FASHION

มาลดขนาดตู้เสื้อผ้าให้เหลือเพียง 33 ชิ้น แต่ยังเพียงพอต่อการใช้งานด้วย PROJECT 333 CHALLENGE

By: unlockmen February 2, 2021

หลังจากมีการพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์สำหรับกระแส Anti fast fashion ที่กำลังตื่นตัวไปทั่วโลก เมื่อธุรกิจแฟชั่นบนโลกทุนนิยมได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ร้ายตัวสำคัญที่สร้างมลพิษให้กับโลกของเราอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเสื้อผ้าที่เรียกว่า fast fashion ที่เล่นกับความเบื่อง่าย หน่ายเร็ว การผลิตสินค้าออกมาจำนวนมาก เน้นความรวดเร็ว กดต้นทุนให้ต่ำ และใช้วัสดุคุณภาพต่ำ เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งแล้วทิ้ง

แต่ทว่าการเร่งกระบวนการผลิตที่เน้นปริมาณมากแบบนั้น กลับนำมาซึ่งการทำลายสิ่งแวดล้อมมากมายไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสียออกสู่น้ำทะเล หรือการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถนำไปแปรรูปหรือขายต่อได้ และเกิดเป็นขยะตามมา

แม้ว่ากระแสบริโภคนิยมในยุค fast fashion จะมีมากมายเพียงใด แต่ในสังคมตะวันตก เริ่มมีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง มีหลักแนวคิดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลือกจัดสรรเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับยุคโลกาภิวัตน์ โดยมีหลักแนวคิดหนึ่งจากหนังสือ The Minimalist Fashion Challenge That Proves Less Really is So Much More ของ Courtney Carver ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจกับทุกคนให้หันมาใช้วิธี minimalism เพื่อเลือกเฉพาะเสื้อผ้าที่เราจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งได้รับความนิยมและมีการส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ออกไปจำนวนมาก จนเกิดเป็นแคมเปญ Project 333 และมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

สำหรับ Project 333 หากเราพูดหลักการง่าย ๆ คือการลดทอนไอเทมเสื้อผ้าของคุณให้เหลือเพียง 33 ชิ้น ต่อ 1 ซีซั่น (ฤดูกาล) ซึ่งทั้งหมดต้องรวมเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า และรองเท้า แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นสำหรับของบางอย่าง อาทิ แหวนแต่งงาน , กางเกงชั้นใน , ชุดออกกำลังกาย ,ชุดนอน

แนวคิดนี้ถูกเรียกว่า “capsule wardrobe” ที่ว่ากันว่ามันไม่ใช่ไอเดียแปลกใหม่อะไรมากนัก เพราะเคยมีการนิยามจำกัดความมาตั้งแต่ปี 1970 ในยุคแฟชั่นยังไม่ตื่นตัวมากขนาดนี้ แต่ทว่า Courtney Carver ได้นำกลับมาปัดฝุ่นใช้งานอีกครั้งในปี 2010 เนื่องจากเธอเชื่อว่าเพียงแค่ 33 ชิ้นก็เพียงพอต่อการใช้แล้วจริง ๆ ซึ่งหลังจากเธอได้ลองปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตแล้ว ก็พบมามีประโยชน์ต่อทั้งตัวเธอเอง และเป็นการป้องการลดโลกร้อนทางอ้อมอีกด้วย ซึ่งทาง UNLOCKMEN ก็ขอมาแชร์ประโยชน์จากการลดขนาดตู้เสื้อผ้าให้เหลือเพียง 33 ชิ้น กันว่ามีอะไรบ้าง

มีเวลา และเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น

หลายคนอาจจะ งง ว่าแค่เข้าร่วม Project 333 แล้วจะมีเวลามากขึ้น และเงินกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อคุณตั้งเป้าที่จะลดขนาดตู้เสื้อผ้าแล้ว สิ่งที่ผู้อ่านทุกคนจะได้กลับมาคือเวลาที่ไม่ต้องมานั่งสนใจกับการเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้า หรือแม้แต่กระทั้งการช้อปปิ้งออนไลน์ เป็นอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งหากลองวัดกันจริง ๆ กิจกรรมเหล่านี้บ้วนกินเวลาในชีวิตของคุณไปไม่ใช่น้อยในแต่ละวัน และเมื่อไม่ต้องจับจ่ายใช้สอยเงินไปกับเสื้อผ้า เครื่องประดับแล้ว ทีนี้ก็จะเหลือเงินในกระเป๋าไปทำกิจกรรม หรือใช้จ่ายกับเป้าหมายสำคัญอื่น ๆ ในชีวิตของคุณ
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น และไม่ต้องพะวงกับการแต่งตัวในตอนเช้า

