DESIGN

ศิลปะและสังคมไทย : เรื่องใกล้ หรือไกลตัวในยุคปัจจุบัน

By: DR.TUI August 29, 2018

อาจเป็นเพราะการเริ่มต้นด้วยความเข้าใจของศิลปินหรืออาจเป็นเพราะความคิดแบบเหมารวมของผู้คนในสังคมไทยที่ว่า งานศิลปะและศิลปินเป็นสิ่งที่แปลกแยกไปจากสังคม ไม่ได้มาซึ่งประโยชน์อะไรต่อผู้ใดเลยนอกจากศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน จึงทำให้การชื่นชมและเข้าใจผลงานศิลปะกลายเป็นเรื่องไกลตัว จับต้องได้ยาก และดูจะห่างไกลจากชีวิตอันเร่งรีบของคนทั่วไปซะเหลือเกิน การชื่นชมงานศิลปะจึงเป็นเรื่องของบุคคลที่มีเวลาและมีทรัพย์สินมากจนเหลือกินเหลือใช้แล้ว ความคิดในลักษณะนี้อาจเป็นความคิดที่ถูกต้องในด้านหนึ่ง เพราะหากเปรียบเทียบเป็นสินค้าแล้ว ผลงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับ มักถูกซื้อขายให้กับผู้ที่มีฐานะดีในราคาที่สูง ไม่ต่างจากการจ่ายค่าบูชาพระเครื่องชื่อดังที่การซื้อขายแต่ละครั้งก็เป็นข่าวให้พูดถึงกันไป แต่สิ่งที่เป็นข่าวมักเป็นจำนวนหลักตัวเลขของราคาซะมากกว่า น้อยครั้งหรือแทบจะไม่เคยปรากฏว่าสื่อได้นำเสนอเนื้อหาสาระอันเป็นแก่นของผลงานราคาแพง ทำให้ผู้ที่มีฐานะปานกลางหรือผู้ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตนเองต่างลงความเห็นกันอยู่ในใจว่าพวกเขาไม่มีโอกาสครอบครองงานศิลปะดีๆ จากศิลปินชั้นเยี่ยมเหล่านั้น 

ART at DUKE, Gaysorn

ประเทศไทยมีศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพิ่มขึ้นทุกวัน มีสถาบันที่ให้การเรียนการสอนศิลปะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่แทบจะนับจำนวนสถานที่ฝึกสอนและจำนวนคนเรียนได้เป็นรายบุคคล การสนับสนุนให้ผู้คนเกิดการรับรู้ก็มีมากขึ้น แต่อย่าพึ่งพูดถึงการสะสมผลงานศิลปะเลย แม้แต่การไปชื่นชมผลงานศิลปะตามแหล่งที่จัดนิทรรศการต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากการเดินทางและค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามปกติก็ยังเป็นกิจกรรมลำดับท้าย ๆ ที่ผู้คนทั่วไปจะเลือกทำ หรืออาจไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำไป ทำให้แนวคิดที่ว่า เรื่องศิลปะเป็นสิ่งไม่จำเป็นสำหรับชีวิต กลายเป็นเรื่องจริง! หากมองในเชิงธุรกิจแล้ว ให้ศิลปะเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่มีละคร เกมโชว์ และสิ่งบันเทิงต่าง ๆ เป็นคู่แข่งในตลาดเดียวกัน

Art at DUKE, Gaysorn

ศิลปะคงเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่ไม่น้อย หากแข่งขันภายใต้วิธีการเดียวกัน เพราะในขณะที่คู่แข่งมีทุน มีเทคนิค มีรูปแบบเนื้อหาที่ผู้ชมเข้าใจได้ง่าย ผู้ชมยังได้ตื่นตาตื่นใจกับดารานักร้องหน้าตาหล่อสวย หัวเราะสนุกสนานกับบรรดาสารพัดตลก เร้าใจไปกับเกมโชว์ต่าง ๆ แม้แต่ร่วมลุ้นรางวัลที่สามารถมีส่วนร่วมได้ด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อแต่งตัวออกจากบ้านแล้วเดินทางไปหอศิลป์แห่งหนึ่งเพื่อชมงานศิลปะของศิลปิน เราอาจรู้สึกว่าโอกาสที่ศิลปะจะเข้าถึงจิตใจของผู้คนในสังคมดูจะมีน้อย แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่ศิลปะยังจะมีโอกาสได้เติบโตอีกมาก เพราะยังมีการตั้งคำถามว่าศิลปะคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และจะเข้าใจศิลปะได้อย่างไร การได้รับคำถามเหล่านี้ย่อมแสดงว่า ศิลปะได้รับความสนใจจากสังคมอยู่เสมอ ศิลปินที่มุ่งมั่นตั้งใจก็จะยืนหยัดสร้างสรรค์งานศิลปะและได้รับความสำเร็จเป็นรางวัลอันหอมหวาน

Art at DUKE, Gaysorn

ทุกวันนี้สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น สื่อต่าง ๆ นำเสนอข่าวสารที่หลากหลายขึ้น ผลงานศิลปะ เรื่องราวของศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ก็มีโอกาสได้ถูกหยิบยกมากล่าวถึงผ่านสื่อต่าง ๆ มากขึ้นแม้จะเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับความบันเทิงด้านอื่น ๆ แต่เมื่อความบันเทิงต่าง ๆ ถูกนำเสนอจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว การตัดสินใจเพื่อเลือกบริโภคก็จะเกิดขึ้น ผู้คนจะเริ่มหาทางเลือกใหม่ให้กับการใช้เวลาว่างของตนเอง เจียดเวลาจากการนั่งจมอยู่หน้าจอโทรทัศน์กับละครหลังข่าวและเกมโชว์อันลุ้นระทึก ลองคิดดูว่า เมื่อผู้คนออกจากบ้านไปชื่นชมงานศิลปะ แม้ว่าจะเข้าใจหรือไม่ก็ตามที แต่ทำให้เขามีความสุขทางจิตใจมากขึ้น มีความอ่อนโยนและเป็นมิตรกับผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น สังคมไทยเราจะน่าอยู่เพียงใด ถ้าศิลปินและผู้เกี่ยวข้องเริ่มต้นวันนี้เมื่อมีโอกาส ประเทศไทยก็จะเป็นประเทศสำคัญ ที่มีการเติบโตของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างยั่งยืน

DR.TUI
WRITER: DR.TUI
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line