MOVIE GUIDE : 10 บทบาทการแสดงเยี่ยมยอด ก่อนทิ้งทวนวงการของยอดคนอึด Bruce Willis

ตอนนี้แฟน ๆ UNLOCKMEN คงทราบข่าวช็อควงการของนักแสดงฉายา “คนอึด” Bruce Willis ที่ขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับอาการ Aphasia หรือ “สภาวะบกพร่องทางด้านการสื่อความ” จนไม่สามารถแสดงหนังได้อีกต่อไป และครอบครัวได้ประกาศการอำลาวงการไปแล้ว

แน่นอนว่าได้สร้างความรู้สึกทั้งช็อค ทั้งเสียดาย และเสียใจ ในฐานะพระเอกที่สร้างผลงานมากมายมาตลอดกว่า 30 ปี บนจอ และเพื่อสดุดีผลงานยิ่งใหญ่ที่ Bruce Willis ได้ฝากผลงานที่ตราตรึงเอาไว้ UNLOCKMEN จึงขอรวบรวม 10 ผลงานยอดเยี่ยม ที่แฟน ๆ ต้องหาชม กับผลงานการแสดงที่ดีที่สุดของเขาเป็นการทิ้งทวนไปด้วยกัน

Die Hard (1988)

นี่คือหลักไมล์สำคัญ ที่เปลี่ยนสถานะของนักแสดงที่เริ่มต้นจากตัวประกอบ สู่นักแสดงตลกบนจอทีวี กระทั่งปี 1988 Bruce Willis ก็ได้รับโอกาสในหนังแอ๊คชั่นเรื่องยิ่งใหญ่ Die Hard หลังจากที่พระเอกนักบู๊มากมายต่างปฏิเสธที่จะรับบทนี้ จนผู้กำกับ John McTiernan เลือก Bruce ที่ไม่มีคราบของพระเอกหนังแอ๊คชั่นสักนิดเดียว แต่กลับกลายเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก เพราะบทบาท John McClane คือบทบาทพระเอกบู๊ติดดิน ที่มีความสมจริงและความกวนตีนอยู่เต็มที่ ทำให้หนังเรื่องนี้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์หนังแอีคชั่นโดยสิ้นเชิง ด้วยการผสมผสานการสู้แบบลุยเดี่ยว และการแก้สถานการณ์แบบชิงไหวชิงพริบ ทำให้ Bruce แจ้งเกิดในฐานะพระเอกแอ๊คชั่นอย่างเต็มตัวจนได้รับฉายาว่า “คนอึด” และหนังก็ได้ไปต่อจนเป็นหนังชุดที่ทรงคุณค่าจำนวน 5 ภาคเลยทีเดียว

Death Becomes Her (1992)

หนังตลกร้ายที่อัดแน่นไปด้วยซีจีและความเพี้ยนแบบเต็มพิกัดนี้ เล่าถึง 2 สาวที่ได้รับยาอมตะที่ต้องมาปะทะกันเพื่อแย่งผู้ชายที่ทั้งคู่รักไว้ในครอบครอง และชายคนนั้นก็คือ Bruce Willis นั่นเอง นับเป็นบทบาทสำคัญที่เปิดโอกาสให้เขา ได้แสดงศักยภาพความตลกแบบเหนือชั้น โดยเกรงกลัวบารมีของ 2 นักแสดงคุณภาพอย่าง Meryl Streep และ Goldie Hawn เลย โดยผู้กำกับ Robert Zemeckis เอ่ยปากชม Bruce ว่า “ท่ามกลางการปะทะคารมของสองนักแสดงคุณภาพ Bruce กลับตั้งรับมุขตลกของสองสาวได้อย่างร้ายกาจ และเด็ดดวงไม่แพ้กัน”

Pulp Fiction (1994)

