อยู่ดี ๆ ก็หายไลน์ไม่ตอบ ทำอย่างไรดีเมื่อคนสนิทหายหน้าไปแบบไม่บอกกล่าว

“คุยกันอย่างเมามันส์มาตลอด วันหนึ่งเพื่อนคนนี้ก็ไม่ตอบกลับอีกเลย “

“โดนบล็อกไลน์แบบไม่รู้สาเหตุ”

ฯลฯ

หลายคนน่าจะเคยเจอกับเหตุการณ์นี้ และคงงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น  จะถามหาสาเหตุเขาก็หายไปแล้ว จะถามหาสาเหตุเขาก็บล็อกเราไปแล้ว เราเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เพราะเราก็เคยโดนมาเหมือนกัน และอยากช่วยทุกคนให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี จึงได้นำวิธีการรับมือกับการถูกเทแบบไม่รู้สาเหตุมาฝากทุกคนกัน

รู้จัก Ghosting การเทแบบไม่มีการบอกกล่าว

ถ้าอยู่ดี ๆ คนที่เราคุยด้วยเป็นปกติหายหน้าหายตาไป แบบไม่มีการบอกกล่าว และไม่มีการตอบโต้กับเราอีกเลย เรามักเรียกกันว่าเป็นการหายไปเหมือนผี หรือ Ghosting ซึ่งหมายถึง การออกจากความสัมพันธ์ไปแบบไม่มีการบอกกล่าว เช่น การอ่านแชทแล้วไม่ตอบอีกเลย หรือ การปิดการสื่อสารทุกช่องทางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตามตัวได้ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุที่คน Ghosting เกิดขึ้นได้เมื่อฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแล้ว และยังเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้อีกฝ่ายเข้าใจด้วย จึงเลือกใช้วิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีการตัดความสัมพันธ์ที่ง่ายและรวดเร็ว

แม้การหายไปเหมือนผี อาจช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงบทสนทนาที่น่าอึดอัดกับอีกฝ่ายได้ แถมไม่ต้องมานั่งแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายต่อไปด้วย แต่ในด้านของคนที่โดนก็คงขำไม่ออกเหมือนกัน เพราะการถูก Ghosting มักทำให้คนเกิดความสับสน สูญเสียความมั่นใจ และมองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อยลง แถมหากโดนทำแบบนี้ใส่บ่อย ๆ ก็อาจเกิดความเจ็บปวดทางใจอย่างหนัก  เพราะการถูก Ghosting ก็ไม่ต่างจากการถูกกีดกันทางสังคม (Social rejection) ซึ่งงานวิจัยบอกว่า สามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับเราได้ไม่ต่างกับความเจ็บปวดทางกาย

นอกจากนี้ คนที่โดน Ghosting มักไม่รู้ด้วยว่าควรตอบโต้ยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงเกิดอาการคิดมาก วิตกกังวลต่าง ๆ เช่น เราควรโกรธเขาไหมที่ไม่ตอบเรา ? เขาประสบอุบัติเหตุและนอนโรงพยาบาลอยู่รึเปล่านะ ? หรือเขาจะกำลังยุ่งมากอยู่รึเปล่า ? เมื่อไม่มีสัญญาณใดบ่งบอกว่าทำไมพวกเขาถึงโดนเท พวกเขาก็จะเกิดความอึดอัดใจ อาจเกิดความเครียด ความกังวล ซึ่งอาจรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชได้

ทำอย่างไรดีเมื่อเราโดนเทแบบไม่มีการบอกกล่าว

เมื่ออยู่ดี ๆ คนที่เรารู้สึกดีด้วยหายไป ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน แฟน คนคุย หรือ ใครก็ตาม เป็นใครก็คงรู้สึกแย่ทั้งนั้น หลายคนอาจถึงขั้นไม่เป็นอันทำอะไรเลย คิดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน เราเลยอยากจะมาแนะนำวิธีการรับมือกับการถูกเทแบบไม่บอกกล่าว เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าได้เร็ว และกลับมามีความสุขในการใช้ชีวิตได้ดั่งเดิม

