ผลวิจัยเผย มิตรภาพลูกผู้ชายตายแทนกันได้ มั่นคงยืนยงกว่าความสัมพันธ์แบบชาย-หญิง

หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของมิตรภาพลูกผู้ชายที่แบ่งออกได้หลายประเภทมาก ๆ ทั้งเคยไม่ถูกกัน เคยต่อยตีกัน แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นเพื่อนตายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันโดยไม่รู้ตัว หรือผู้ชายที่สนิทกันเพียงเพราะความเมาในคืนก่อนหน้า ขับรถรุ่นเดียวกัน หรือเชียร์บอลทีมเดียวกัน ทั้งหมดทำให้เกิดการสร้างมิตรภาพแบบลูกผู้ชายที่ยากจะแตกหัก ถึงขนาดงานวิจัยยังบอกว่า ความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายยั่งยืนกว่าความสัมพันธ์แบบชาย-หญิง

งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ถูกเขียนไว้บน Men and Masculinities เกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายที่เรียกว่า Bromance ซึ่งคำ ๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1990 จากการนำคำว่า Brother รวมกับ Romance กลายเป็น Bromance หมายถึง มิตรภาพในแบบผู้ชาย

Sabine Szekely

แนวคิดเรื่อง Bromance มีขอบเขตที่กว้างมากตั้งแต่เพื่อนรักไปจนถึงคู่รัก แต่ในที่นี้ UNLOCKMEN จะขอพูดถึง Bromance ในรูปแบบเพื่อนสนิทมิตรสหาย ทีมวิจัยจาก University of Winchester in England ได้ศึกษาว่าทำไมความสนิทของผู้ชายถึงอยู่ได้นานกว่าความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาว คำตอบที่ได้นั้นมีความน่าสนใจไม่น้อย เกือบทั้งหมดตอบว่า Bromance คือความสัมพันธ์ที่มีความเชื่อใจและไว้วางใจกันเหมือนกันพี่น้อง ในระดับที่จะยอมบอกความลับบางอย่างให้ฟังได้ เพราะความสบายใจจึงทำให้สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ  ปรึกษากันได้ดีกว่าความสัมพันธ์แบบคู่รักระหว่างชาย-หญิง

ในด้านสุขภาพ การมีเพื่อนสนิทของผู้ชายนั้นยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยคลายความเครียด เติมเต็ม Self-Esteem สร้างความรู้สึกมั่นใจในการเข้าสังคมมากขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ชายด้วยกันจะเข้าใจกัน รู้ถึงตัวตนและสิ่งที่เป็น ในจำนวนนักศึกษาที่ทางทีมวิจัยได้ไปสัมภาษณ์กล่าวว่า เพื่อนผู้ชายจะตัดสินเขาน้อยกว่าบรรดาเหล่าแฟนสาว

“ถ้าผมบอกว่าชอบฟังเพลง Britney Spears แฟนผมจะล้อผม และคิดว่าผมควรจะชอบฟังอะไรที่มันแมน ๆ กว่านี้ หรือวันไหนผมอยากแต่งตัวแบบนี้ แต่แฟนผมกลับบอกว่าไม่ดี ให้แต่งตัวแบบนั้น พาลเสียอารมณ์และไม่มั่นใจไปเลย”

และกลุ่มตัวอย่างยังบอกอีกว่าการแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กไร้สาระไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างเช่น หากวันหนึ่งเขาพบก้อนเนื้อในลูกอัณฑะ เขาก็จะเลือกบอกเพื่อนผู้ชายก่อนที่จะบอกแฟนสาวเมื่อต้องการความสบายใจและคำปรึกษา ซึ่งเรามักจะเชื่อคำแนะนำของเพื่อนผู้ชายมากกว่า หรือเมื่อมีความขัดแย้งกัน ความสัมพันธ์แบบ Bromance นั้นจะถูกแก้ไขได้เร็วกว่าชายหญิงทะเลาะกัน เพราะการเอ่ยปากขอโทษระหว่างเพื่อนผู้ชายทำได้ง่ายและรู้สึกดีกว่าการง้อแฟนสาวนั่นเอง

Sabine Szekely

ซึ่งข้อสรุปที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับมิตรภาพแบบลูกผู้ชายคือ พวกเขาพึงพอใจในความสัมพันธ์แบบ Bromance มากกว่าความสัมพันธ์แบบชาย-หญิง เพราะพวกเขารู้สึกสบายใจกว่าเมื่ออยู่กับเพื่อน สามารถไปเที่ยวด้วยกัน ทำสิ่งที่ชอบร่วมกันอย่างเช่นการเชียร์กีฬาทีมโปรด แต่งรถ ซึ่งทีมวิจัยยังกล่าวว่า ผู้ชายอาจจะได้ประโยชน์มากกว่าในระยะยาวจากความสัมพันธ์แบบ Bromance อย่างเช่นการพัฒนาไปสู่การทำธุรกิจ หรือช่วยเหลือในด้าน Connection ที่อีกฝ่ายมองหาได้ ในขณะที่ความสัมพันธ์กับแฟนนั้นมักจะมีเงื่อนไขหรือเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถพูดหรือเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ 100%

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์แบบ Bromance ที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์ของแฟนสาว เช่น ผู้ชายบางคนที่มีแฟนแล้ว แต่มีความคิดว่า “เพื่อนต้องมาก่อนแฟน” อาจทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวได้ ผลที่ตามมาคือ Bromance จะเข้ามารบกวนความสัมพันธ์ของคู่รักจนถึงขั้นแตกหักเกลียดกันไปเลยก็มีให้เห็นมามากมาย

สุดท้ายไม่ว่าจะ Bromance หรือ Romance ต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเราว่าจะให้ความสำคัญอย่างไร แต่บอกเลยว่าการประคับประคองความสัมพันธ์ทั้งเพื่อนและแฟนให้ไปด้วยกันอย่างราบรื่นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป ขอแค่บริหารเวลาและหน้าที่ของตัวเองได้ รับรองว่าแฟนก็แฮปปี้ เพื่อนก็ดีใจ Win-Win อยู่ด้วยกันได้อย่างปรองดองทั้งสองสถาบัน

SOURCE1 SOURCE2