ท่ามกลางช่วงเวลาขาลงของ Bruce หลังจากที่ผลงานในช่วงเวลานั้นอย่าง Hudson Hawk, Billy Bathgate และ Bonfire of the Vanities ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ และทำรายได้ยอดแย่ เขาก็ได้รับโอกาสทองจากผู้กำกับที่ตอนนั้นยังไม่มีชื่อเสียงเท่าไหร่อย่าง Quentin Tarantino ที่อยากกอบกู้ชื่อเสียงของนักแสดงที่ตกต่ำในช่วงนั้นอย่าง John Travolta โดย Bruce ก็อยู่ในลิสต์นั้นพอดี แต่หนังเรื่องนี้กลับเป็นการคัมแบ๊คอย่างงดงามของเขา ในบทนักมวยที่เกือบเสียท่าทางประตูหลังให้กับโจร ก่อนจะใช้ดาบซามูไรจัดการ ซึ่งเขาคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้หนังอาชญากรรมสุดคัลท์นี้เป็นที่กล่าวขวัญถึงจนปัจจุบัน

The Fifth Element (1997)

ขณะที่องค์ประกอบความเพี้ยนความกาวของหนังไซไฟหลุดโลกของผู้กำกับ Luc Besson มีอยู่มากมาย ตัว Bruce กลับโดดเด่นในคาแรคเตอร์คนแสนธรรมดาที่อยู่ท่ามกลางหมู่คนเพี้ยนที่ไล่ตั้งแต่นางเอกยันตัวร้าย แต่ถึงแม้ว่าหนังแห่งโลกอนาคตนี้จะเต็มไปด้วยความพิลึกพิลั่นและความคัลท์แบบสุดขั้ว แต่ Bruce ก็ดึงเรากลับสู่โลกแห่งความจริงด้วยคาแรคเตอร์ที่เต็มไปด้วยพลัง จนทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นหิ้งและมีแฟนเดนตายที่ดูเรื่องนี้เป็นสิบๆรอบได้อย่างไม่มีวันเบื่อเลย

12 Monkeys (1997)

ในปี 1997 Bruce ไม่ได้มีแค่ The Fifth Element เท่านั้นที่เป็นผลงานหนังไซไฟ แต่ยังมี 12 Monkeys อีกด้วย หนังเกี่ยวเดินทางข้ามเวลา ที่ Bruce ต้องปะทะฝีมือกับ Brad Pitt ในบทบาทสุดเพี้ยนนี้ ได้รับคำชมในฐานะหนังไซไฟสุดเจ๋ง ที่เล่าถึงช่วงเวลาโลกล่มสลายที่เต็มไปด้วยความสนุกและไอเดียบรรเจิด ในขณะเดียวกัน Bruce ก็ได้แสดงซีนโรแมนติกที่แปลกและแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่เขามักจะรับแต่บทแอ๊คชั่นโลดโผน จนเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำในเส้นทางการแสดงของเขาเลยทีเดียว

Armageddon (1998)

หากเอ่ยชื่อของ Bruce แล้วไม่มีหนังเรื่องนี้อยู่ในลิสต์ แฟนเดนตายคงพากันโวยวายเป็นแน่แท้ เพราะหนังแอ๊คชั่นภัยพิบัติผลงานการกำกับของ Michael Bay ในยุคที่ยังทำหนังแอ๊คชั่นเจ๋งๆเรื่องนี้นั้น ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของยุค 90s ที่ทั้งสนุก ซาบซึ้ง และกวนบาทาในคราวเดียวกัน โดย Bruce รับบทพ่อของ Liv Tyler ที่เป็นฮีโร่ที่เดินทางออกนอกโลกเพื่อหยุดยั้งอุกาบาต ก่อนที่เขาจะเสียสละครั้งสำคัญ แน่นอนว่าแม้หนังจะได้รับคำวิจารณ์ในระดับก้ำกึ่ง แต่ฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องที่ Bruce แสดงนั้น ใครบ้างที่ไม่หลั่งน้ำตาในความซาบซึ้งใจในฉากนี้

The Sixth Sense (1999)

ก่อนจะปิดท้ายยุค 90s Bruce ก็ได้ขึ้นชื่อปรากฏในหนังดรามาสยองขวัญเรื่องสำคัญ ที่ได้รับการขนานนามว่า “หนึ่งในหนังผีที่ดีที่สุดตลอดกาล” โดย Bruce รับบทเป็น Malcolm Crowe นักจิตวิทยาเด็กที่ต้องดูแลหนุ่มน้อยที่รับบทโดย Haley Joel Osment ที่บอกเอ่ยวลีว่า “ I See Dead People” จนกลายเป็นคำฮิตในยุคนั้น แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นหนังเล็กที่ฮิตทำรายได้ถล่มทลายแล้ว ยังเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ๆบนเวทีออสการ์ด้วย เพราะตอนจบหักมุมที่ทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นหิ้งหนังคลาสสิคตลอดกาล

