FASHION

อัพเดทเทรนด์ซัมเมอร์นี้ กับ BEAMS แบรนด์สตรีทแวร์คุณภาพระดับโลกชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น

By: LIT April 9, 2018

สำหรับแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์สุดครีเอทคุณภาพระดับโลกจากญี่ปุ่นแล้วก็คงไม่พลาด BEAMS อย่างแน่นอน จากการที่สร้างความประหลาดใจให้แฟน ๆ เสื้อผ้าสไตล์เฉพาะตัวในแบบฉบับญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวแบบที่เราคาดไม่ถึงมาโดยตลอด

แน่นอนว่าคอลเลคชั่นใหม่จาก BEAMS ใน SPRING SUMMER 2018 ไม่ทำให้สาวกที่รอคอยต้องผิดหวัง กับการออกแบบในแนวคิดหลักของคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2018 นี้ ในแต่ละไลน์สินค้าเสื้อผ้าคุณภาพจากแบรนด์ระดับแนวหน้าอย่าง BEAMS ในแต่ละแบรนด์มีแนวคิดอย่างไรบ้างสำหรับคอลเลคชั่นนี้

BEAMS
แนวคิด “TOO MUCH”

ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1976 มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายผู้ชายสวมใส่สบายสำหรับทุกวัน ภายใต้แนวคิด “Basic & Exciting” โดยนำเทรนด์ที่หลากหลายจากทั่วโลกมาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้าลำลองชิ้นเบสิคในสไตล์ชุดกีฬา ชุดทำงาน และชุดทหาร ผสมผสานกับสไตล์ไอวี่ ร็อค เซิร์ฟและสเกต เพื่อสร้างสรรค์ลุคลำลองที่ดูทันสมัย

แนวคิดหลักของคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2018 นี้ คือ “TOO MUCH” ซึ่งหมายถึง มากเกินไป โดยนำสไตล์การแต่งกายที่ทันสมัย ชุดกีฬา ชุดทหาร และชุดอเมริกันดั้งเดิม มาผสมผสานกัน ทำให้เกิดลุคใหม่ที่ประกอบไปด้วยกลิ่นอายของแต่ละสไตล์ผสมกัน อีกทั้งยังมีการใช้ไอเท็มขนาดโอเวอร์ไซส์และการเติมเทคโนโลยีลงในเนื้อผ้า ควบคู่กับแบบและสีสันต่าง ๆ โดยไม่มีการแบ่งประเภท ไม่มีกฎเกณฑ์ และไม่มีคำว่ามากเกินไปในการสร้างสรรค์สไตล์สำหรับฤดูกาลนี้

 

BEAMS+
แนวคิด “SEA SIDE STORY”

ถือกำเนิดเมื่อปี ค.ศ.1999 มีชื่อเสียงด้านความสามารถในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายผู้ชายสไตล์อเมริกันคลาสสิค โดยมีพื้นฐานมาจากการดีไซน์ชุดตามฟังก์ชั่นการใช้งาน 4 ประเภท ได้แก่ ชุดอเมริกันดั้งเดิม ชุดทำงาน ชุดกีฬา และชุดทหาร ซึ่งมาจากการแบ่งประเภทเครื่องแต่งกายตามวิถีชีวิตที่หลากหลายในช่วงยุคทองของอเมริการะหว่างกลางยุค 40s ถึงกลางยุค 60s นั่นเอง โดยนำเสนอความสวยงามเหนือกาลเวลาของการออกแบบเพื่อการใช้งานของแฟชั่นชุดยูนิฟอร์ม และมุ่งที่จะคงธรรมเนียมการออกแบบเช่นนี้ไว้โดยปรับให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน

แนวคิดหลักสำหรับคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ปีนี้คือ “SEA SIDE STORY” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งกายสไตล์รีสอร์ต และวิถีชีวิตตามชายฝั่งตะวันออกช่วงฤดูร้อนกลางยุค 50s ถึงกลางยุค 60s โดยดึงมาจากฉากของเทศกาลดนตรี “New Port Jazz Festival” ที่มีเวทีกลางแจ้งและการบรรเลงเพลงแจ๊สในเทศกาลดนตรีกลางฤดูร้อน ผู้คนต่างยิ้มแย้ม เต้นรำ และเคลิบเคลิ้มกับจังหวะไปด้วยกันที่เกาะโคนี่ (Coney Island) เป็นการพักผ่อนช่วงฤดูร้อนในอุดมคติที่ผู้คนสามารถมีความสุขอยู่กับตัวเอง หยิบยกเรื่องราวเหล่านี้รังสรรค์ออกมาเป็นคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายสไตล์ชุดทหารที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดของเจ้าหน้าที่ Catapult officer ของทหารเรืออเมริกันและเสื้อผ้าสไตล์อเมริกันดั้งเดิม โดยมีเสื้อเชิ้ต เสื้อแจ็คเก็ต เสื้อเชิ้ตโปโล และเสื้อถักสำหรับฤดูร้อน เป็นไอเท็มหลักของคอลเลคชั่น พร้อมใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเพิ่มสีสันลงบนเนื้อผ้าดั้งเดิม ทำให้ได้ลุคที่ดูทันสมัยและคลาสสิคไปพร้อม ๆ กัน

 

Vaporize
แนวคิด “SAVAGE”

นำเสนอสไตล์ทันสมัยแบบคนเมืองโดยได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรี ซึ่งมาจากการที่ James Iha มือกีต้าร์จากวง Smashing Pumpkins เป็นผู้ดูแลแบรนด์นั่นเอง

ในคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2018 VAPORIZE นำเสนอสไตล์ฮิปฮอปภายใต้ธีม“SAVAGE” หรือความเท่ ผ่านการสร้างสรรค์สไตล์เรียบหรูแบบร่วมสมัย แตกต่างจากสไตล์ฮิปฮอปแบบเก่าที่มักจะเป็นเสื้อผ้าทรงหลวมโคร่ง โดยเลือกใช้กางเกงเข้ารูปเพื่อทำให้ลุคดูทันสมัย และเน้นไอเท็มชุดกีฬา อาทิ ชุดแทร็คสูทเสื้อแจ็คเก็ตซิปหน้าและกางเกงเข้าชุดกัน เสื้อเบสบอล และกางเกงบาสเกตบอล ซึ่งออกแบบให้เป็นแบบฮิปฮอปที่ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของแบรนด์ พร้อมเลือกใช้สีเบจ สีเบอร์กันดี และสีน้ำตาล เป็นสามสีหลัก

 

Ray BEAMS
แนวคิด “Dress Me Up and Dress Me Down”

เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.1984 ในฐานะคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายผู้หญิงครั้งแรกของ BEAMS นำเสนอสไตล์ผสมผสานระหว่างการแต่งกายอิงตามกระแสแฟชั่นกับไอเท็มชิ้นเบสิค ภายใต้แนวคิด“The Way of Chic” โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นที่ที่ทำให้ผู้หญิงได้ค้นพบวิถีชีวิต การแต่งกาย และทุก ๆ วันที่ดูชิคในแบบของตัวเอง

ธีมของคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2018 คือ “Dress Me Up and Dress Me Down” ซึ่งนำเสนอการเล่นเลเยอร์หลายชั้นและสไตล์แฟชั่นที่หลากหลายตามคำว่า “Dress Me Up” ในขณะที่ “Dress Me Down” นำเสนอสไตล์ที่ออกนอกกรอบ แต่ยังออกแบบให้ดูสมดุล ด้วยการเพิ่มเสื้อแบบคอเสื้อถ่วงไปด้านหลัง และเสื้อเปิดไหล่ และมีเพิ่มความเป็นผู้หญิงและความสง่างามให้กับสไตล์สตรีทด้วยรายละเอียดอย่างเสื้อที่มีระบายขนาดใหญ่ ผ้าบางเนื้อเชียร์ หรือผ้าออร์แกนดี้ ทำให้หัวใจสำคัญของคอลเลคชั่นนี้คือการนำเสนอ “สไตล์ผสมผสาน” กับองค์ประกอบที่หลากหลาย

