่าได้ แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของ iOS 11 ที่ปล่อยออกมาให้อัพเดทกัน โดยตอนนี้ก็มีเวอร์ชั่น 11.0.1 ออกมาแก้ไขปัญหา บัคของตัว iOS 11 บ้างแล้ว แต่จะเจ๋งและถูกใจคนใช้ขนาดไหน อย่าฟังเสียงคนอื่นเลยครับ ลองไปใช้กันเองดูดีกว่า

Source