เมื่อตู้เสื้อผ้าของคุณมีจำนวนน้อยชิ้นลง การพะวงกับเรื่องเลือกเสื้อผ้ามากมายก่ายกอง ที่ว่าวันนี้จะใส่อะไรดี คงจะหมดไป เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่คุณจะหาเสื้อผ้าที่ตั้งใจไว้สักชิ้นอาจจะต้องเสียเวลารื้อค้นไม่ต่ำว่า 5-10 นาที แต่เมื่อคุณมีเสื้อผ้าเพียงแค่ 33 ชิ้น ก็ไม่มีตัวเลือกอะไรให้คิดมากหนัก ที่สำคัญคุณจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่มารังสรรค์ outfit ในแต่ละวันให้ออกมามากยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความสนุกให้ตอนเช้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ได้ช่วยเหลือโลกทางอ้อม

อย่างที่เราได้กล่าวไปตอนต้นว่าธุรกิจแฟชั่นเป็นหนึ่งในตัวการของโลกร้อนที่ปล่อย carbon footprint ออกมาจำนวนมาก แม้ว่าหลายแบรนด์ทั่วโลกจะออกมาคำนึงถึงเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืนกันมากขึ้น แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่า หากยังมีการบริโภคนั้น โลกเราก็ยังถูกทำร้ายตามลำดับ ดังนั้นการที่เราไม่บริโภคเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็น ใช้อย่างพอดี คือการรักษาสิ่งแวดล้อมที่คุณสามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง

หลังจากที่เราทราบถึงประโยชน์ของการลดขนาดตู้เสื้อผ้าให้เหลือเพียง 33 ชิ้นว่ามีข้อดีอย่างใด แต่การที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้นถือเป็นกุญแจสำคัญมากเสียยิ่งกว่า ที่หนุ่ม ๆ จะต้องมาเตรียมตัวกันให้ดี หากอยากที่จะทำชาเล้นท์นี้ให้ประสบความสำเร็จ เราจึงมี Tip เบื้องต้นสำหรับเลือกไอเทม 33 ชิ้นให้อยู่หมัด ไม่พลาดตกหล่นอย่างแน่นอน

1. เตรียมไอเทม Basic ให้พร้อม

เราอยากจะให้ดอกจรรข้อนี้ไว้เลย เนื่องจากหากคุณอยากจะประสบความสำเร็จกับชาเล้นจ์นี้เสื้อผ้าของคุณจะต้องเพียงพอไปตลอด 3 เดือนเป็นอย่างน้อย โดยที่คุณสามารถใส่มันซ้ำวนไปมาได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ เราอยากจะให้คุณหลีกเลี่ยง เสื้อลายปริ้นท์เยอะ ๆ เนื่องจาก คนอื่นจะจำคุณได้ง่าย อีกทั้งไอเทมเหล่านั้นจะนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ยาก ดังนั้นพยายามเลือกไอเทมเบสิค อาทิ เชิ้ต , เสื้อยืด , กางเกงเดนิม , กางสแลค หรือแม้แต่กางเกงขาสั้น รับรองว่าใส่วนกันอย่างไรก็ไม่มีพลาด

2. อย่าลืมติดเสื้อแจ็คเก็ตไว้บ้าง

แม้ว่าอากาศบ้านเราจะขึ้นชื่อว่ามีเพียง 2 ฤดูกาล คือร้อน และร้อนมาก แต่เราก็อยากให้ทุกคนติดแจ็คเก็ต อาทิ ดาวน์แจ็คเก็ต ,สเวตเตอร์ ที่มีคุณสมบัติทั้งกันลม กันหนาว และมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ไว้เพื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้

3. กระเป๋าสักใบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

ข้อนี้เราไม่สามารถจะแนะนำลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละคนได้ บางคนอาจจะเหมาะกับการสะพายเป้ backpack หรือ กระเป๋า totebag ดังนั้นเราจึงอยากให้เลือกได้ตามความเหมาะสมของคุณได้เลย แต่สิ่งที่ต้องคำนึงอันเป็นสำคัญคือเรื่องของขนาดที่จะต้องจุของได้อย่างเพียงพอ เราอยากจะให้คุณเลือกเพียงแค่หนึ่งใบติดไว้ในลิสต์ และอย่าเลือกใบเล็กเกินไป จะได้ไม่ไปเกินโควต้าสิ่งของชิ้นอื่น ๆ

4. ชุดออกอีเว้นท์ต้องมา

ประการสุดท้ายต้องไม่ลืมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับออกงานต่าง ๆ ลองจินตนการถึงอีเว้นท์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น งานแต่ง , ประชุมงาน เตรียมเอาไว้ให้ดีอย่าให้พลาดต้องหลุดไปหาซื้อเมื่องานเข้ามาถึง

สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่าการซื้อเสื้อผ้าจะดูเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้จ่าย แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการที่มนุษย์เรามีความต้องการซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาก็เหมือนการไปกระตุ้นธุรกิจทุนนิยม fast fashion และทำลายโลกของเราทางอ้อมเช่นกัน ชาว UNLOCKMEN คนไหนที่สนใจกับ Project 333 สามารถทำได้แล้วสามารถเข้าไปเขียนผลลัพท์และความรู้สึกได้ที่ bemorewithless ว่าชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรหลังจากทำชาเล้นจ์ หรือสามารถมาแชร์ให้เราฟังทางเพจ UNLOCKMEN ด้วยก็ได้เช่นกัน

 


Source : 1

photo: 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line