 

BEAMS BOY
แนวคิด “TRADITIONAL ODYSSEY”

เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.1998 ในฐานะแบรนด์เครื่องแต่งกายไพรเวทเลเบลสำหรับผู้หญิงที่ชื่นชอบเครื่องแต่งกายผู้ชายแบบต้นตำรับโดยเน้นการใช้งานและความคงทน คอลเลคชั่นมีกลิ่นอายเสื้อผ้าสไตล์ผู้ชายอย่างโดดเด่น และประกอบไปด้วยไอเท็มหลายชิ้นที่เป็นเอกลักษณ์
ในปี 2018 นี้ BEAMS BOY ฉลองครบรอบ 20 ปีโดยการนำเสนอผ่านคอลเลคชั่น “TRADITIONAL ODYSSEY” โดยถือโอกาสนี้ กลับมานำเสนอสไตล์ดั้งเดิมของแบรนด์ ซึ่งได้สร้างขึ้นตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คำว่า “Odyssey” หมายถึง การใช้ความคิดในการสำรวจค้นคว้า ซึ่งพ้องไปกับเป้าหมายของแบรนด์ในการกลับไปศึกษาอดีตเพื่อเดินทางสู่อนาคต ในคอลเลคชั่นนี้ BEAMS BOY กลับมาเน้นไอเท็มที่เป็นต้นฉบับในแต่ละประเภท อาทิ ชุดทำงาน ชุดทหาร ไอวี่ สปอร์ต และชนเผ่า โดยนำเสนอสไตล์ผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ และคัดเลือกไอเท็มที่หลากหลายมาไว้ด้วยกัน

 

RBS

RBS คือแบรนด์ที่แตกย่อยมาจาก Ray BEAMS เป็นแบรนด์สำหรับผู้หญิงที่รักในแฟชั่นอย่างแท้จริงโดยไม่มีขอบเขตใด ๆ RBS นำเสนอการแต่งกายร่วมสมัยด้วยสไตล์เรียบ ๆ แบบไม่ต้องพยายาม แฝงกลิ่นอายความเป็นผู้ชายในแบบ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ ทำให้คอลเลคชั่นประกอบไปด้วยไอเท็มที่ประณีต ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและพิถีพิถันในรายละเอียดอย่างแท้จริง

maturely
แนวคิด “ROMANCE”

คือแบรนด์ที่แตกออกมาจาก BEAMS BOY เมื่อปี 2017 ด้วยแนวคิดหลักคือ “MODETRAD (mode and trad ทันสมัยและดั้งเดิม)” ซึ่งนำเสนอคอลเลคชั่นที่ตีความแฟชั่นแบบดั้งเดิมให้มีความร่วมสมัยและสวยงาม
คอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2018 ใช้แนวคิด “ROMANCE” ซึ่งหมายถึงความรักและการผจญภัย โดยได้แรงบันดาลใจจากการพบเจอและความผูกพันอันมีค่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ นำเสนอผ่านการออกแบบรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ กระดุมแบบจีน ผ้ารัดเอว และเข็มขัดเชือก บนเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และใส่ลูกเล่นเพื่อเพิ่มความหวานอย่าง ลูกไม้ cutwork งานปัก และลายตารางกิงแฮม เลือกใช้สีชมพูเปลือกหอยและสีฟ้าอ่อนเป็นสีหลัก ทำให้คอลเลคชั่นนี้มีชีวิตชีวาและขี้เล่น

ติดตามข่าวสาร BEAMS เพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/beamsthailandofficial/

LIT
WRITER: LIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line