ให้เวลากับเขา

การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความสับสนไปเรื่อย ๆ แบบไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะอาจทำให้เราใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขยาวนาน และก่อให้เกิดความเครียดสะสมที่สามารถทำร้ายเราอย่างหนักได้ด้วย ดังนั้น  เราเลยควรตั้งเวลาจำกัดว่า เราจะรอเขาตอบกลับถึงเมื่อไหร่ หรือ  เราอาจลองส่งข้อความไปหาเขาว่า “ถ้าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง ตอบกลับหรือโทรมาสัปดาห์หน้าก็ได้นะ” หากเขาไม่ตอบกลับเมื่อถึงเวลาที่กำหนด เราก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะไปต่อ หรือ ออกมา

อย่าโทษตัวเอง
หลายคนมักโทษตัวเองบ่อย ๆ เวลาโดนคนอื่นทำเรื่องไม่ดี นิสัยนี้บั่นทอนจิตใจของเราพอสมควร และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรในการแก้ปัญหา เราเลยอยากแนะนำให้ คนที่ชอบโทษตัวเอง ลองเลิกคิดมากดู จะช่วยให้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ มันเป็นความจริงที่ว่า เราไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่จะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวเรา ดังนั้น อย่าด่วนสรุปและโทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง มันอาจเป็นปัญหาที่ตัวอีกฝ่ายก็ได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งคนที่หายไปแล้วกลับมาอีกครั้งก็มี เหมือนผีที่อาจกลับมาหลอกเราซ้ำอีกรอบ ถ้ามีโอกาสแบบนี้ ควรพูดคุยกันให้เคลียร์ ๆ ไปเลยว่าเรารู้สึกอย่างไร และความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ความชัดเจนจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้

ใช้เวลากับคนอื่นให้มากขึ้น

หลังจากโดนคนอื่นเทมา หลายคนน่าจะรู้สึกเศร้าและอยากอยู่คนเดียว แต่การอยู่คนเดียวนาน ๆ อาจทำให้เรายิ่งเหงา ยิ่งเศร้า และยิ่งจมกับปัญหาหนักกว่าเดิมได้ มันจะดีกว่าถ้าลองใช้เวลาร่วมกับคนอื่นให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน หรือ คนในครอบครัว รวมถึงคนอื่น ๆ ที่เราเชื่อใจและมีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน เพราะช่วงเวลาที่ดีช่วยให้เราผ่านทุกปัญหาไปได้เสมอ ไม่ว่าจะสถานการณ์นั้นจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม แถมการแชร์ปัญหาของตัวเองกับคนอื่นช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

เตรียมกายและใจให้พร้อม

เวลาคนตกอยู่ในความเศร้า สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เรามักจะมีอาการแย่ ๆ เกิดขึ้น เช่น นอนไม่พอ ซึมเศร้า กินข้าวน้อยลง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราแย่ลง และทำให้เราตกอยู่ในวงจรของความคิดลบได้ด้วย ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำเวลาเจอกับความเศร้า คือ พยายามรักษาสุขภาพกายและใจของตัวเองให้มีความพร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะเข้ามาอยู่เสมอ แล้วเราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไปได้ อาจลองทำในสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกถึงพลังบวก และเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา

รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

บางครั้งการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก็เป็นเรื่องยาก บางครั้งการขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง บางครั้งความเศร้าก็เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางจิต ต้องอาศัยความรู้ของจิตแพทย์ในการวินิจฉัยและรักษา หากตกอยู่ในความโดดเดี่ยว รู้สึกว่าไม่มีใครช่วยเราได้ เราอยากแนะนำให้ลองไปพบกับนักจิตวิทยา ผู้ให้คำปรึกษา หรือว่า นักบำบัด  พวกเขาอาจมอบคำแนะนำดี ๆ กลยุทธ์ในการรับมือกับความรู้สึก ที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้เร็วยิ่งขึ้น

สิ่งสุดท้ายที่เราอยากฝากเอาไว้ก็คือ เราไม่สามารถเข้าใจการกระทำของคนอื่นได้แบบ 100% แต่เราเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากที่สุด ถ้าใจเรารู้สึกว่า กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัด แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น บางทีเราอาจไม่ได้คิดมากไปเอง และมันอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างก็ได้ จึงควรพยายามหาคำตอบ และคลี่คลายความสงสัยนั้นให้เร็วที่สุด  

Appendixs: 1 / 2 / 3