Unbreakable (2000)

และจากหนังเด็กเห็นผี M. Night Shyamalan ก็เห็นในศักยภาพของตัว Bruce จึงจัดต่ออีกเรื่องในหนังลี้ลับสุดหลอน เรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาที่รอดตายเพียงคนเดียวจากเหตุรถไฟชนกันอย่างเป็นปริศนา จนเขาต้องร่วมกันค้นหาคำตอบนี้ร่วมกันกับ Samuel L. Jackson ซึ่งยิ่งค้น ยิ่งพบว่าตัวเขาเองนั้นอาจจะไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่คาดคิด หนัง M. Night ยังคงเก็บงำบางสิ่งเพื่อเฉลยในตอนสุดท้าย และ Bruce ก็ยังคงมอบการแสดงที่เหนือชั้น และกุมความลับทั้งหมดไว้เฉลยในตอนท้ายอย่างแยบยลเช่นเคย

Sin City (2005)

แม้ตัวละครในหนังที่สร้างจาก Graphic Novel ผลงานของ Frank Miller ที่โดดมากำกับร่วมกันกับ Robert Rodriguez เรื่องนี้จะมีมากมาย แต่ Bruce ก็โดดเด่นในฐานะ ผู้อยู่กึ่งกลางระหว่างโลกมืดและโลกสว่าง ที่ผันตัวจากนักสืบผู้รักษากฏหมาย ก่อนจะกลายร่างเป็นมือปืนสุดเหงาที่มีเป้าหมายล้างแค้นในเมืองคนบาปแห่งนี้ ถึงแม้ Mickey Rourke จะเป็นตัวขโมยซีนและเป็นหัวใจหลักสำคัญ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Bruce คือกระดูกสันหลังที่หลอมรวมเรื่องราวทุกอย่างจากหลากหลายคาแรคเตอร์ให้กลายเป็นจักรวาลที่เต็มไปด้วยความตายและเลือดได้อย่างทรงพลัง

Moonrise Kingdom (2012)

แม้ปี 2012 Bruce จะมีผลงานไซไฟไอเดียเจ๋งอย่าง Looper แต่ผลงานที่น่าจดจำและเซอร์ไพรส์กว่า กลับเป็นหนังอินดี้สุดแสนจะอบอุ่น ที่แทบจะไม่มีเค้าโครงของความเป็นคนอึดอยู่ในจอหนังเลย ใน Moonlight Kingdom หนังละมุนของผู้กำกับ Wes Anderson ที่เล่าเรื่องความน่ารักน่าชังของรักแรกของเด็กวัย 12 ในค่ายลูกเสือนี้ คร่าครำไปด้วยนักแสดงผู้ใหญ่ที่ต่างมองความรักแสนหวานนี้ด้วยสายตาเอ็นดู แต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือบทบาทของ Bruce ที่มอบช่วงเวลาอันแสนละมุน และเป็นการทิ้งทวนการแสดงอันยอดเยี่ยมเป็นเรื่องสุดท้ายของเขาก่อนจะวางมือจากงานคุณภาพแล้วไปเล่นหนังแอ๊คชั่นเต็มสูบในภายหลัง

และนี่ผลงานเยี่ยมยอดทั้ง 10 เรื่อง ของ Bruce Willis ที่ Unlockmen แนะนำให้ดู จะเห็นได้ว่าสำหรับนักแสดงคนอึดคนนี้ ไม่ใช่เพียงหนังแอ๊คชั่นสาดกระสุนเท่านั้นที่เป็นเขาถนัด แต่ทางดราม่าที่แสดงศักยภาพทางการแสดงเขาก็เจ๋งไม่แพ้กัน สำหรับ Unlockmen แล้ว Bruce Willis ไม่ใช่เพียง “คนอึด” ในโลกของภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็น “คนจริง” ที่ฝากงานแสดงสุดยอดบนโลกภาพยนตร์นี้ตราบนานเท่านาน